ตอนที่ 3
ในที่สุดเวลาการประมูลนางฟ้าของค่ำคืนนี้ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว โรสริน หญิงสาวที่เร่าร้อนและสุดแสนจะเซ็กซี่ที่ยืนหันหลังอยู่หลังผ้าม่านสีทองกลางเวที
วันนี้หญิงสาวสวมใส่ชุดราตรียาวรัดรูปสีเงินปักเลื่อมระยิบระยับไปทั้งชุด ด้านหน้าของชุดผ่าลึกอวดอกอวบใหญ่น่าจับต้องเป็นที่สุด
ส่วนกระโปรงผ่าสูงขึ้นมาจนถึงโคนขา อวดปลีน่องขาวผ่องเป็นยองใยน่าสัมผัสไม่แพ้กัน เรียกเสียงวิ้ดวิ้วจากบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่มารวมตัวกันในผับหรูของค่ำคืนนี้จนแน่นขนัด
โรสรินขยับก้าวเดินอวดเรือนร่างพร้อมกับชม้อยตามองส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มไปรอบๆ เวทีเพื่อให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่หมายปองในตัวเธอได้เห็นกันชัดๆ ว่าเธอคือนางฟ้าที่สามารถจับต้องได้ภายในคืนนี้หากใครใจถึงและเงินถึงประมูลเธอได้ไปเป็นเจ้าของในค่ำคืนนี้
โรสรินยังเดินโปรยยิ้มหวานไปรอบๆ เวที ก่อนที่สายตาจะไปกระทบเข้ากับหนุ่มต่างชาติหน้าตาหล่อเหล่าปานเทพบุตร ที่สำคัญชายหนุ่มนั่งอยู่ในที่นั่งวีไอพีที่มีราคาแพงที่สุดของผับ ซึ่งมันสามารถบอกเธอได้เลยว่าชายหนุ่มต้องมีฐานะที่ร่ำรวยอย่างมากทีเดียว โรสรินจิกสายตาเชิญชวนให้กับอีกฝ่ายอย่างเปิดเผยว่าเธอต้องการเค้ามากมายเพียงใด
และเหมือนไบรอันเองก็จะมองสายตาเชิญชวนของเธอออก ก่อนจะยิ้มหยันออกมาแล้วเอื้อมมือไปคว้าแก้วบรั่นดีมาถือไว้ในมือก่อนที่จะยกชูขึ้นสูงให้กับโรสรินเสมือนกับเป็นการตอบรับคำเชิญชวนของเธอ แล้วพิธีกรของผับก็เดินออกมายืนอยู่เคียงข้างกับนางฟ้าที่จะทำการประมูลในค่ำคืนนี้
“ไบรอัน งานเริ่มแล้วโว้ย แกดูสิ วู้”
“เออ เห็นแล้ว”
“ค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มต้นการประมูลนางฟ้าในค่ำคืนนี้กับเลยนะคะ ราคาเริ่มต้นในการประมูลนางฟ้าเริ่มต้นที่หนึ่งแสนบาทค่ะ”
จัสมินผู้จัดการสาวเริ่มต้นเปิดการประมูลที่ราคาเริ่มต้นหนึ่งแสนบาททันที ลูกค้าที่อยู่ในผับและเหล่าพนักงานต่างพากันยืนมองมาที่เวทีเพื่อช่วยกันลุ้นการประมูลนางฟ้าในค่ำคืนนี้
“แสนห้า”
ชายร่างเตี้ยตะโกนขึ้นเสียงดังเป็นคนแรก ก่อนที่จะมีเสียงของบรรดาหนุ่มๆ กระเป๋าหนักจะแย่งกันประมูลกันอย่างถึงพริกถึงขิง
“สองแสน”
“สองแสนห้า”
“สามแสน”
“โอ้โห!!..สามแสนแล้วพี่พราว พี่โรสรินนี่ไม่เบาเลยจริงๆ ดูสิ เปิดประมูลไม่ทันไรเลยนี่ขึ้นมาสองแสนแล้ว” เพื่อนร่วมอาชีพของโรสรินพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“นี่เพียงแค่เริ่มต้นเอง มันยังไต่ระดับขึ้นไปได้อีกเยอะคอยดูสิ”
พราวตา หัวหน้าต้อนรับลูกค้าพูดบอกออกมาอย่างคาดเดาในการประมูลนางฟ้าในครั้งนี้
“ประมูลนางฟ้าไปถึงไหนแล้วคะพี่พราว”
เกวลินที่ยอมละจากการนั่งทำบัญชีขอแวบออกมาดูการประมูลนางฟ้ากับเค้าด้วยเช่นกันร้องถามรุ่นพี่ขึ้นทันทีที่เดินมาถึง หญิงสาวมองจ้องไปยังเวทีที่ตระการตาไปด้วยแสงสีเสียงและหญิงงามที่ยืนอวดเรือนร่างเย้ายวนใจอยู่กลางเวที
และก็อดแปลกใจไปกับผู้ชายพวกนี้ไม่ได้ว่าเพราะอะไรพวกเค้าจึงต่างยอมที่จะเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อแลกกับการมีเซ็กซ์กับผู้หญิงสาวสวยเพียงแค่คืนเดียวเช่นนี้ ในสมองของคนเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่ เกวลินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเสียดายเงินที่ผู้ชายพวกนี้แย่งกันประมูลโรสรินกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ก็อย่างที่เกวเห็นนั่นแหละ ตอนนี้เงินพุ่งสูงขึ้นไปมากน่าดูเลย เผลอๆ อาจจะแตะที่ห้าแสนก็เป็นได้นะพี่ว่า”
พราวตาพูดบอกออกมาอย่างมองเห็นเค้าลางของความเป็นไปได้ในการประมูลนางฟ้าในค่ำคืนนี้
“หา! ห้าแสน! จริงเหรอพี่พราว ทำไมมันถึงได้มากมายก่ายกองขนาดนั้นล่ะพี่ โอย! เกวไม่อยากจะเชื่อเลยให้ตายสิ”
เกวลินทำท่ายกมือขึ้นทาบหน้าอกตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปมองที่เวทีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเสียงของจัสมินประกาศเร่งเร้าในการประมูล ว่าจะเริ่มยุติการประมูลนางฟ้าให้กับผู้ที่ให้ราคามากที่สุดในค่ำคืนนี้แล้ว
“สามแสนห้าหมื่นบาทครั้งที่หนึ่ง...สามแสนห้าหมื่นบาทครั้งที่สอง...สามแสนห้าหมื่นบาท...”
ระหว่างที่จัสมินกำลังจะยุติการประมูลนั้น โรสรินก็หันไปมองไบรอันแล้วยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ จิกสายตาเชิญชวนชายหนุ่มอย่างเต็มที่บ่งบอกว่าค่ำคืนนี้เธอปรารถนาเขาเพียงคนเดียว
ยังไม่ทันที่จัสมินจะพูดจบประโยค เสียงดังกึกก้องของใครคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาทันที
“ห้าแสนบาท”
เสียงของไบรอันดังขึ้นมากึกก้อง แสงสปอตไลท์ส่องสว่างไปที่ร่างของชายหนุ่มแทบจะทันที และมันก็เรียกเสียงฮือฮาในการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่น้อย เพราะราคาในการประมูลครั้งนี้ถือว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดนับตั้งแต่มีการประมูลนางฟ้ามาเลยก็ว่าได้ ความหวังของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างดับวูบลงทันที ไม่มีเสียงจากหนุ่มคนไหนเลยที่จะยอมให้ราคาที่สูงมากไปกว่านี้แล้ว
แม้กระทั้งจัสมินเองก็ตกใจไปกับจำนวนเงินที่มีผู้เสนอขึ้นมาไม่ใช่น้อย ก่อนที่จะรีบดำเนินงานต่อเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“ห้าแสนบาทครั้งที่หนึ่ง ห้าแสนบาทครั้งที่สอง ห้าแสนบาทครั้งที่สาม โรสรินเป็นของคุณในค่ำคืนนี้แล้วค่ะ และขอปิดการประมูลนางฟ้าแต่เพียงเท่านี้นะคะ”
‘ที่แท้ก็ฝรั่งบ้าตัณหาคนนี้นี่เอง’ เกวลินพูดในใจอย่างนึกเคือง เมื่อเห็นโรสรินเดินนวยนาดลงจากเวทีไปทันที หญิงสาวเดินยักย้ายส่ายสะโพกไปหาชายหนุ่มที่ประมูลเธอได้อย่างมีจริตจะก้านแล้วทรุดนั่งลงบนตักของชายหนุ่ม สองมือโอบกอดรอบคอชายหนุ่มไว้แน่นเหมือนจะบอกให้เค้ารู้ว่าคืนนี้เธอจะมอบความสุขให้กับเค้าไปตลอดทั้งคืน
เกวลินมองจ้องใบหน้าของชายหนุ่มนิ่ง และเหมือนไบรอันจะรู้ว่ามีคนกำลังจ้องมองเค้าอยู่ สายตาคมตวัดมองไปรอบตัวเอง ก่อนจะไปปะทะเข้ากับดวงตากลมโตแสนหวานที่ยืนอยู่ตรงแสงไฟเข้าพอดิบพอดีเกวลินรีบหลบสายตาชายหนุ่มทันทีที่เค้ามองจ้องมาตาไม่กะพริบ ก่อนจะเดินเลี่ยงกลับเข้าไปด้านหลังพร้อมกับอารมณ์ที่ขุ่นมัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“ไปกันเลยมั้ยไบรอัน...ช้าไปเดี๋ยวมันจะไม่คุ้มกับเงินที่นายต้องจ่ายออกไป” รามิลพูดบอกเพื่อนรัก
“ก็ไปสิ...จัดการเรื่องเงินด้วยนะโจนาธาน”
ไบรอันหันมาพูดสั่งกับบอดี้การ์ดของตน โจนาธานโค้งรับคำสั่งแล้วเดินไปหาจัสมินซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน ส่งบัตรเครดิตให้อีกฝ่าย จัสมินยื่นมือรับเอาไว้พร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้กับอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปที่เครื่องรูดบัตรเคดิตที่เคาร์เตอร์เพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย
กว่าทั้งหมดจะได้ออกมาจากผับก็กินเวลาเกือบจะเที่ยงคืน รามิลพาสาวสวยที่เลือกเอาไว้ไปคอนโดส่วนตัวของตน ส่วนไบรอันพาโรสรินไปโรงแรมสุดหรูที่มีค่าห้องพักในแต่ละคืนนั้นแพงระยับ ชายหนุ่มคลอเคลียหญิงสาวที่เพิ่งจะประมูลได้มาอย่างไม่ยอมห่างกาย
เมื่อไปถึงห้องพักศึกใต้สะดือก็เกิดขึ้นอย่างร้อนแรง โรสรินเมื่อเห็นอารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งพล่านออกมาเช่นนั้นหญิงสาวก็ไม่รอช้า รีบเข้ากอดเกี่ยวปลุกเร้าอารมณ์ของชายหนุ่มให้ลุกโชนมากขึ้นไปอีก เกมรักของทั้งคู่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าแรงจะตก โรสรินก็มีหรือที่จะยอมแพ้ง่ายๆ ร่างสูงใหญ่กำยำของไบรอันโรมรันพันตรูอยู่กับร่างอวบอัดเนื้อนมไข่อย่างเมามัน มือหนาตะปบลงบีบเคล้นไปที่เต้าทรวงอย่างรุนแรง แทนที่โรสรินจะเจ็บปวด แต่ว่าเปล่าเลย มันกลับสร้างความเสียวกระสันให้กับหญิงสาวมากขึ้นเป็นทวีคูณ
หญิงสาวครางกระเส่าเมื่อนิ้วยาวใหญ่ของชายหนุ่มขยับเข้าออกในร่องกลีบดอกไม้ของเธออย่างเร่าร้อน ซึ่งตอนนี้มีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มอยู่ในเกสรดอกไม้ เขาขยับเข้าออกด้วยความช่ำชอง ดวงตาโรสรินหรี่ปรือหวานเยิ้มเชิญชวนด้วยความกำหนัดอย่างเต็มที่
เมื่อนิ้วยาวใหญ่ของไบรอันขยับเข้าออกรัวเร็วมากขึ้นเป็นทวีคูณทำให้สะโพกสาวส่ายไหวเร่งรับจังหวะเข้าออกอย่างไม่ยอมน้อยหน้าอีกฝ่ายเลยเช่นกัน ก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงก้องเมื่อนิ้วร้ายของชายหนุ่มพาโรสรินเดินทางมาถึงสวรรค์ชั้นฟ้าเข้าให้อีกครั้งหนึ่ง
“ตาฉันบ้างล่ะ”
ชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าส่งหญิงสาวขึ้นสวรรค์ไปได้อีกครั้งก็จัดการจับเรียวขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้มั่น ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงสวาทให้กับตัวเองได้ขึ้นสวรรค์ตามไปเช่นกัน เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่ก็โหมกระหน่ำเข้าใส่ไม่ยั้ง บทเพลงรักของคนทั้งคู่จึงเป็นไปอย่างดุเดือด ร่างอวบอัดบิดเร่าด้วยความเสียวกระสัน โรสรินนั้นถึงกับครวญครางออกมาไม่ยอมหยุด
“คุณไบรอัน...โอ้...” เมื่อบทรักที่ไบรอันปรนเปรอให้กับเธอสร้างความเสียวซ่านให้เป็นที่สุด
เต้าทรวงเต่งตึงโยกไหวตามแรงกระแทกกระทั้นที่ชายหนุ่มส่งกระหน่ำเข้าใส่อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เสียงหอบหายใจที่ต่างหอบเป่ารินรดกัน
พร้อมกับลิ้นร้ายของชายหนุ่มที่ก้มลงดูดดึงตุ่มไตสีชมพูของหญิงสาวเอาไว้อย่างหื่นกระหายเป็นไปอย่างร้อนแรง เสียงเนื้อที่สอดประสานของคนทั้งคู่ดังกระทบกันเป็นจังหวะยิ่งสร้างความกระสันในเกมสวาทให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ยิ่งมือใหญ่ใช้นิ้วบดบี้ตุ่มเกสรเข้าด้วยแล้ว มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวมาขึ้นเป็นเท่าตัว
“โอ้...ไม่ไหว...แล้ว…” โรสรินร้องครางเสียงกระเส่าไม่ยอมหยุด
แล้วชายหนุ่มก็ส่งท้ายบทเพลงรักด้วยการจับร่างของหญิงสาวพลิกให้หันหลังและคุกเข่าขึ้น ทั้งๆ ที่ร่างกายของคนทั้งคู่ยังเชื่อมติดกันอยู่ ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้มั่นเหมือนอย่างจับบังเ**ยนขี่ม้า แล้วโจนจ้วงส่งแรงอัดเข้าโหมใส่อย่างไม่ยั้ง
เสียงเนื้อกระทบกันดังเร่งเร้าให้เขาออกแรงซอยถี่เร็วมากยิ่งขึ้น จนร่างของโรสรินเกร็งกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวกับเสียงครางกระหึ่มของชายหนุ่ม ก่อนที่ความอัดแน่นจะถูกพ่นออกมาอย่างรุนแรงจนเปรอะรดไปตามหน้าขานวลเนียนของหญิงสาวในที่สุด
“คุณสุดยอดจริงๆ ค่ะ...”
โรสรินชมชายหนุ่มออกมาเสียงกระเส่า แต่ไบรอันไม่ได้ตอบหญิงสาวกลับมา นอกจากบทรักที่แสนเร่าร้อนที่มันกลับลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อความต้องการทางกายของเขสมันยังไม่หมดลง
และหญิงสาวเองก็ยินยอมพร้อมใจที่จะตอบสนองให้กับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น โรสรินจัดเต็มจัดหนักให้กับไบรอันสมกับราคาค่าตัวและราคาคุยที่พร่ำบอกแก่ชายหนุ่มมาตลอดทางที่อยู่ในรถ ความสุขที่เค้าได้รับจากโรสรินทำให้ไบรอันลืมเลือนรอยยิ้มหวานที่ตรึงใจของเกวลินไปได้ในชั่วขณะเหมือนกัน
ณ.บ้านเกวลิน
เช้าวันรุ่งขึ้นเกวลินกำลังจะไปทำงานตามปกติ หญิงสาวนึกแปลกใจว่าเหตุใดจึงมีรถยนต์ติดฟิล์มสีดำมืดสนิททั่วทั้งคันรถมาจอดนิ่งสงบใกล้กับประตูบ้านของเธอ ก่อนที่ประตูรถจะเปิดออกและมีชายร่างสูงสองคนก้าวลงมาจากรถและเดินตรงเข้ามาหาเธอทันที
“คุณพุดกรองอยู่บ้านนี้หรือเปล่าครับ?” ชายแปลกหน้าพูดถามหญิงสาวออกมา
“ค่ะ...น้าพุดกรองอยู่บ้านนี้”
เกวลินพูดพร้อมกับมองหน้าชายแปลกหน้าอย่างไม่ไว้ใจนัก ก่อนจะพูดต่อ
“แต่แกก็คงจะอยู่บ้านนี้ไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวแกก็จะย้ายออกไปแล้ว”
ชายแปลกหน้าสองคนหันมามองหน้ากันแทบจะทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ก่อนที่หนึ่งในสองจะพูดขึ้นมา
“จะอยู่นานรึไม่นานยังไงผมขอฝากดอกไม้ช่อนี้ไว้ให้คุณพุดกรองด้วยนะครับ และคงอยู่เจอไม่ได้เพราะต้องรีบไปธุระอีกที่ด้วย ยังไงก็ขอฝากคุณเอาไว้ด้วยนะครับ”
ชายร่างสูงพูดจาสุภาพจนเกวลินเองคิดว่าคนทั้งสองคงจะไม่มีอันตรายอะไร เพราะของที่ถืออยู่ในมือก็เป็นแค่ช่อดอกไม้ไม่น่าที่จะมีพิษมีภัยอะไร หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้นั้นเอาไว้
“แล้วจะให้บอกว่าใครเป็นคนเอาดอกไม้ช่อนี้มาให้กับน้าพุดกรองล่ะคะ”
“บอกคุณพุดกรองว่าเสี่ยประเดิมส่งมาให้ก็แล้วกัน”
พูดจบชายร่างสูงสองคนก็เดินกลับไปขึ้นรถยนต์แล้วขับออกไปแทบจะทันที อันที่จริงแล้วชายแปลกหน้าทั้งสองคนรู้จักบ้านที่นางพุดกรองอาศัยอยู่นานแล้ว แต่เพราะเสี่ยประเดิมผู้เป็นนายอยากที่จะให้นางพุดกรองเร่งจัดการหนี้ที่ยังคงค้างอยู่ให้หมดไปในเร็ววันจึงส่งลูกน้องมาเพื่อเตือนสติให้อีกฝ่ายรู้ว่าเวลาที่ขอนั้นใกล้จะหมดลงแล้ว
“อ้าวยัยเกว...นี่ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอ แล้วนั่นถืออะไรไว้ในมือน่ะ อ้อ ช่อดอกไม้ แหม...เดี๋ยวนี้มีผู้ชายส่งดอกไม้มาให้ถึงบ้านเลยเชียวนะ
นางพุดกรองพูดทักทายหลานสาวออกมาทั้งที่ใจจริงแล้วไม่อยากที่จะเสวนาด้วยเลยสักนิด แต่เป็นเพราะว่าทุกครั้งที่เจ้าหนี้ตามมาทวงเงินนาง เกวลินจะเป็นผู้ที่ต้องชดใช้ให้ตามคำขอร้องของนางเกศแก้วผู้เป็นมารดาและเป็นพี่สาวของตนแทนเสมอ นางจึงจำเป็นต้องพยายามพูดจาดีด้วย
“เกวกำลังจะไป อ้อ แล้วไอ้ดอกไม้ช่อนี้ก็ไม่ใช่ของเกวด้วยแต่มันเป็นของน้าพุดกรอง เอ้า...เอาไป...”
พูดพร้อมกับยื่นส่งดอกไม้ไปให้ นางพุดกรองขมวดคิ้วด้วยความงงว่าใครกันที่ส่งดอกไม้มาให้นาง
“ส่งมาให้น้าเนี่ยนะ แล้วเค้าบอกมั้ยล่ะว่าชื่ออะไร?”
“เค้าบอกว่าชื่อเสี่ยประเดิม...”
ชื่อที่หลานสาวพูดบอกออกมานั้นเรียกเหงื่อให้ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของนางพุดกรองแทบจะทันที เสี่ยประเดิมคือเจ้าหนี้บ่อนพนันรายใหญ่ที่สุดในเขตเมืองกรุงที่นางไปเล่นแล้วเสียจนไปมีเรื่องกับพวกมันแล้วเพิ่งจะเจ็บตัวกลับมา ที่รอดกลับมาได้เพราะรับปากกับมันว่าจะหาเงินไปคืนให้กับมันให้ได้ เพียงแต่ขอเวลาหน่อย แล้วนี่ยังไม่ทันถึงสองวันเลยเสี่ยประเดิมส่งคนมาตามทวงเงินที่นางติดหนี้พนันในบ่อนแล้วหรือนี่
“เป็นอะไรน้าพุดกรอง ทำไมหน้าซีดขนาดนั้นล่ะ?” เกวลินพูดถามออกมา พลางเดินเข้าไปเขย่าแขนของน้าสาว
“ปะ..เปล่า..น้าไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย..”
นางพุดกรองพูดพร้อมกับเดินหนีหญิงสาวไปทันที เกวลินมองตามร่างของน้าพุดกรองที่เดินแยกออกไปด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของน้าสาว ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถไปทำงาน
ปิ๊น! ปิ๊น! ปิ๊น! เสียงรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ยักษ์ที่บีบแตรดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้หญิงสาวต้องหยุดก้าว แล้วยิ้มหวานออกมาให้กับชายหนุ่มตรงหน้าแทบจะทันที
“ไปเกว...ขึ้นรถ...เดี๋ยวเราไปส่ง...” นภดลบอกหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี
“วันนี้ดีจังมีราชรถมาเกยถึงบ้าน...”
หญิงสาวบอกพร้อมกับรับหมวกกันน๊อคที่ชายหนุ่มยื่นมาให้มาสวมลงบนศีรษะ
“นภไปส่งเราแล้วจะเข้าออฟฟิศทันเหรอ”
เกวลินถามชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง ด้วยเพราะที่ทำงานของนภดลนั้นอยู่คนละทางกับของหญิงสาว
“วันนี้ช่วงเช้าเราจะเข้าไปดูที่ไซค์งานน่ะ ช่วงบ่ายถึงจะเข้าออฟฟิศ เฮ้ยเกว...หมวกก็ใส่หลายครั้งแล้วนะทำไมยังใส่ไม่ได้อีกเหรอ มา...เราช่วยใส่...”
นภดลมองหญิงสาวที่พยายามจะล็อคหมวกกันน๊อคแต่ทำยังไงก็ยังล๊อคไม่ได้สักที
“ก็ตัวล๊อคของนายมันแข็งนี่นา...เกวกดไม่ลง...”
เกวลินพูดพร้อมกับทำปากยื่นออกมาน้อยๆ นภดลยิ้มน้อยๆ ให้หญิงสาวแล้วจัดการบีบกดสลักใส่ช่องตัวล๊อคให้กับหญิงสาวเอง
“เอาละ...เรียบร้อย” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับสำรวจความเรียบร้อย “ทีนี้ก็ขึ้นรถได้เลยครับคุณผู้หญิง...”
เกวลินยิ้มขำให้กับคำพูดของเพื่อนสนิท ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์คันใหญ่
“โอเคแล้วนะ” ชายหนุ่มถามหญิงสาวกลับมา
“โอเคจร้า...”
เกวลินบอกเสียงสดใส ก่อนที่รถบิ๊กไบค์จะขับพุ่งทะยานออกไปจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว
ไบรอันมองดูภาพถ่ายที่นิคส่งมาให้กับเค้าในตอนสายของวัน หลังจากที่ชายหนุ่มสั่งให้บอดี้การ์ดของเขาไปสืบเรื่องราวของหญิงสาวตามคำสั่งของเค้าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
ภาพของหญิงสาวที่กำลังสวมใส่หมวกกันน๊อคโดยมีชายหนุ่มคอยช่วยเหลืออยู่อย่างใกล้ชิด ใบหน้าของคนทั้งคู่แสดงออกชัดเจนว่าสนิทสนมกันมากเพียงใด ใครมองก็รู้ว่าผู้ชายที่อยู่ในรูปคงเป็นคนรักของหญิงสาวอย่างแน่นอน
‘นี่เธอมีคนรักแล้วอย่างนั้นเหรอ’ ไบรอันรำพึงรำพันอยู่ภายในอก
“คุณกำลังดูอะไรอยู่เหรอคะ?”
โรสรินเดินนวยนาดเข้ามาหาชายหนุ่มด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่ใช้ปกปิดร่างกายของเธอ สายตามองมาที่ชายหนุ่มซึ่งตอนนี้อยู่ในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงนอนขนาดแปดฟุตด้วยความเสน่หา ไบรอันเก็บรูปภาพกลับเข้าไปในซองเอกสารไว้เหมือนเดิมแล้ววางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างๆ หัวเตียง
“ไม่มีอะไร...แค่ภาพธรรมดาๆ”
เขาพูดเสียงเรียบเฉย ร่างของโรสรินเบียดกายชิดเข้าหาชายหนุ่ม มือบางค่อยๆ ปลดผ้าขนหนูที่พันรอบกายไว้ออก แล้วเอื้อมไปปลดสายรัดเสื้อคลุมของชายหนุ่มออกอย่างเบามือ ก่อนจะแยกสาบเสื้อคลุมให้ออกจากกันเผยให้เห็นความใหญ่โตของเรือนร่างชายที่เคยแข็งแกร่งซึ่งตอนนี้มันกำลังนอนหลับใหลอยู่
หญิงสาวเอื้อมมือไปจับต้องอย่างหลงใหล พลังของชายหนุ่มที่โหมกระหน่ำอัดเข้าใส่เธอเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมานั้น มันทำให้โรสรินสุขล้ำจนล้นอกอย่างที่ไม่เคยพานพบกับชายใดมาก่อนเลย ชายหนุ่มเซ็กซี่และเร่าร้อนมากกว่าผู้ชายคนไหนๆ ที่เธอเคยผ่านมา ลีลารักของไบรอันดุดันและร้อนแรงเหนือคำบรรยาย
“หมดเวลาของเธอแล้ว เธอควรจะกลับไปได้แล้ว”
ชายหนุ่มปัดมือนุ่มออกห่างค่อนข้างแรง เค้าลุกขึ้นยืนก่อนจะผูกรัดเสื้อคลุมกลับให้เข้าที่เหมือนเช่นเดิม ไบรอันยอมรับว่าลีลารักของโรสรินนั้นช่างคุ้มค่ากับเงินที่เค้าได้จ่ายไป แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเค้ายังไม่บรรลุถึงขีดสุดของความต้องการในร่างกาย บทรักเมื่อคืนที่ผ่านมามันก็แค่เป็นการปลดปล่อยความต้องการทางอารมณ์ที่มันอัดแน่นอยู่ภายในร่างกายของเค้าก็เท่านั้นเอง
“โรสอยากอยู่กับคุณอีกวันค่ะ นะคะ...ให้โรสอยู่ปรนนิบัติคุณต่ออีกนะคะ...”
หญิงสาวก้าวลงจากเตียงทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่า ขาเรียวเดินนวยนาดเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างไม่อายต่อสายตาของเค้าที่จ้องมองมา
โรสรินนั้นรู้มาจากจัสมินซึ่งเป็นผู้จัดการผับว่าชายหนุ่มที่ประมูลเธอได้นั้นเป็นถึงมหาเศรษฐีหนุ่มชาวอเมริกันที่บรรดาสาวๆ ในแวดวงสังคมไฮโซและเซเลปดังต่างอยากที่จะได้ชายหนุ่มมาครอบครองไว้กับตัวกันแทบทั้งนั้น เธอจึงปรนนิบัติเค้าอย่างสุดฝีมือ และจะต้องทำให้เค้าหลงใหลเธอให้จงได้
“ไม่ต้องหรอก เธอกลับไปได้แล้ว แล้วคืนนี้ฉันจะแวะไปหาเธอที่ผับอีก” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงล้วงหยิบเอาเงินภายในโต๊ะออกมาวางลงบนเตียงปึกใหญ่ ก่อนจะก้าวเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างร่างกายโดยไม่สนใจโรสรินเลยแม้แต่น้อย
โรสรินมองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง เค้าจะไปหาเธอที่ผับอีก นั่นก็เท่ากับว่าเค้าจะต้องติดใจในลีลารักของเธออย่างแน่นอน
หญิงสาวเดินยิ้มกริ่มไปหยิบเอาเสื้อผ้าของเธอที่ถูกถอดทิ้งวางเกลื่อนอยู่บนพื้นพรมภายในห้องนั่งเล่นขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินออกจากห้องสวีท ไปอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับเงินอีกหนึ่งแสนที่ได้รับเป็นรางวัล