สูตรรักฉบับคนเถื่อน | 23

1799 คำ
๒๓ @คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ดวงตากลมโตปิดลงเมื่อยามที่ริมฝีปากบางประกบทาบทับลงมาบนเรียวปากอวบอิ่ม สัมผัสแรก ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่เป็นรักแรกลอยเข้ามาในหัวโดยไม่อาจที่จะห้ามปรามเอาไว้ได้ หัวใจดวงน้อยเต้นถี่ยามที่ลิ้นสากสอดเข้ามาในโพรงปากบาง แม้จะไม่เคยคิด ว่าทุกอย่างจะต้องมาเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่เขาทำให้เธอ สิ่งที่เขายอมเสียมันเพื่อเธอ บ่งบอกว่าเธอไม่ควรเสียใจ หากจะเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้เขาเช่นกัน แม้จะคิดได้แบบนั้น แต่น้ำตาเม็ดโตกลับปริออกมาเองอัตโนมัติเมื่อความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบลงมาบนผิวขาวเนียนของเรือนร่างเปลือยเปล่าในยามที่เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างพร้อมกับผ่อนร่างเธอลงบนเตียงกว้าง หลายครั้งที่เขาหอมแก้มเธอ หลายครั้งที่เขาหลุดคำสัญญาว่าจะดูแลเธอในทุกๆ วัน แต่ในตอนที่ร่างสูงโปร่งโน้มตัวลงต่ำ มือหนาเลื่อนเข้าไปสัมผัสกับส่วนนั้นของเธอมวลสมองของเธอมันกลับโล่งว่าง ในส่วนลึกของหัวใจสั่งให้น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะลงมาซ้ำๆ วินาทีที่เธอเกือบจะผลักเขาออก มือหนาที่เคยเช็ดน้ำตาให้เธอ และเป็นมือที่หยิบยื่นความหวังดีให้เธอเลื่อนไปประคองเท้าเปลือยเปล่า ไม่คิดด้วยซ้ำ ว่าเขาจะโน้มลงไปสัมผัสมัน "พะ พี่ภาส..." ความคาดไม่ถึงทำมวลน้ำตาหยุดชะงัก เผลอมองการกระทำของเขาอย่างไม่รู้ตัว "พี่กลัวว่าเวลาจะทำให้น้ำไม่มั่นใจในเรื่องความสัมพันธ์ของเรา แต่เชื่อใจพี่สักครั้งนะ คำว่าถูกชะตา คำว่าชอบ แม้แต่คำว่ารัก บางทีมันก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา พี่สัญญานะว่าพี่จะดูแลเธอให้ดี สมกับความซื่อสัตย์ที่เธอตั้งใจรักษาสัญญา เงินยี่สิบล้านที่พี่ใช้มันเพื่อสู่ขอเธอ พี่ไม่เคยเสียดาย แค่เธอเลือกพี่ แม้ในตอนที่อยู่ต่อหน้าคนที่เธอเคยรักมาก แค่เธอชัดเจน ไม่โลเล พี่รู้แล้วว่าพี่คิดไม่ผิดที่เลือกเธอ" คนตัวเล็กคลี่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เธอพยักหน้าหงึกหงัก ไหนๆ เรื่องมันก็ต้องลงเอยแบบนี้อยู่แล้ว สิ่งที่อยากขอ คงจะเป็นการขอให้เธอได้พบคนที่ดีกับเธอจริงๆ @วันต่อมา "...ตื่นแล้วเหรอ" เสียงนุ่มเอ่ยทักทายหญิงสาวในอ้อมกอดที่ขยับตัวและลืมตาเชื่องช้า ท่อนแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น อดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวลงไปสัมผัสพวงแก้มขาวผ่องของคนที่เขานอนกอดมาตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา ครั้งแรกของเธอที่เขาได้มาเมื่อคืน ให้ความรู้สึกที่พิเศษมาก จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าผู้ชายอย่างเขาจะคาดหวังหรือจริงจังกับเรื่องอะไรแบบนั้น แต่การสัมผัสหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ยอมสูญเสียครั้งแรกให้กับคนที่ชื่อว่าสามีเป็นคนแรก คนแบบนี้ควรรักษาไว้เป็นอย่างดี และเขาเองก็จะดูแลเธอให้ดี "พี่ภาสตื่นนานแล้วเหรอคะ" ถามออกมาพลางยกมือขึ้นมาลูบปาก ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะหลับไปพร้อมใครสักคน และตื่นขึ้นมาในวันที่มีใครสักคนแอบมองหน้าเธออยู่ "ตื่นนานแล้ว แต่บนเตียงมันอุ่นดี พี่ไม่อยากลุกไปไหน" "หิวไหมคะ นี่มันกี่โมงแล้ว เดี๋ยวน้ำลุกขึ้นไปหาอะไรให้ทานค่ะ" "ไม่ต้องรีบ ตัวน้ำอุ่นๆ พี่กลัวว่าจะมีไข้อ่อนๆ นอนพักอีกหน่อยไหม พี่กวนใช่หรือเปล่า" "เปล่าค่ะ น้ำนอนอิ่มแล้ว ว่าแต่ พี่ภาสกวนน้ำเหรอ" "เหมือนจะกวนอยู่นะ พี่แอบหอมแก้มเราไปหลายทีเลยแหละ เมียพี่น่ารัก ตัวหอมมากด้วย" ว่าไปพลางฝังปลายจมูกโด่งลงบนพวงแก้มขาวผ่อง ไม่ลืมที่จะเลื่อนเข้าไปสูดดมความหอมจากซอกคอขาว ทุกครั้งที่เขาสัมผัสกับความหอมบนกายของหญิงสาวที่เคยบังเอิญพบแบบผ่านตา คนที่มีบางอย่างคล้ายเขา นั่นคือการที่แม่ให้ความสนใจในตัวลูกอีกคนมากกว่า สำหรับตัวเขาเองเขารู้อยู่แล้วว่าสาเหตุเป็นเพราะเขาเป็นลูกเลี้ยง แต่การมองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งนั่งเคียงคู่กับหญิงสาวอีกคน ความที่ผู้หญิงอีกคนแต่งตัวในแบบที่เรียกว่าเยอะกว่า ดูมีอายุมากกว่า จึงเดาได้ว่า ภรรยาของเขาในตอนนี้เป็นน้องส่วนอีกคนเป็นพี่ แปลกดีที่คนบ้านเธอให้ความสนใจคนเป็นพี่มากกว่าที่จะเป็นคนน้อง ซ้ำเวลาที่ได้มองสบตากับดวงตากลมโตใสซื่อ เห็นความจริงใจ ความมีเสน่ห์ เธอถูกใจเขาอย่างไม่รู้ตัว เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง ในพักหลังที่เขาเริ่มรู้ตัวว่าชีวิตเริ่มไม่ปกติ ลูกน้องคนสนิทถูกลอบทำร้ายทั้งที่ในวันนั้น หากคนที่ไปจัดการธุระคือตัวเขา คนที่เจ็บก็คงจะเป็นเขา และอีกหลายเหตุการณ์ที่เหมือนจะเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เขาต้องเจ็บตัว เขาอยากมีใครสักคนข้างกาย คนที่จริงใจ คนที่ไว้ใจได้ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าเขาพบผู้หญิงคนนั้นแล้ว "...พี่ภาสได้ยินน้ำไหมคะ" "ครับ ว่าไงนะ" "เหม่ออะไรอยู่คะ น้ำถามหลายรอบแล้วว่าวันนี้อยากกินอะไร น้ำจะได้ทำให้ค่ะ" "คอนโดนี้พี่แค่ซื้อไว้ไม่มีใครมาอยู่ มีแค่แม่บ้านคอยมาทำความสะอาด ไม่มีอาหารสดเลย วันนี้เราไปกินข้าวข้างนอกกันนะ" "อ๋อ ได้ค่ะ" "แต่ไปกินข้าวกับแม่เลี้ยงของพี่นะ อาวรรณ รตวรรณ" "หืม พี่ภาสเรียกแม่เลี้ยงว่าอาเหรอคะ" "อืม เขาให้พี่เรียกแบบนั้น ไม่อนุญาตให้เรียกว่าแม่น่ะ" หัวใจคนฟังกระตุกแปล๊บ หญิงสาวดันตัวลุกจากเตียงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แม้สีหน้าสามีของเธอในตอนนี้จะดูเรียบเฉย แต่เธอไม่มีทางเชื่อหรอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลย "ไม่เป็นไรนะคะ พี่ภาสยังมีน้ำนะ เดี๋ยวน้ำจะอยู่กับพี่ เป็นครอบครัวให้พี่เองถ้าพี่ต้องการ" "ต้องการสิ พูดเองนะ" นิ้วเรียวเลื่อนมาจิ้มๆ ที่แก้มขาวผ่อง ส่งผลให้คนตัวเล็กฉีกยิ้มออกมา "พูดเองค่ะ จะรักษาคำพูดของตัวเองด้วย" หัวใจคนฟังพองโตขึ้นมาอัตโนมัติ รู้สึกว่าเขาโชคดีที่ได้เธอมา รู้สึกเสียดายแทนผู้ชายคนนั้นที่สุดท้ายกลับปล่อยเธอให้หลุดมือ "เราไปจดทะเบียนสมรสกันนะน้ำ พี่ยอมรับว่าก่อนจะมาเจอน้ำ พี่เคยผ่านผู้หญิงคนอื่นมาก่อน แต่คำนี้พี่ไม่ได้พูดมันกับเขา ครั้งแรกพี่พูดมันกับเธอ" "ไม่เอาค่ะ เราไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสก็ได้ น้ำไม่อยากให้ใครมองว่าการที่น้ำเปิดใจ เป็นเพราะน้ำหวังในสิ่งที่พี่มี สิ่งที่น้ำต้องการมีแค่ความจริงใจ อย่างอื่นน้ำไม่เอา" "แต่ว่าพี่..." "ไม่พูดเรื่องนี้กันแล้วค่ะ เอาเป็นว่าน้ำขออาบน้ำก่อน เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันนะคะ พี่ภาสต้องกินยาด้วย" "โอเคครับ งั้นเดี๋ยวพี่เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้นะ" "ไม่เป็นไรค่ะ น้ำจัดการเองดีกว่า" "ที่ผ่านมาน้ำยังทำให้พี่เลยนะ ดูแลกันและกันสิ เธอถึงจะเห็นว่าพี่เองก็จริงใจ" "งั้นก็ได้ค่ะ" เจ้าของคำพูดฉีกยิ้มอวดความสดใส ในเมื่อตั้งใจแล้วว่าจะเริ่มต้นใหม่ เธอควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่มีความจำเป็นที่จะกลับไปคิดถึงเรื่องราวในอดีต เพราะมันไร้ประโยชน์สิ้นดี @บ้านรตวรรณ "ภาส..." รตวรรณ เอ่ยชื่อแขกที่โผล่เข้ามาโดยที่ไม่ทราบมาก่อน แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อพบว่า ลูกเลี้ยงที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กมาพร้อมหญิงสาวอีกคนข้างกาย "สวัสดีครับอาวรรณ ผมมาหาหมอตามนัดครับ เลยแวะเข้ามา" "แล้วนี่..." "น้ำครับ น้ำใจ เมียผมเอง" "เมีย นี่น่ะเหรอเมียใหม่ของเธอ" "อารู้ว่าผมมีใหม่งั้นเหรอครับ?" ดวงตาคมกริบจับจ้อง ในขณะที่คนหลุดปากทำเฉไฉ จับจ้องผู้หญิงคนใหม่ที่ลูกเลี้ยงของเขาควงเข้ามา เห็นว่า เธอยกมือไหว้เขาอยู่ "ไม่ยักรู้ว่าเธอลืมเมธาวีได้แล้ว" ว่าไปพลางหย่อนสะโพกลงบนโต๊ะอาหาร "เมธาวี ผู้หญิงที่อาหาให้ผม เธอทิ้งผมไปแล้วนี่ครับ คนขี้โรคก็แค่ต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างๆ คนนั้นก็คือน้ำ" มือหนาคว้ามือเล็กมาจับ นิ้วโป้งคลึงเบาๆ บนหลังมือของอีกฝ่าย และเหมือนคนที่ถูกสัมผัสเองก็พอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาไม่อยากให้เธอคิดมาก แค่รู้ว่าเขาใส่ใจถึงขนาดนั้นมันก็ดีมากแล้ว "แล้วอาการของเธอเป็นไงบ้าง ยังกินยาอยู่ใช่ไหม หมอว่ายังไงบ้าง เซลล์มะเร็ง..." "มันไม่มีทางดีขึ้นหรอกครับ โรคนี้ไม่มีวันรักษาหาย แค่จะทรุดเร็วหรือช้าแค่นั้นเอง" เจ้าของคำพูดก้มหน้าลง เป็นเวลาเดียวกับที่รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นที่มุมปากบางของคนที่มองเห็นภาพนั้นพอดี "เรื่องที่ว่าโรคนี้จะรักษาหายหรือไม่หาย บางทีมันอาจจะไม่ได้สำคัญก็ได้นะคะ บางคนสามารถต่อสู้กับโรคและอยู่ต่อได้นาน มันขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ไม่ต้องห่วงนะคะ น้ำจะช่วยดูแลพี่ภาสเอง" "มะเร็ง ขึ้นชื่อว่าโรคนี้มีแต่ทรุดกับทรุด ได้ข่าวว่าพึ่งมาอยู่กับภาสได้เดือนกว่า คิดเหรอว่าเธอจะทนได้หากวันหนึ่งเขาทรุดขึ้นมา อาว่าทางที่ดีภาสทิ้งบ้านนอกแล้วมาอยู่กับอาที่กรุงเทพฯ เถอะ ใครจะดูแลภาสได้ดีเท่าอา" "ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมอยากอยู่กับเมียผมมากกว่า" "ไม่คิดว่าจะเหมือนเมธาวี?" "น้ำไม่มีวันเหมือนใคร!" ประภาสเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น แน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจให้กับแม่เลี้ยงเขามากเหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม