ตอนที่4 ตามจีบหรือคุกคาม (2)

1478 คำ
“ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะจีบฉันจริง ๆ บอกมาตามตรงเลยดีกว่าว่านายโกรธที่พี่ชายฉันช่วยน้องนายไม่ได้ นายก็เลยมาตามรังควานฉัน เอาคืนฉันแบบนี้แทน คิดว่าฉันเดาไม่ถูกหรือไง” คำตอบนั้นทำให้คิมหันต์รู้สึกทึ่ง ถึงแม้เหตุผลมันจะมาจากน้องชายเขา แต่มันก็ไม่ได้ถูกหมดซะทีเดียว “ก็แล้วแต่เธอจะคิดละกัน แต่ไม่ว่าเธอจะคิดแบบไหน รู้เอาไว้นะว่าสิ่งที่ฉันต้องการมีแค่อย่างเดียว...” “อะไร” คนตัวเล็กกัดฟัน ทำใจดีสู้เสือ ดวงตากลมโตจ้องลึกลงไปในดวงตาคมกริบของเขาอย่างไม่นึกเกรง “ฉันอยากเอาเธอ...ได้ยินว่าเธอย้ายมาจากนอก เธอคงเข้าใจคำว่าเอาดีไม่ใช่เหรอ” เขาว่าพลางกรีดปลายนิ้วลงบนลำคอขาวระหงลากลงมาจนถึงกระดุมเสื้อเม็ดบนจนมติมนต์ขนลุกชันไปทั้งตัว “ถ้าไม่เข้าใจ ฉันช่วยอธิบายต่อได้นะ” “นายคงจะอดอยากปากแห้งมากเลยสินะ ไม่แปลกใจเลย นิสัยแบบนี้ไงถึงไม่มีใครเอา” หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปาก ถึงจะยังไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เดียงสาจนไม่รู้อะไรเลย “ถ้าอยากมากนัก ฉันแนะนำให้นายกลับไปช่วยตัวเองเถอะ” “อย่ามาท้าทายฉันนะโมนา” คิมหันต์ยิ้มกริ่ม เขาจับมือเรียวไว้แน่นก่อนจะลากมันลงมาวางไว้ตรงกลางของร่างกายจนเธอสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กำลังดึงดันอยู่ภายในนั้น มันอุ่นวาบจนเธอชะงักนิ่งไปหลายอึดใจ “ถ้าเธอไม่ต้องการฉันก็ไม่ฝืนใจหรอกนะ แต่เธอกล้าพนันกับฉันไหมล่ะว่าสักวันฉันจะทำให้เธอมาร้องครางใต้ร่างฉันให้ได้” “เหอะ! คิดว่าตัวเองเป็นเสือคนเดียวหรือไง” มติมนต์กระตุกยิ้มมุมปาก ทั้งชีวิตของเธอเคยผ่านสิ่งที่น่ากลัวกว่าคิมหันต์มาแล้วหลายเท่าจนมันกลายมาเป็นภูมิคุ้มกันชั้นดีให้กับเธอไปแล้ว ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างหมาให้เขารังแก ซึ่งเธอไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่ “แล้วเธอกล้าพนันกับฉันไหมล่ะ” “ทำไมจะไม่กล้า ก็ตอนนี้นายกำลังเป็นฝ่ายร้องครางอยู่ใต้ร่างฉันนี่ไงล่ะ” พูดจบเธอก็บีบสิ่งที่กำลังดึงดันอยู่ใต้ฝ่ามือนั้นผ่านกางเกงกีฬาเนื้อบางเต็มแรงจนคิมหันต์ร้องออกมาสุดเสียง “โอ๊ย! ยัยบ้า ปล่อยฉันเจ็บ ฉันบอกให้ปล่อยไง” “นายแพ้พนันฉันแล้วล่ะคิมหันต์” มติมนต์คลี่ยิ้มอย่างสาแก่ใจ ยอมปล่อยมือออกจากมังกรยักษ์ของเขาในที่สุด “ส่งของฉันคืนมาได้แล้ว ฉันจะถือว่าเรื่องคืนนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน” “เธอทำฉันเจ็บขนาดนี้ คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ เหรอ” “ฉันไม่...” ครืด... เสียงมือถือดังขึ้นอีกครั้ง พอเห็นเบอร์เมธัสโทรเข้ามา มติมนต์ก็ตระหนักได้ทันทีว่าเธอเสียเวลาอยู่ในรถนี่มานานเกินไปแล้ว “พี่ฉันโทรตามแล้ว ขอร้องเถอะ...ส่งบัตรฉันคืนมา” “คืนนี้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้” คิมหันต์ทำทีเหมือนยอมอ่อนลงแต่พออีกฝ่ายเผลอเขากลับแย่งมือถือเธอมาแล้วกดโทรเข้าเครื่องตัวเองเพื่อจะเอาเบอร์ของเธอ “ทำอะไรของนาย” “เอาเบอร์ไง คืนนี้อย่าลืมรับสายฉันด้วยนะที่รัก” เขายิ้มอย่างคนชนะก่อนจะส่งมือถือพร้อมกับบัตรคืนให้ มติมนต์เห็นว่าเวลามันล่วงเลยมานานแล้วเธอไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เมื่อได้ของคืนก็รีบเปิดประตูรถออกไปทันทีโดยที่คิมหันต์ยังมองตามร่างนั้นไปจนเธอเดินหายเข้าไปในบ้าน “ชักเริ่มสนุกแล้วสิ” ดวงตาคมกริบละสายตาจากร่างบางระหงแล้วรีบหันมากดบันทึกเบอร์ของเธอไว้ทันที ยิ่งเห็นมติมนต์ร้ายกาจแบบนี้เขาก็ยิ่งอยากได้ ยิ่งอยากปราบพยศเธอเสียให้เข็ด “บ้าที่สุดเลย มือฉัน” มติมนต์โอดครวญ รีบเดินเลี้ยวเข้าไปในครัวเพื่อล้างมือตัวเองพัลวันจนไม่ทันสังเกตคนที่กำลังนั่งรอทานมื้อค่ำด้วยกันที่โต๊ะอาหาร “เป็นอะไรโมนา” เมธัสเอ่ยถาม พอเห็นน้องสาวกลับถึงบ้านเขาก็รีบกดวางสายที่ยังโทรค้างไว้ทันที “พี่หมอก...” คนตัวเล็กสะดุ้งนิด ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “คือ...มือโมนาสกปรกนิดหน่อยน่ะค่ะ ก็เลยรีบมาล้าง” “งั้นก็รีบล้างแล้วมาทานข้าวเถอะ พี่นั่งรอจนข้าวเย็นชืดหมดแล้วเนี่ย” “กำลังไปแล้วครับ” มติมนต์รีบเช็ดมือแล้วเดินเข้าไปทรุดกายนั่งลงตรงข้ามกับเมธัสด้วยความรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พี่ชายรอเสียตั้งนาน “ขอโทษนะคะพี่หมอก ที่โมนากลับช้า” “ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ แรกเข้าปีหนึ่งกิจกรรมมันก็เยอะแบบนี้แหละ” อีกฝ่ายตอบด้วยรอยยิ้มที่เธอมักจะเห็นอยู่เป็นประจำ และนั่นมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดที่กลายมาเป็นภาระให้เมธัสต้องดูแล ทั้งที่ตัวเองก็งานหนักมากพอแล้วยังต้องเจียดเวลามาหุงหาอาหารให้เธออีก “โมนารักพี่หมอกนะคะ” “หืม...เป็นอะไรเนี่ย อยู่ ๆ ก็มาบอกรัก” เมธัสชะงัก รีบเอื้อมมือมาแตะหน้าผากน้องสาวไว้ “ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่” “โมนาอยากบอกรักจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณพี่หมอกมากนะคะที่ดูแลโมนาแทนพ่อกับแม่” “อย่ามาดึงดราม่า รีบทานข้าวแล้วรีบขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว” อีกฝ่ายขยี้เรือนผมสีดำของเธอด้วยความเอ็นดู รอยยิ้มของเมธัสทำให้มติมนต์ลืมเรื่องของคิมหันต์ไปชั่วขณะ แต่พอกลับขึ้นไปบนห้องเสียงข้อความก็เด้งเตือนขึ้นมาจนทำให้เธอต้องหัวเสียอีกครั้ง คิมหันต์ : ฝันดีนะที่รัก “ฝันดีกับผีน่ะสิ นายนั่นแหละ ฝันร้ายที่สุดในชีวิตฉันเลย” มือเรียวกดลบข้อความนั้นก่อนจะบล็อกไลน์ที่เขาเพิ่มเพื่อนผ่านเบอร์มือถือทันที ยังไม่ทันจะได้บล็อกเบอร์อีกฝ่ายก็โทรเข้ามาเสียก่อน “ฉันไม่รับหรอก” หญิงสาวเบ้ปากใส่อย่างไม่ไยดี รีบกดตัดสายไปทำให้เขาต้องส่งข้อความผ่านเบอร์มาขู่อีกครั้ง “ถ้าเธอบล็อกฉัน ฉันจะไปหาเธอถึงบ้านเลยโมนา” “โอ๊ย! อะไรกันเนี่ย” มติมนต์ถึงกับกุมขมับ คิดว่าอยากกลับมาอยู่บ้านเกิดแบบสงบ แต่ก็ต้องมาจบเพราะคิมหันต์แบบนี้ได้ยังไง “ปลดบล็อกฉันเดี๋ยวนี้” อีกฝ่ายส่งข้อความมาขู่เธออีกครั้ง ทำให้หญิงสาวจำใจต้องปลดบล็อกแล้วเป็นฝ่ายส่งข้อความพิมพ์ด่าเขาไปรัว ๆ แทน โมนา : ไอ้โรคจิต นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง เลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที จะไปตายที่ไหนก็ไป นิ้วเรียวส่งข้อความไปเพราะอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน แอบเฝ้ารอข้อความตอบกลับมาจากอีกฝ่ายจนในที่สุดมันก็ดังขึ้น คิมหันต์ : ฉันไปไหนไม่ได้หรอก จนกว่าจะได้เอาเธอ คำพูดสองแง่สองง่ามที่เขาพิมพ์ตอบกลับมาทำให้มติมนต์ยิ่งโมโหจนเลือดขึ้นหน้า โมนา : ให้ตาย นายก็ไม่มีวันได้หรอก คิมหันต์ : ลองดูไหมล่ะ พนันได้เลยว่าไม่ถึงเดือน เธอเสร็จฉันแน่ อีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมาด้วยความมั่นใจยิ่งทำให้มติมนต์รู้สึกโกรธ แต่บล็อกก็บล็อกไม่ได้เพราะเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้แค่ขู่เหมือนที่บอกไว้แน่ “ทำยังไงฉันถึงหนีนายพ้นเนี่ย” หญิงสาวโอดครวญ ดวงตากลมโตยังจับจ้องอยู่บนหน้าจอที่ยังถืออยู่ในมือ พอรู้สึกโกรธเธอก็เผลอจับมันแน่นจนพาลคิดไปถึงความใหญ่โตที่เธอเพิ่งจะบีบบี้ไปก่อนหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “โอ๊ย อีตาบ้า” มติมนต์รีบปามือถือลงบนเตียง พยายามส่ายหน้าไล่ความคิดอัปมงคลออกไปด้วยการอาบน้ำชำระล้างฝ่ามือเพื่อตั้งสติแล้วจัดการหนีปัญหาด้วยการปิดเครื่องแทน ยั่วให้สาวกลัว แต่กลับถูกสาวบีบจนหน้าเขียว 555555 พูดคุยกันได้นะคะ เค้าอยากอ่านเมนต์ที่สุดเลยย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม