“โม...โม...โมนา!”
“หืม...ว่าไง” มติมนต์สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงฟ้าลดาตะโกนเรียกดังทะลุไปถึงโสตประสาท
“ฉันเห็นเธอเอาแต่นั่งเหม่อ เรียกตั้งนานแล้วก็ไม่ยอมตอบ”
“นั่นน่ะสิ เป็นอะไรหรือเปล่า” แก้วเจ้าจอมเอ่ยถามด้วยอีกคน “หน้าแกดูอิดโรยเหมือนไม่ได้นอนเลยนะ”
“ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีคนสะกดรอยตามยังไงก็ไม่รู้อ่ะ กลับไปบ้านฉันก็สังเกตเห็นรถคันเดิมชอบมาจอดในซอยที่เดิมทุกวันจนฉันข่มตานอนไม่หลับเลยสักคืน” หญิงสาวโอดครวญพลางทิ้งศีรษะฟุบลงบนโต๊ะ
“แกไปมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าโม”
“จะบ้าเหรอแก้ว โมนาเขาเพิ่งย้ายกลับมาไทย จะมีศัตรูที่ไหนกัน” ฟ้าลดาสวนขึ้นทำให้โมนายิ่งคิดหนัก
“นั่นน่ะสิ ฉันไม่รู้จักใครที่นี่เลยด้วยซ้ำ แล้วจะมีใครสะกดรอยตามฉันล่ะ”
“ฉันว่าแกคิดมากแล้วมั้ง เอางี้...ถ้าแกไม่สบายใจ ตอนที่พี่แกไปอยู่เวร ให้ฉันกับยัยฟ้าไปนอนเป็นเพื่อนไหม” แก้วเจ้าจอมขันอาสา ตอนแรกมติมนต์ก็เหมือนจะเกรงใจแต่ความหวาดกลัวที่สะสมมาหลายวันทำให้เธอไม่มีทางเลือก
“เอาอย่างนั้นก็ได้...แต่คืนนี้มีพี่หมอกอยู่เอาไว้ฉันค่อยรบกวนวันอื่นก็แล้วกันนะ”
“อืม...ฉันว่าแกไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อยเถอะ ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว” แก้วเจ้าจอมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือซึ่งกำลังบอกเวลาบ่ายโมงจึงเรีบเก็บเครื่องสำอางที่ขนขึ้นมาแต่งหน้าไว้ในกระเป่า
“งั้นเดี๋ยวฉันมานะ” พูดจบหญิงสาวก็ปลีกตัวออกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาแล้วเติมเครื่องสำอางเล็กน้อยก่อนจะรีบกลับออกไป
“เดี๋ยว!”
ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำบานใหญ่ออกไป เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังทันทีที่เธอเปิดประตูห้องน้ำออกไป ทำให้เธอต้องหันไปมองตามต้นเสียงโดยอัตโนมัติก่อนจะพบกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกพิงประตูจ้องมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เจ้าของใบหน้าคมกริบตามแบบฉบับไทยแท้ สวมเสื้อช็อปสีแดง ปักชื่อคณะวิศวกรรมศาสตร์หราอยู่บนหน้าอก ขยับเข้ามาหาเธอช้า ๆ ก่อนจะจ้องมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“เรียกฉันเหรอ” นิ้วเรียวจรดลงบนอกตัวเองแล้วเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทักผิดคน
“อืม”
“มีธุระอะไรหรือเปล่า พอดีฉันจะรีบไปเรียน” มติมนต์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังจ้องมองใบหน้าเธออยู่เนิ่นนานจนต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง “นี่นาย...ได้ยินที่พูดไหม ฉันถามว่ามีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า”
“เธอเป็นทอมเหรอ” อยู่ ๆ เขาก็ยิงคำถามใส่จนมติมนต์รู้สึกช็อกแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“จะบ้าเหรอ ไม่ได้เป็น”
“งั้นก็ดี...” ใบหน้านั้นฉาบด้วยรอยยิ้มวูบหนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมแล้วกระซิบบอกบางอย่างกับเธอ “ว่าแต่...มีแฟนยังล่ะ”
“ทำไมต้องตอบด้วย เราไม่รู้จักกันเสียหน่อย” หญิงสาวค้อนขวับด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้วกระแทกไหล่กว้างเดินออกไป คิดไม่ถึงว่าวินาทีนั้นอีกฝ่ายจะลากเธอเข้าไปในห้องน้ำจัดการล็อกประตูเสร็จสรรพเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาในเวลานี้ “ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย นี่มันห้องน้ำผู้หญิงนะ อยู่ในรั้วมหา'ลัยนะนายทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย แค่อยากทำความรู้จัก”
“แต่ฉันไม่ได้อยากรู้จักกับนายนะ”
“ช่วยไม่ได้ ก็ฉันอยากทำความรู้จักกับเธอนี่” คนตัวสูงกว่าตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขาครู่หนึ่งในตอนที่มือหนาคว้ากระเป๋าสะพายของเธอขึ้นมา
“ทำอะไร นายมาจะขู่ไถเงินฉันหรือไง เอากระเป๋าฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ใจเย็นสิ ฉันไม่ได้ต้องการเงินเสียหน่อย” อีกฝ่ายอธิบายพลางยกแขนขึ้นป้องไม่ให้คนตัวเล็กเอื้อมหยิบกระเป๋าถึง
“ฉันบอกให้เอากระเป๋าฉันคืนมาไง”
“อ่ะ อยู่นี่เอง...เจอแล้ว” เขาว่าพลางหยิบบัตรนักศึกษาของเธอออกมาแล้วอ่านชื่อที่ปรากฏอยู่บนนั้นเบา ๆ “มติมนต์ กุศลกุล...”
“เอาคืนมานะ นายจะทำบ้าอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าอยากทำความรู้จัก” คนตัวสูงกว่านิ่งเงียบไปชั่วครู่ รีบเก็บบัตรนักศึกษาของเธอไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองก่อนจะส่งเป้คืนให้ “ฉันชื่อคิมหันต์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก...มติมนต์”
“นี่เป็นวิธีทำความรู้จักของนายเหรอ ป่าเถื่อนที่สุด”
“ก็เมื่อกี้ฉันถามเธอดี ๆ แล้ว เธอไม่ยอมตอบฉันก็ต้องใช้วิธีนี้แทนไงล่ะ”
“เอาบัตรฉันคืนมา นายไม่มีสิทธิ์ยึดไปแบบนั้นนะ” มติมนต์เปลี่ยนประเด็นสนทนาพยายามเอื้อมมือไปหยิบบัตรของเธอคืนจากกระเป๋ากางเกงของคิมหันต์อีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ยึดไว้นานหรอก เดี๋ยวเลิกเรียนฉันเอามาคืนให้”
“ไม่ได้ ฉันต้องเอาคืนเดี๋ยวนี้ นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ อยู่ ๆ มายึดบัตรฉันแบบนี้ได้ไง”
“งั้นเธอก็ตอบฉันมาก่อนสิว่าฉันจีบเธอได้หรือเปล่า” เขายิงคำถามใส่อีกครั้งพร้อมกับสาวเท้าต้อนเธอเข้าไปในห้องน้ำห้องแรกจนแผ่นหลังเล็กแนบชิดกับฝาผนัง
“ปกตินายจีบผู้หญิงแบบนี้รึไง เถื่อนที่สุด”
“อืม...เธอไม่ตอบงั้นก็หมายความว่าฉันจีบเธอได้สินะ” คิมหันต์โมเมเข้าข้างตัวเอง ยิ่งเขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ มติมนต์ก็ยิ่งรู้สึกคุ้นหน้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“นี่นาย...” นิ้วเรียวจรดไปที่ใบหน้าอีกฝ่ายทันทีที่นึกออก “เราเคยเจอกันที่โรงพยาบาลนี่ ตอนนั้นพี่ชายฉันรักษาน้องชายนาย”
“จำได้ด้วยเหรอ” เขาถามกลับด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่ฟังดูแข็งกระด้างแปลกพิกล
“จำได้สิ ตอนนั้นคุณป้ากำลังจะเป็นลม ฉันยังยื่นยาดมให้เลย”
“แล้วเธอจำได้หรือเปล่าว่าทำไมน้องชายฉันถึงมีสภาพเป็นแบบนั้น” คิมหันต์เอ่ยถามพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่ออกแรงบีบวงแขนเรียวจนมติมนต์ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“นาย...ฉันเจ็บนะ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
“เจ็บเป็นด้วยเหรอ” เขาเน้นย้ำพร้อมกับออกแรงกดแรงขึ้น
“นายเป็นบ้าแล้วหรือไง ฉันเจ็บนะ ปล่อย!” เสียงร้องของเธอทำให้สติของเขากลับคืนมาก่อนจะรีบปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้เป็นปกติ
“ขอโทษ...พอดีว่าน้องชายฉันยังไม่ฟื้นน่ะ ฉันเลยเครียดมากไปหน่อย”
“โมนา...โมนา...อยู่ในนั้นหรือเปล่า” เสียงแก้วเจ้าจอมกับฟ้าลดาเอ่ยเรียกอยู่ข้างนอกทำให้มติมนต์รีบผลักคิมหันต์ออกไปทันที
“ฉันต้องรีบไปเรียนแล้ว เอาบัตรฉันคืนมาเถอะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเลิกเรียนแล้วจะเอามาคืนให้”
“ไม่ได้...ฉันไม่ได้อยากรู้จักกับนายเลยนะ อย่ามามัดมือชกกันแบบนี้สิ” หญิงสาวถลึงตาใส แบมือขอบัตรจากเขาอีกครั้งแต่แทนที่คิมหันต์จะส่งคืนเขากลับเลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดตัวเองออกแทน “นายจะทำอะไรน่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้”
“อย่านะ...อื้อ” ยังไม่ทันจะกรีดร้อง ฝ่ามือใหญ่ก็ปิดปากของเธอไว้ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือขยี้เรือนผมของเธอจนกระเซอะกระเซิง
“ถ้าเธอไม่ตกลง...ฉันจะออกไปสภาพนี้ แล้วถ้าคนข้างนอกเห็นเธอตามออกไปทีหลัง อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะคิดยังไง”
“นี่นาย...” มติมนต์ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดเลยสักนิดว่าสมัยนี้เขาจะใช้วิธีนี้จีบสาว
“คิดดี ๆ นะ ถ้าตกลงก็แค่รอฉันหน้าตึก เลิกเรียนเดี๋ยวฉันเอาบัตรมาคืน”
“ก็ได้” ท้ายที่สุดเธอก็ต้องรับปากเขาออกไป เมื่อหลุดพ้นจากการกอบกุมจึงรีบจัดแต่งทรงผมของตัวเองเสียใหม่ก่อนจะออกไปหาเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ
“โมนา ทำไมเข้าไปนานจังแถมล็อกประตูใหญ่ไว้อีก พวกฉันสองคนกำลังจะพังประตูเข้าไปแล้วเนี่ย” ฟ้าลดาวิ่งพรวดเข้ามาหาทันทีด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่า”
“พอดีท้องเสียนิดหน่อยน่ะ ก็เลยเข้าไปนาน” มติมนต์โป้ปดพลางชำเลืองมองเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ได้แต่ภาวนาอยู่ภายในใจขออย่าให้อีตาบ้านั่นโผล่ออกมาตอนนี้ด้วยเถอะ
“งั้นเรารีบขึ้นเรียนเถอะ จะถึงเวลาแล้ว” แก้วเจ้าจอมตัดบท เหลือบมองนาฬิกาด้วยความร้อนใจทำให้มติมนต์สบโอกาสลากเพื่อนทั้งสองคนกลับขึ้นห้องเรียนไปก่อนที่คิมหันต์จะก้าวตามออกมา
วิธีจีบสาวแบบใหม่แบบสับ ยึดบัตรไปเลยสิค่าาาาาา
พูดคุย คอเมนต์ติชมได้นะคะ ออดอ้อนสุดฤทธิ์ งือออ