เป็นเพราะผ่านช่วงที่พวกเรา เก็บตัวซ้อมกันอย่างหนัก
วันนี้เลยจัดกันเต็มที่ ถึงเวลาแยกย้ายกลับ ก็ปาเกือบเที่ยงคืน นนเดินไปส่งพวกน้องๆผู้หญิง
แพร มีพี่สาวมารับ ส่วน มิ้นมีพ่อมารับ
และปองอาศัยไปด้วยกับมินต์
เพราะบ้านอยู่แถวฝั่งธนด้วยกัน เข้มเดินทางกลับเองด้วยแท็กซี่เส้นทางสมุทราปราการ
แล้ววันต่อมาพวกเราก็พร้อมกันที่ช่องอีกครั้ง อาคารสำนักงานขนาดใหญ่เป็นส่วนตัว
คือการเริ่มงานจริงจังเสียที เมื่อมากันครบแล้ว รายงานตัว รถตู้ของกองเตรียมพร้อม
เพื่อไปยังโรงถ่ายของช่องที่อยู่แถวชานเมือง แถวบางนาตราด ทุกคนตื่นเต้นกันอย่างมาก
ตระเตรียมสัมภาระต่างๆพร้อมในการพักค้าง
เพราะบางซีนบางฉากมีการถ่ายทำในตอนกลางคืน
เหมือนพวกเรามารวมตัวกันต่างขึ้นรถตู้ของกองคนละคัน
กนินทร์นั่งกับปองขวัญเพราะว่าถ่ายทำเรื่องเดียวกัน
เรื่องบทละครที่อ่านดูแล้วเป็นประเภทโรแมนติกคอเมดี้ เขากับปองเป็นคู่รองพระเอกนางเอก
ที่กองถ่ายต้องเรียนรู้ใหม่ทุกอย่างอีกครั้ง คราวนี้เป็นของจริง ไม่ใช่แค่บททดสอบ
ในฐานะน้องใหม่พวกเราก็เชื่อฟังและทำตาม
อาจจะเขินๆกล้องอยู่หน่อย นนถูกติไปว่าเล่นแข็งไปหน่อย เหมือนท่อนไม้ ก็เลยพยายามปรับ
ในช่วงที่พักกองช่วงเที่ยง แม่ครัวในกองถ่ายทำอาหารกล่องให้พวกเรากิน
มีของโปรดนนด้วยล่ะ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายกับขนมจีน แต่เห็นว่าปองเดินถือโทรศัพท์เดินไปทางสวนดอกไม้
"แม่เหรอจ้ะ นี่ปองค่ะ อาการพ่อเป็นยังไงบ้างค่ะแม่"
ปองขวัญรู้ว่าวันนี้พ่อของเธอมาพบหมออีกครั้งตามนัด
"ปองไม่ต้องห่วงหรอก ทำงานของลูกไปเถอะ แม่อยู่พ่อตลอด เดี๋ยวหมอออกมา แม่จะบอกปองเอง"
"ค่ะแม่"
"แล้ววันนี้เป็นยังไงมั่งลูก"
"วันแรกค่ะแม่ เลยตื่นเต้นหน่อย"
"จ้ะ ยังไงก็เชื่อฟังรุ่นพี่เขานะลูก เราเป็นเด็ก"
แม่เธอบอกตามมาอีก
"เงินที่ปองโอนให้ พอมั๊ยคะแม่"
"น่าจะพอลูก เพราะแม่เองก็รอคิวพบหมอเหมือนกัน วันนี้คนเยอะหน่อย"
นางบอก เท่านั้นล่ะ ปองขวัญถึงปิดมือถือแล้วเดินไปที่ครัวของกองถ่ายเพื่อขอรับอาหาร
ซึ่งแม่ครัวยื่นให้เธอและยิ้มให้ ปองขวัญยิ้มตอบพร้อมกับกล่าว
"ขอบคุณค่ะ"
พระเอกในวงการ ชื่อ วิศรุต กับนางเอกคู่ของขวัญของเขา ญานิสา ซึ่งเธอรับบทเป็นน้องสาวของ วิศรุต ส่วนพี่นน รับบทเป็นน้องชายของ ญานิสา
"เป็นไงน้องสาวของพี่ เพิ่งทานหรือไง ทานเยอะๆหน่อยก็ดีนะ ผอมจังนะเรา"
รุ่นพี่พระเอกในวงการแซว ในบทปองเป็นน้องสาวของเขา เลยสนิทสนมแบบพี่น้องกันจริงๆเพราะมีการซักซ้อมบทก่อนจะเล่นจริง จนกลายว่าสนิทสนมกัน
ส่วนญานิสาเธอนั่งทานอาหารบนโต๊ะกับเพื่อนนักแสดง และมีแก้วน้ำส้มคั้นอยู่ใกล้มือ
ส่วนนน หรือ กนินทร์ กลับนั่งออกไปห่างๆไม่กล้าเข้าใกล้กลุ่มนักแสดงสาว
พยายามเหลียวมองหาเพื่อนในวงการร่วมรุ่นเดียวกันอีกสองคน ก็ไม่เจอ ก็อย่างว่าล่ะ แยกกองกัน ถ่ายกันคนละที่
"พี่นน" ปองเรียก
"พี่ทานข้าวแล้วหรือยัง" นนเป็นฝ่ายหันไปมองปองขวัญเลยทีนี้ ปองขวัญงงหรือไง หรือเมาแดด
"พี่ทานแล้วเสร็จตั้งนาน พี่ก็มองเห็นปองนั่นล่ะ มัวแต่แอบไปคุยโทรศัพท์"
เธอยอมรับ
"ปองโทรถามคนทางบ้านค่ะพ่อกับแม่มีนัดกับหมอที่โรงพยาบาล"
คนเคยผ่านจุดนี้มาแล้วอย่างกนินทร์เข้าใจ
"แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง"
"แม่ยังไม่บอกค่ะ แต่ว่าหมอทำการตรวจแล้ว"
"งั้นก็ดีแล้ว ทำหน้าที่ของเราต่อไปให้ดี"
กนินทร์ทำหน้าที่เป็นพี่ชายเหมือนปลอบน้องสาว
"ค่ะ"
วันนี้ดูเหมือน จะเป็นวันเคาท์ดาวน์สิ้นปีของพ.ศ.2565 ผ่านปีเก่าไปเจอปีใหม่ พวกเราที่ทำงานอยู่กับกองถ่าย
สนุกสนานรื่นเริงกันในกอง เพราะไม่ได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่ ยังเป็นงานละครต่อเนื่อง
อีกประมาณเดือนครึ่งก็ทำการปิดกล้องแล้ว
พวกเราหายใจหายคอโล่งอก ดูเหมือนพลุสีสวยงามเมื่อพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นประกายหลากสี วูบพริบตาเดียวก็จางหาย
ในที่พักพวกเราพักอยู่ด้วยกัน พอเจอหน้ากันจึงบอก
"หวัดดีปีใหม่นะเข้ม" นนพูด
"หวัดดีปีใหม่ นน"
"หวัดดีปีใหม่สนุ๊ก"
"เช่นกันสวัสดีปีใหม่ รวยๆเฮงๆ งานเยอะๆนะ"
เผลอหน่อยเดียวสิ้นปีไปเสียแล้ว นนคิด ช้าหรือเร็วอาจจะเป็นเพราะว่าชีวิตช่วงนี้โฟกัสไปที่งานละคร งานละครที่ถ่าย
และผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก จนแบบลืมวันลืมคืนไปเลย ลืมไปด้วยซ้ำว่า ถ่ายไปถึงครึ่งเรื่องแล้ว
จะปิดกล้องเดือนหน้านี้เอง แล้วก็ต้องรอลุ้นกับละครลอตใหม่ของช่อง ที่กำลังวางตัวผู้แสดงแล้ว
นนอดไม่ได้ที่จะโทรถึงคนในครอบครัว คือ พี่ชายเขา
"พี่วุฒิ"
"แม่เป็นยังไงบ้างพี่"
"ดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ กินข้าว ทำอะไรได้ตามปกติ นนไม่ต้องห่วงนะ ทางนี้พี่กับรินีจะดูแลเอง"
"ปีใหม่แล้วนะครับ นนขอให้พี่วุฒิมีความสุข สุขภาพพลานามัยแข็งแรง แล้วรีบหาเมียเสียทีครับ แต่งเพื่อคุณแม่คุณแม่จะได้อุ้มหลาน"
ภาวุฒิขำกับคำอวยพรของน้องชาย
ซึ่งพรแบบนี้มีขึ้นทุกปีและคำถามแบบเดิมที่น้องชายเอ่ยกับเขา
ซึ่งเขามีคนรักแล้ว ยังไม่เคยพาเธอมาที่บ้าน
ทีแรกตั้งใจจะพามาสักหนหนึ่ง
แต่เป็นช่วงที่มารดาเข้าทำการรักษาผ่าตัดและพักฟื้น เขาเลยไม่อยากจะรบกวนตรงนั้น
"ทำไมเหรอ นน แต่งก่อนพี่ ไม่ได้เหรอ"
เขาแหย่น้องชาย
"ที่ไหนก็เป็นธรรมเนียมกันทั้งนั้นแหละพี่วุฒิ พี่ก็ต้องแต่งก่อนน้อง ตามคิวครับ ตอนนี้เนื้อคู่ของนน คงยังไม่เกิดหรอกครับ"
น้องชายของเขากลับพูดไปอีกทาง ทั้งที่ชมพี่ชาย
ภาวุฒิได้แต่รับเอาไว้เท่านั้นละ
แต่เขาสุขใจอย่างมากที่น้องชายโทรมาเล่นด้วย
พี่น้องมีแต่เรื่องเฮฮา พ้นหลังจากความเครียดในตอนที่ทำงาน
แต่นี่น้องชายก็ไปอยู่กองละครเพื่อเร่งในการถ่ายทำเนื่องจากเซ็นสัญญาเข้าสังกัดของช่อง รวมทั้งมีผู้จัดการส่วนตัวดูแลแล้ว
"พี่เป็นห่วงนะ รักษาสุขภาพด้วย แคนี้ล่ะ"
"ครับ พี่วุฒิ"
"แล้วไอ้เรื่องเร่งรัดพี่แต่งงาน เดี๋ยวถึงเวลาพี่จะจัดการของพี่เอง นนไม่ต้องคะยั้นคะยอพี่หรอก ไม่นานเกินรอน้องรัก"
พี่ชายของเขาก็พูดด้วยอารมณ์ดี
"ครับ ผมจะได้ดีใจไว้ล่วงหน้าเลย"
ส่วนปองขวัญโทรถามอาการของบิดาจากมารดา
ในวันนี้วันขึ้นปีใหม่ก้าวเข้าสู่พุทธศักราชใหม่
"ปีใหม่แล้วนะคะ ขอให้แม่และพ่อสุขภาพแข็งแรง อยู่กับหนูไปนาน ส่วนปองก็จะเป็นเด็กดีของพ่อแม่ค่ะ"
ปองขวัญสบายใจขึ้น เมื่อได้ฟังจากมารดา ถึงอาการของบิดา ที่ดูเหมือนจะดีวันดีคืน ขึ้นหลังจากแพทย์ ทำการผ่าตัด
ส่วนเพื่อนทั้งสอง ที่ได้ยินปองขวัญ คุยกับคนในครอบครัว เมื่อนึกขึ้นได้ จึงโทรไปทักทายและสวัสดีปีใหม่เหมือนกัน และพ่อแม่ก็ให้พร กลับมา
"รออีกนิดแก เดือนครึ่งเอง ละครก็จะปิดกล้องแล้ว"
ปองขวัญที่วางสายจากมารดา
แล้วเธอหันมาพูดกับเพื่อน ปัจจุบันนี้ทั้งสามสามคล่องมากแล้วในการแสดง การแอคติ้ง มูพเม๊นท์การใช้น้ำเสียงให้เหมาะสมกับตัวเอง
และเป็นตัวเองอย่างที่สุด แต่ละคนทำได้เป็นที่น่าพอใจทั้งผู้จัดและผู้กำกับ
ซึ่งเริ่มต้น จากการฝึกฝน และอีกอย่างการ มีทักษะที่ทำให้ทั้งสามสาวเรียนรู้ได้เร็ว และเธอก็ไม่ได้ทำให้ครูฝึกสอนผิดหวัง