"ที่จริงพอเราเป็นแล้วการแสดงมันก็สนุกเหมือนกันนะ ได้เป็นคนโน้นได้เป็นคนนี้" แพร หรือเหมือนแพรเอ่ยขึ้น
ปองขวัญเห็น ด้วยการที่พวกเธอเป็น”ในเรื่องการแสดงนี่ล่ะ ที่ทำให้ทางช่องพึงพอใจรวมทั้งผู้จัดละคร
ส่วนเธอเช่นกัน ยิ่งเล่นก็ยิ่งสนุก ในบทบาทที่ได้เป็นน้องสาวของพระเอกใหญ่ คู่เอก ส่วนเธอกับกนินทร์ เป็นคู่รอง
ท้องฟ้าที่นอกหน้าต่าง คืนนี้สกาวสุกใสนัก รับกับวันปีใหม่ ดวงจันทร์กระจ่างเต็มดวง
ไม่เหมือนเมื่อหลายวันก่อน ที่เพียงแค่ครึ่งเสี้ยว
เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว บอกกล่าวกับคนในครอบครัว
ทีนี้ก็ถึงเวลานอน เพราะพรุ่งนี้ก็เหนื่อยกับการถ่ายละครอีกครั้ง
แพร หลับไปก่น ตามด้วย มิ้น จากนั้น ปองขวัญจึงหลับตามมา เพราะเธอมีเรื่องครุ่นคิดหลายอย่าง
แต่เมื่อสมองมันง่วง ทำให้สามารถหลับไปโดยปริยาย จนปองขวัญลืมไปด้วยซ้ำว่าคิดอะไรอยู่
พีท หรือ พิธาน เป็นน้องใหม่นักแสดงที่ก้าวเข้ามาวงการด้วยกระแสวัยรุ่นเป็นซี่รีย์ที่ทางช่องสนับสนุนเป็นไปตามกระแส ผู้จัดจึงเรียกตัวมาแต่เช้า
พีทไม่อยากตื่นเลย แต่เมื่อเป็นงานก็ต้องไป
"ทำไมเรียกแต่เช้าวะ แต่ก็ต้องไปอยู่ดี เพราะงาน"
บ่นเหมือนคนเสียงละเมอ แต่ก็ลุกจากที่นอน ในโรงเรียนชั้นมัธยมที่พีทเรียนอยู่ เพื่อนๆต่างรู้ดีว่าเขากลายเป็นศิลปินนักแสดงของช่องละครไปแล้ว
มีเวลาพบปะกันน้อยครั้ง แต่จะมาเจอกันอีกครั้ง ก็ที่สนามฟุตบอล ไม่ก็รักบี้ที่สนามประจำ
อีกที่คือสนามแข่งรถ ที่พีทรักนักหนา เป็นชีวิตจิตใจ ครอบครัวของเขาค่อนข้างมีฐานะ
มีรถยนต์คันหรูเป็นสิบๆคัน ไม่รวมกับรถสปอร์ต และเบ๊นซ์
ดังนั้นการแสดงของเขาคือความสนุกมากกว่า ได้เงินด้วยเงินเยอะเหมือนกัน จากที่พ่อแม่ให้มา
เขาเพิ่งรู้ว่าการเข้ามาในวงการมันได้เงินเด้วย
เขาในกลุ่มเพื่อนๆนั้นมีฉายาว่าแบดบอย
เพราะหลีหญิงเก่ง มีแฟนสาวคบกันมาแล้วหลายคนและก็เลิกจากกัน
นิสัยชอบเที่ยวผับบาร์และแข่งรถ
แฟนสาวคนล่าสุดที่คบหากัน ชื่อ น้ำว้า แต่มามีข่าวคราวซุบซิบในโลกโซเชียลและหนังสือพิมพ์ตอนที่เขาเข้าวงการไปแล้ว
พีทก็ไม่ได้แคร์สักนิด เขาเป็นคนแบบนี้
และแฟนสาวคนใหม่ที่คบหากันทุกวันนี้ ชื่อ แฟนต้า ชื่อเหมือนน้ำอัดลมเปี๊ยบเลย
ที่เขายอมคบหากับเธอเพราะชื่อประหลาดนี่ล่ะ
อ่ะล้อเล่นมิใช่หรอกเธอมีความน่ารัก ใสอยู่ในตัวเป็นเด็กเรียน ค่อนข้างเรียบร้อย
เข้าถึงตัวยาก ถ้าไม่นัดออกมาที่ข้างนอกคงไม่ได้เจอเพราะพ่อค่อนข้างดุ
ที่คบหาแฟนต้าได้ ก็เพราะเพื่อนของเพื่อนแนะนำนั่นล่ะ
แฟนต้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเพื่อน
ทีแรกแฟนต้าเหมือนจะไม่ยอมรับ ตอนที่เขามีแฟนแล้วแต่
พอตอนเลิกกับแฟน พีทเดินมาบอกและจีบกันอยู่สักพัก เธอจึงยอมรับเขาเป็นแฟน
แต่พีทก็ไม่ได้วางอนาคตไว้ว่า จะคบกับแฟนต้า
หรืออาจารี นานแค่ไหน หรือคบและรักกันหวือหวาเท่านั้นเพราะอยู่ในช่วงวัยรุ่นของทั้งคู่
ยังตัดสินใจอะไรที่เด็ดขาดไม่ได้ เพราะคิดไม่เป็น ยังอยากที่จะเที่ยวสนุกสนานกันอยู่ พีทเก็บไปคิดในทำนองนี้
"ต้าเหรอ ออกมาเจอ พีทได้มั๊ย ที่เดิม "
โทรหาเธอ เมื่อแฟนต้ารับสาย เขาก็กรอกเสียงหวานนุ่มสไตล์ที่ปนแหบนิดหน่อย
"ทำไมเสียงแหบอ่ะ" แฟนสาวถาม
"ก็ถ่ายละครมาไง ใช้เสียงเยอะ"
"เป็นหวัดด้วยปะเนี่ย"
แฟนต้าหรือ อาจารีชักสงสัยในอาการของแฟนหนุ่มเธอต้องรอบคอบ เพราะช่วงนี้โรคร้ายยังไม่หายไปจากเมืองไทย
"เปล่าหรอกน่า พีทไม่ได้เป็นโควิดหรอกน่า แค่หวัดเฉยๆเป็นแค่วันเดียวเอง ตรวจเอทีเคแล้ว ผลเป็นหนึ่งขีดปกติ"
เมื่อเขาตอบอย่างนั้นอย่างมั่นใจ
เธอก็ถอนหายใจ
"งั้นเหรอ ก็ได้ แต่ต้าทำธุระกับเพื่อนก่อนนะ "
"ได้จ้ะ ห้าโมงเย็นนะ"
คุณกัมปนาท มาควบคุมดูแลที่ศูนย์คาร์แคร์ของตัวเองเช่นเดิม อาหารของภรรยา คุณอิสรีนั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว
ลูกชายคนกลางที่ได้เป็นนักแสดง เสร็จจากกองถ่ายทำละครเรื่องที่สอง
แล้วก็มาพักผ่อนที่บ้าน วันนี้
นน หรือกนินทร์มาช่วยงานในร้าน ดังนั้นลูกค้าประจำหรือขาจรจึงโชคดีที่ได้เจอหน้าเป็นๆของพระเอกละครชื่อดัง
ณขณะนี้ ชื่อเสียงของนน หลังจากที่ผ่านละครไปเรื่องแรกดังพอเป็นที่รู้จัก
พอมาที่สองละครถ่ายทำเสร็จและออนแอร์ไปแล้ว
เป็นประเภทพีเรียด คราวนี้ชื่อเสียงของเขาดังเปรี้ยงเป็นที่รู้จักทันที ในบทของทหารคู่ใจของกษัตริย์
เป็นที่รู้จักกันในนาม ขุนสมาหารรักษา
ส่วนเรื่องที่สาม กำลังอยู่ในระหว่างจัดหานักแสดง
โดยผู้จัดละครและทีมงาน
แต่แน่นอนมีชื่อ ของนนด้วย
เขากำลังถือว่าดังแบบฟีเวอร์ วงการนี้ถือว่า เมื่อตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อน
ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นพระรองเช่นเดิม
แต่เป็นบทที่เข้าตาผู้จัดมากที่สุด
เพราะมีสีสันมีแววและหน่วยก้านทางการแสดง
จนผู้จัดกำลังวางตัวให้เขารับบทใหม่เป็นพระเอกนำเต็มตัว คู่กับนางเอกรุ่นพี่ในวงการ
ที่จะกลายเป็นคู่จิ้นใหม่ของช่อง ด้วยแนวละครที่เรียกว่า ดรามา เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักความแค้น พลอตอยู่ในสมัยปัจจุบัน
ดังนั้นกนินทร์รับทราบดี ผู้จัดการส่วนตัว พี่ปิ๊ก เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่คอยดูงานละครและโฆษณา ทำการเซ็นสัญญาเรียบร้อย
เวลานี้ คือเวลาพัก ที่ผมจะได้พักผ่อน อยู่ในครอบครัว
เมื่อมีข่าวออกมาว่า ดาราหนุ่มมาช่วยดูแลกิจการในครอบครัวนั้น ที่คาร์แคร์แห่งนี้ลูกค้าจึงแน่นตึมเป็นพิเศษกว่าเมื่อก่อนมาก
ทั้งคุณแม่และคุณพ่อตกใจอย่างมาก
ร้านกาแฟของคุณแม่ กับเด็กในร้านรวมทั้งพนักงาน
ที่ดูจะกลายเป็นสถานที่แคบไป ไม่เพียงพอต่อจำนวนลูกค้า ที่แวะเวียนมาซื้อทุกวัน
กลายเป็นว่า เป็นการโปรโมทร้านของคุณแม่นนไปโดยปริยาย รวมทั้งร้านข้าวแกงด้วย
นี่เป็นเหตุผลความดัง พอเข้าใจอยู่นะ ก็คิดเหมือนอย่างโบราณว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก และเอฟซีของเขานั้นก็เกิดจากการที่ไปดูนนแสดง และเข้าอีเวนต์ต่างๆของช่อง
ทางผู้จัดรวมทั้งผู้จัดการส่วนตัวขยันโปรโมต นำรูปของนนลงไปในไลน์และไอจี รวมทั้งอินสตาแกรม
ทำให้นนยิ่งมีFc มากเพิ่มยิ่งขึ้น
เอฟซีเหล่านั้นน่ารัก ปฏิบัติต่อนนเหมือนเป็นน้องนุ่ง ส่วนรุ่นป้ารุ่นน้าก็เห็นเขาเป็นลูกหลาน เลยดีใจมาก ที่ทำให้พวกเขามีความสุข และมีเสียงหัวเราะรอยยิ้ม
เอฟซีเหล่านั้น เมื่อพบเจอกันบ่อยหน
จึงมีความสนิทสนมกัน และทักทายกันเมื่อเจอหน้า
และจำได้ทันที เอ่ยทักทายพร้อมสวัสดีตามมารยาทที่พ่อแม่ได้อบรมเอาไว้
วันนี้ที่ร้านของครอบครัว จึงมีเอฟซีส่วนหนึ่งมาช่วยอุดหนุนซื้อเบเกอรี่ และนั่งทานกาแฟในร้านของคุณแม่
ที่คุณพ่อ ได้ขยับขยายพื้นที่ ให้กว้างกว่าเดิม
เพื่อต้อนรับลูกค้าและแฟนคลับ
ส่วนคุณพ่อก็มีแฟนคลับมาถ่ายรูปด้วย เริ่มมีคนจดจำได้แล้วว่า คุณพ่อคือนักแสดงเก่า
และคุณพ่อก็ยิ้ม รับอย่างไม่เก้อเขิน ทำให้ข่าวนี้นั้นเล็ดลอดไปถึงหูของนักข่าวจนได้ นนต้องยอมรับ แม้เราจะไม่อยากให้เป็นข่าว
แต่สำหรับนักข่าวนั้น เมื่อเรื่องนี้เล็ดลอดหูตาไปไม่ได้
พวกเขาจึงตามมาสัมภาษณ์ที่ศูนย์คาร์แคร์ของคุณพ่อและร้านคุณแม่
"จริงไหมคะ ที่คุณลุงคือ นักแสดงเก่าในวงการ และเป็นคุณพ่อของน้องนน พระเอกชื่อดังในขณะนี้"
"จริงครับ" กัมปนาทตอบ ส่วนนนนั้น พอรู้ว่านักข่าวมานั้นก็ชิ่งออกจากร้าน เพื่อกลับไปบ้าน
"อ้อ แล้ว น้องนน อยู่ไหมครับตอนนี้"
"น้องไปทำธุระแล้วครับ"
คุณกัมปนาทตอบ รู้ว่าควรตอบแบบไหน