พนักงานหลายชีวิตโค้งคำนับคุณชายแห่งตระกูลเฉินที่กำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ส่วนตัวบนอาคารสูงเสียดฟ้าในย่านเซ็นทรัล นอกจากนอกเมืองที่ไกลออกไปที่เขามีบ้านเดี่ยวแล้วในย่านใจกลางเมืองเขาก็ยังมีเพนธ์เฮาส์ส่วนตัวอยู่บนอาคารนี้เช่นกัน โดยทั่วไปตึกสูงในทุกย่านด้านบนไม่เป็นสำนักงานก็ที่อยู่อาศัยส่วนชั้นล่างก็ปล่อยให้เช่าเป็นห้างสรรพสินค้าหรือภัตตาคารร้านค้าที่คึกคักทั้งวันทั้งคืนไม่มีวันหลับใหล
ในฐานะเจ้าของตึกและผู้อาศัยที่นี่แล้วไม่แปลกที่พนักงานในส่วนของชั้นล่างจะได้เห็นเขาผ่านตาหลายครั้ง หากแต่ที่แปลกใจก็คือรอยยิ้มบนหน้าเขาต่างหาก หลายคนต่างก็คิดว่านี่ไม่ใช่ช่วงกลางปีที่จะมีมรสุมหนัก แต่รอยยิ้มของเควิน อาจจะทำให้ฝนตกฟ้าร้องมืดครึ้มในบัดดลก็เป็นได้ที่เขาอารมณ์ดีและมาดของเขาดูเป็นมิตร
ก็เควินเคยเป็นอย่างนี้เสียเมื่อไหร่ เขาหน้าหล่อเหลาดูใจดีก็จริงหรอก แต่คนที่รู้จักเขาดี หรือแม้แต่รู้จักแค่ผิวเผินก็พอรู้ว่าเขานั้นไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนหน้าตาเท่าไหร่นักหรอก
ประตูที่เปิดด้วยการสแกนม่านตาถูกปลดล็อกโดยเจ้าของเพนธ์เฮาส์คนที่เข้ามาที่นี่ได้มีเพียงไม่กี่คน แม้แต่แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดยังต้องให้บอดี้การ์ดของเขานำทางมาและเฝ้าทุกฝีก้าวเพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้บนเตียงของเขามีคนที่เขาต้องการซึ่งไม่เคยมาเหยียบที่นี่นอนรออยู่
เขาพอใจที่เงินเขาซื้อหล่อนได้ และเขามีมากพอที่จะจ่ายให้หล่อนอยู่ด้วยนานๆ จนกว่าเขาจะเบื่อ
ร่างบอบบางที่นอนหันหลังให้ปรากฏสู่สายตาเขา... เอวที่คอดเว้ารับกับสะโพกผายทำให้คนที่ดึงเนกไทออกจากลำคอช้าๆ เปลี่ยนใจกระชากดึงแรง แล้วถอดเสื้อโยนไปกับพื้นอย่างไม่แยแส แสงไฟสลัวแต่เขาก็จดจำรูปร่างอรชรได้เป็นอย่างดี ประหลาดใจเล็กน้อยที่รู้สึกว่าหล่อนนอนหลับโดยที่ไม่รู้ว่าเขามา
ความรู้สึกเหมือนเป็นเสือที่กำลังจะล่าเหยื่อที่หลับใหลไม่รู้สึกทำให้เขาลำพองใจ... นึกถึงเนื้อนวลเนียนนิ่มมือที่ยังตราตรึงในสัมผัสแล้วกลางกายแกร่งก็ร้อนรุ่มขึ้นมา
ร่างสูงของมังกรแห่งตระกูลเฉินคว้าไหล่บอบบางให้พลิกมาเผชิญหน้ากับเขา คนที่หลับตาพริ้มอยู่เบิกตาโพลง สองมือที่เตรียมจะปัดป้องเขาถูกสวมด้วยกุญแจมือ
“นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงได้ถูกมัดไว้แบบนี้” นัยน์ตาวาววับฉายแววงุนงงเมื่อเห็นหล่อนถูกมัดอยู่เหมือนหมูและหลับไป พอหล่อนตื่นได้ที่ก็มองเขาตาขวาง
“ฉันต้องถามมากกว่าไหม... ลูกน้องของคุณไปจับตัวฉันมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจ กรี๊ดจนคอจะแตกก็ไม่ปล่อยเลยเหนื่อยแล้วก็หลับจนคุณเข้ามาเนี่ย รู้แล้วก็ปล่อยฉันด้วย” หลังจากที่ตั้งสติได้แล้วก็เปล่งเสียงพูดแข่งกับเสียงของเควิน แล้วเห็นว่าเขาตกใจกับสภาพของหล่อน มุกลดาจึงตั้งสติเพื่อเจรจาแม้ว่าสภาพอารมณ์ของคนที่คร่อมหล่อนอยู่จะห่างไกลกับคำว่าพร้อมเจรจามากมายแค่ไหนก็ตามที
เควินตระหนักได้ว่าคำสั่งของเขานั้นประกาศิตแค่ไหนกับคนของเขา แม้ว่าจะได้หล่อนมาด้วยวิธีใด แต่หล่อนมานอนอยู่บนเตียงตามที่เขาต้องการแล้ว
“ขอโทษที่คนของฉันอาจจะสุภาพกับเธอน้อยไปหน่อย แล้วก็... ขอโทษที่ทำให้เธอรอนานจนหลับ” เพราะคิดตามคำพูดของเขาอยู่นิดหน่อยเลยเหวอมากในสิ่งที่เขาเข้าใจ...
“ฉันไม่ได้รอ แต่ไอ้กุญแจนี่ทำให้ฉันไปไหนไม่ได้ต่างหาก...” การเจรจาไม่เป็นผล มุกลดาเริ่มดิ้นรนในขณะที่สองแขนเขานั้นคว้ามือหล่อนไว้แล้วมองกุญแจมือแบบใส่รหัสอย่างพินิจ เขาจะปลดล็อกเพื่อช่วยเหลือ แต่ก็สิ้นหวังเพราะเมื่อเขาปลดได้ก็รู้ว่าเขาทำมันไปทำไม เพราะกุญแจมือพ้นจากข้อมือหล่อน อาภรณ์ท่อนบนก็ถูกดึงทึ้งตามออกไปเช่นกัน
“อ๊ายยย อย่าทำอย่างนี้นะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ขายตัว ไม่มีวันทำอะไรแบบคืนนั้นอีกแน่ๆ ถ้าไม่ปล่อยจะสู้จริงๆ แล้วนะ” บอกปนหอบ จนท่อนบนเปลือยแล้วหล่อนก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ ทั้งที่มีสองมือสองขาพอกันแท้ๆ
ร่างกายหนาหนักที่ทาบทับทำให้ค่ำคืนเลือนรางนั้นแจ่มชัดในหัว ตายแน่ๆ หากมันจะเกิดขึ้นอีกในตอนที่สติหล่อนครบถ้วนอย่างนี้ แต่มันก็น่าหวั่นใจน้อยเสียเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะพูดจะทำอะไรคนตรงหน้าก็ไม่ไหวติงต่อสิ่งที่หล่อนสาดใส่เขาด้วยความโกรธาแม้แต่นิดเดียว
เพียงเสี้ยววินาทีกางเกงเลคกิ้งแนบเรียวขาก็ถูกรูดให้พ้นขาหล่อน ผิวอุ่นๆ ของเขาห่มหล่อนแทนที่อาภรณ์ที่เขาดึงทึ้งจากเรือนกายได้โดยไม่สนแรงแข็งขืนของหล่อน สองมือที่กอบกุมทรวงอวบอิ่มเคล้นคลึงพลางสะกิดยอดปทุมถันทำให้เสียงกรีดร้องของหล่อนจังหวะสะดุดไป
“อื๊อ... อย่านะ” บอกเสียงผะแผ่ว เพราะริมฝีปากนิ่มๆ เม้มจูบที่ปลายคางไล่มายังลำคอระหงขณะที่สองมือเขายังคงเคล้นคลึงปลุกอารมณ์ด้านมืดของหล่อน
“บอกแล้วไง ฉันจะจ่ายให้อย่างงาม...” กระซิบบอกเสียงพร่า “เธอไม่ต้องเสียเวลาปฏิเสธเพิ่มค่าตัวสักนิดเดียว”
คำพูดปนกระซิบของเขาทำให้คนที่เคลิ้มกับสัมผัสจนร้อนฉ่าไปหมดทั่วกายเกร็ง รู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตรายและพยายามจะเริ่มดิ้นรนอีกคราหากแต่ริมฝีปากที่ย้ายมาจูบปากหล่อนและบดขยี้เหมือนพายุร้ายโหมกระหน่ำทำเอารับมือยากกว่าเก่า
มันไม่ง่ายกับการสู้เรี่ยวแรงและชั้นเชิงของเขา กายสาวที่คล้อยไหวไปด้วยซ้ำยังปวดหนึบที่จุดกึ่งกลางร่างกายต้องการการปลดปล่อยอย่างหนักเพราะเม็ดสีชมพูที่ยอดปทุมถันถูกบีบเคล้นปลุกเร้า
ริมฝีปากที่ประกบปากหล่อน ดูดเม้มเหมือนจะกลืนกิน แล้วย้ายลงมาจูบโน้มเนื้อก้อนอวบอิ่ม
“อืม... ฮึกๆ ยะ อย่า” เสียงครางอย่างพึงใจกับการปรนนิบัติด้วยสัมผัสจาบจ้วงไม่ให้ตั้งรับมือสักนิด สะโพกเล็กแข็งขืนไม่ไหวเมื่อปลายนิ้วของเขาลากนิ้วลงบนเกสรกลางร่างที่อาบด้วยหยาดน้ำค้าง มันทำให้หล่อนได้รับความรู้สึกเต็มเปี่ยมจากสัมผัสของเขา จนต้องกรีดร้องห้ามปราม
“ไม่ได้นะ อ๊ะ...”
หากแต่เสียงห้ามอย่างสั่นเครือนั้นไม่มีความหมายใด เมื่อนิ้วของเขาชำแรกเข้าลึกสู่ความฉ่ำชื้นพร้อมพรั่งของหล่อน มันเคลื่อนที่เข้าออกจนมุกลดาครางในลำคอแผ่วๆ ตามจังหวะการเคลื่อนไหวเข้าออกด้วยเสียงหวานไพเราะหู มังกรหนุ่มฮึกเหิมครางแผ่วในลำคอพึงใจเสียงห้ามปรามกลายเป็นเสียงครางอย่างร้องขอเสียมากกว่า เขาเองก็ทรมานที่ไล้แก่นกายลำพองผงาดง้ำเสียดสีถูไถต้นขาเรียวนิ่มในยามที่ปลุกเร้าหล่อนให้พร้อมรับความใหญ่โตของเขา
จนเมื่อรอไม่ไหวจากความทรมาน สองขาของมุกลดาถูกยกพาดไหล่หนาของเควินก่อนแก่นกายที่ระอุไปด้วยพลังแห่งการปลุกเร้าจะถูกยัดเยียดเข้าหาหญิงสาวโดยไม่ลืมที่จะสวมเครื่องมือป้องกันก่อนเหมือนเช่นทุกครา
“อืม...” เขาครางพึงใจ สายตาคมทอดมองคนใต้ร่างที่ส่ายหน้าไปมาเพราะความซ่านเสียวทุกครั้งที่เขาเคลื่อนกายเข้าออก เสียงครางของหล่อนทำให้เขาร้อนเร่ากว่าทุกครั้งที่เคย
“ถ้าเธอจะยากกว่านี้ ฉันก็ยืนยันว่าจะเอาเธอมาไว้บนเตียงให้ได้” เสียงแหบพร่าละล่ำบอก พร้อมกับแหงนหน้าสูดปากเคลื่อนไหวแก่นกายเข้าหาร่างอ่อนระทวยเหมือนนักล่าที่กำลังลงเขี้ยวคมกระชากฉีกผิวเนื้อสัตว์อ่อนแอกว่าอย่างฮึกเหิมบ้าคลั่ง
สิ่งที่เขาได้รับจากกวางน้อยเสียงหวานไม่ใช่ความอิ่ม หากแต่เป็นความเสียวทรมานเจียนคลั่ง จนเขาต้องเพรียกหาให้หล่อนมาร่วมเตียงอีกครั้ง แม้จะต้องจ่ายหนักเพียงใดก็ตาม
“ฮะ ฮึก... คนบ้า ฉะ ฉัน ไม่ได้ กรี๊ดดด” เสียงครางบอกไม่ปะติดปะต่อเท่าใดนัก เสียงกรีดร้องทรมานเพราะความซ่านเสียวนั้นดังยิ่งกว่า...
“เกลียดนักที่เขาไม่ต้องลงแรงทุบตี หรือใช้สิ่งปลุกเร้าใด แค่จูบเดียวเรือนร่างที่ดิ้นสู้สุดพลังก็อ่อนระทวยให้เขาล่วงล้ำ และอิ่มเอมไปกับบทสวาทเร่าร้อน ราวกับว่าได้มาที่นี่เพื่อให้เขาปรนเปรอสวาทให้เสียมากกว่าโดนอุ้มมาโดยที่ไม่ได้เต็มใจ
“ตอนนี้นะหรือ เรียวรุ้งที่เขานำพาไปให้พานพบ ทำให้สะโพกอิ่มขยับตามจังหวะของเขาอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยพร่ำสอนสักนิด
“การเคลื่อนไหวของเขากับหล่อนสอดประสานก่อนที่ทุกอย่างจะถึงขีดสุดและเขาได้ปลดปล่อยสายธารพุ่งฉีดออกมา หากแต่มันถูกกักขังในเครื่องมือป้องกันโรคติดต่อ และป้องกันผู้หญิงที่เขาติดใจนำเรื่องนี้ไปแสวงหาผลประโยชน์ แน่นอนล่ะว่าตอนนี้เขาพึงใจหล่อน แต่เขาไม่ได้วางแผนอะไรที่ให้หล่อนเข้าใกล้ชีวิตเขามากกว่านี้ นอกจากอยากมีเวลาอยู่บนเตียงกับหล่อนให้เบื่อกันไปข้าง
“ฮือๆ คนบ้า ออกไปจากตัวฉันเลยนะ” มือเล็กผลักไหล่หนาของคนที่หอบอยู่บนร่างตัวเองออก... แม้เขาไม่ไหวติง แต่หล่อนก็เริ่มหยิกและข่วนเขา
“จะร้องไห้เรียกร้องเอาอะไรเพิ่มอีกล่ะ...” บอกเสียงเข้มแกมรำคาญเสียงร้องไห้สะอื้นที่ด่าทอเขา เขาชอบเสียงครางหวานๆ ยามที่กลางลำกายเบียดแทรกเข้าหาหล่อนมากกว่า น่าฟังกว่ากันเยอะ
“แค่คิดแล้วสิ่งที่นิ่งสงบหลังจากพ่นพิษไปก็ชูชันขึ้นอีกครั้ง เพียงเพราะเขานึกถึงเสียงครางของหล่อนหรือว่าส่วนนั้นมันเสียดสีกับเนื้อนุ่มๆ ของคนที่พยายามดิ้นรนประทุษร้ายเขาอยู่ก็ไม่แน่ใจ...
“ว้าย ไม่นะ ฉันไม่ยอมอีกนะ ปล่อยๆ” ดิ้นขลุกขลักเมื่อเขาถอยออกมาและจับข้อเท้าหล่อนเพื่อให้เข่าพับและแยกเพื่อให้กลีบกุหลาบที่ฉ่ำชื้นหากแต่แดงก่ำเพราะการเพิ่งถูกเสียดทานหนักหน่วงเมื่อครู่เผยแก่สายตา... คราวนี้ดิ้นหนีพล่านคนบ้าไม่รู้จักพอและไม่เคยฟังหล่อนอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
พยายามจะดึงขามาแล้วประทุษร้ายเขา แต่เขาแรงเยอะเป็นบ้า สองขาของเขากดต้นขาหล่อนแน่นให้อ้ากว้าง กลีบกุหลาบบานคลี่อวดสายตาเขา ต่างคนต่างหอบสะท้านพอกันคนหนึ่งเหนื่อยที่ต้องสู้ ส่วนอีกคนหอบเพราะอึดอัดใจกับภาพตรงหน้าที่แสนสวยงามจนอยากชำแรกแก่นกายแข็งขืนเข้าหากปากโพรงคับแน่นหากแต่ฉ่ำด้วยหยาดน้ำค้างนั่นให้ไวสมใจ
“ไม่นะ ไม่” ปลายนิ้วอุ่นของเขากรีดกลางยอดเกสรกุหลาบ ก่อนนิ้วหัวแม่มือจะกดลงแผ่วเบาปลุกเร้าให้คนที่ไม่อาจหลีกหนีจากสัมผัสจาบจ้วงล้ำลึก กลีบกุหลาบงามถูกเบียดไถบดขยี้ด้วยปลายนิ้ว น้ำหนักมือของเขาทำให้หล่อนแทบคลั่งกับการรุกล้ำในแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนว่ามันจะนำพาให้หล่อนมีความต้องการและซ่านเสียวอย่างท่วมท้น เขาปลุกมันขึ้นมาจากซอกหลืบลึกๆ ของความรู้สึกของหล่อนได้อย่างน่าพรั่นพรึง
มุกลดาร้องจนแทบไม่มีเสียงเมื่อใบหน้าหล่อคมที่สากระคายเพราะไรหนวดของเขานั้นลดลงมาหากลีบกุหลาบกลางร่างที่เขาปลุกเร้าเอาไว้ ก่อนที่เรียวลิ้นอุ่นๆ ผสานสมกับลมหายใจผะแผ่วจะสร้างความทรมานซ่านเสียวที่รอการปลดปล่อย ให้มันพุ่งทะยานจนคำพูดด่าทอที่เตรียมจะสาดใส่เขาผุดหายไปในลำคอทั้งหมดทั้งสิ้น
อ่อนอกอ่อนใจที่ไม่อาจต้านทาน หากแต่เรือนร่างของหล่อนกลับอิ่มเอมเปรมไปกับรสสวาทของผู้ชายวีไอพีแปลกหน้า
บทรักของเขาทำให้หล่อนลืมไปเลยว่าหล่อนกำลังจะเดินทางไปจากที่นี่เพื่อนหนีเขาให้สุดหล้า... เพียงแค่เขาลากหล่อนกลับมาขึ้นเตียงและเล้าโลมหญิงสาวก็ไม่อาจแข็งขืน
หยาดน้ำตาไหลจากหางตา ยามเมื่อเห็นคนที่นอนหอบอยู่ข้างๆ หลังจากเสพสมในเรือนกายของหล่อน
อย่างไรถึงจะหนีไปให้พ้นเขาได้ อย่างไร แค่คิดยังไม่ทันได้ถึงนาทีดี เสียงครางเหมือนจะร้องไห้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาคว้าตัวหล่อนด้วยแรงที่มากพอสมควร จนคนที่นอนระทวยจมกองน้ำตาอยู่ โผไปซบอกเขาแนบแน่น และเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงจะหนี
“ถ้าเธอยอมมาง่ายๆ แต่แรกฉันก็ไม่ต้องกักเก็บความต้องการไว้มากมายจนเธอต้องเหนื่อยขนาดนี้... เอาไว้ให้ฉันอิ่มเมื่อไหร่ ค่อยคุยค่าเสียหายแล้วกัน”
“อื๊อ ไม่นะ ปล่อย” คำเหยียดหยาม ทำให้ฮึดขึ้นอีกครา แต่มีหรือจะพ้นมือหนา เพราะเพียงแค่หล่อนดิ้นรนจะหนีและอ้าปากจะกัดหัวไหล่เขา มือที่บีบเคล้นสะโพกกลมของหล่อนอยู่ ก็ฟาดป้าบอย่างแรงจนเนื้อกระทบเนื้อเสียงดังลั่น เจ็บแทบบ้า หล่อนเลิกประทุษร้ายเขาไปโดยปริยาย
“ถ้าอยากเล่นซาดิสม์ก็นัดกันก่อนสิแม่คุณ”
“ไม่นะ ฉันไม่ได้ อื๊อ” บอกพลางดิ้นปัดป่ายมือเขาเป็นพัลวัน หล่อนยังสู้จนแทบจะขาดใจ แม้สุดท้าย จะพ่ายแรงของเขาก็ตามที