บทที่ 8

1401 คำ
ณ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนเรือสำราญโกลด์สตาร์ครูซ เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงจอดบนเรือเดินสมุทรลำหรูที่เดินเรืออยู่กลางทะเลเนื่องจากเรือนั้นออกจากท่าเทียบเรือสำราญไคตั๊กครูซเทอร์มินอลมาได้พักหนึ่งแล้ว ชานป๋อหลินและอลินจึงต้องมาขึ้นเรือโดยเฮลิคอปเตอร์ หลังจากที่นั่งรออย่างอึดอัดที่ห้องพักในระหว่างที่ชานป๋อหลินเข้าร่วมประชุมกับบริษัทรายย่อยที่ห้องประชุมของแรมชื่อดังในตึกไอเอฟซีมอล อลินไม่เข้าใจเลยว่าเขาโกรธหล่อนที่หล่อนหักหลังและแค้นจัดจนต้องไปตามหล่อนมาด้วยตัวเอง แต่เขากลับนิ่งใส่หล่อนและห้ามหล่อนมีตัวตนตั้งแต่สนามบิน เขาสั่งให้หล่อนรอเขาที่ห้องที่เขาเปิดไว้ให้แล้วก่อนไปยังขู่เข็ญว่าห้ามย้ายก้นหนีด้วยน้ำเสียงเย็นชา แม้ลูกน้องเขาดูจะร้อนรนเพื่อให้เขารีบเข้าประชุมเขาก็ยังมีว่าเวลามาสั่งแกมขู่หล่อนก่อนไปว่าห้ามคิดหนีเขาไปไหน พอรอจนแทบหลับและไม่กล้าไปไหนเพราะพยายามแล้วก็เจอคนของเขาเฝ้าอยู่หน้าห้องและไม่ยอมให้หล่อนออกทางประตู ไม่มีทางหนีนอกจากจากกระโดดทะลุกระจกออกมา ซึ่งแน่ล่ะว่าหล่อนไม่คิดทำ หลายชั่วโมงจนฟ้าเริ่มมืดและหล่อนก็เริ่มหิว เขาก็เข้ามาหาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่ยังเคร่งขรึมบ่งบอกชัดว่าไม่พอใจ จนตอนที่มาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ลานจอดของตึกใกล้เคียงกัน จนเฮลิคอปเตอร์ที่โดยสารมารด้วยกันมาจอดบนเรือที่แล่นอยู่กลางทะเลเขาก็ยังไม่ได้ดูมีทีท่าว่าจะอารมณ์ดีขึ้น เพื่ออะไรกันเนี่ย เขาบอกว่าหล่อนจะต้องอยู่บนเรือนี้กับเขาเป็นอาทิตย์เพราะเคยรับปากไว้ เขาอยากได้ตัวหล่อนนักหนาจนหล่อนเองก็เผลอไผลคิดว่าเขาคิดถึงหล่อนจนขาดไม่ได้อยู่วูบหนึ่งแล้วก็ห้ามใจตัวเองไปแล้ว ตอนนี้คืออะไรอย่างไรกันแน่ที่เขาทำเหมือนหล่อนไม่มีตัวตนจนทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว “เควินมาหรือยัง” เฮลิคอปเตอร์ที่มาส่งบินออกจากจุดจอดไปแล้ว เสียงเงียบลง เขาก็หันไปถามคนที่ยืนเรียงแถวรอรับอยู่ ดูเหมือนว่านอกจากเขาจะไม่สนใจและทำเหมือนหล่อนไม่มีตัวตนแล้ว คนสิบกว่าคนตรงหน้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักที่ปรายตานั้นมองหล่อน หากแต่ไม่ได้ไต่ถามหรือแสดงความรู้สึกใดๆ ด้วยเลย คืออลินเองก็ไม่ได้อยากสำคัญอะไรหรือว่าต้องการให้ต้อนรับอะไรดีเด่ แต่อยากจะถามคนต้นเรื่องที่ทำให้หล่อนต้องมาที่นี่แต่กลับทำเหมือนหล่อนเป็นอากาศได้รู้ในคำถามที่ว่า ให้หล่อนมาทำอะไรกัน เริ่มจะเหวี่ยงเงียบๆ ด้วยสายตาและสีหน้า แต่ก็แน่ล่ะ ไม่มีใครสนใจหล่อนเลยสักนิดเดียว “น่าจะอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นครับ” คนที่รอต้อนรับบอก และชี้ไปที่เฮลิคอปเตอร์ที่มองแต่ไกลและเห็นรูปมังกรสีดำพาดผงาดบนพื้นที่ด้านข้างของแมลงปอยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ของ เควิน สตีเฟน เฉิน วีไอพีหมายเลขสองของร้านที่เคยทำงาน ริมฝีปากรูปกระจับเผยอค้างเมื่อนึกได้ว่ามุกลดาถูกเควินจับตัวไป ตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ ถ้ามีโอกาสต้องรีบถามเขาให้รู้เรื่องว่าเขาเป็นคนทำให้เพื่อนของหล่อนได้รับอันตรายไหม เครื่องร่อนลงจอด พร้อมกับแรงลมพัดปลิวไสว ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ด้วยสีหน้าเหมือนอารมณ์เสียกับอะไรบางอย่างมาก่อนหน้านี้เอามากๆ “เอ่อ ท่านครับ... ผมลืมรายงานไปว่า วันนี้คุณหนูหลินเพ่ย ถิงก็อยู่บนเรือสำราญด้วยนะครับ” คราวนี้ทั้งชานป๋อหลินและคนที่มารอต้อนรับเขา หันมามองหล่อนพร้อมๆ กัน ก่อนที่มาเฟียใหญ่แห่งวงการอสังหาจะยักไหล่ “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก ฉันจัดการได้” ก้อนแข็งจุกในลำคอเมื่อได้ยินเช่นนั้น คำว่าเขาจัดการได้นั้นไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไรถึงจะแน่ชัด แต่ที่รู้ก็คือหลินเพ่ย ถิงคือทายาทบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากแผ่นดินใหญ่และเป็นคู่หมั้นของชานป๋อหลินที่ทั่วทั้งแดนมังกรต่างก็รู้จักว่าพวกเขาเป็นคู่กิ่งทองใบหยกกัน คนที่แทบไม่มีตัวตนอยู่แล้วอยากจะจางหายไปเป็นเพียงแค่ฟองอากาศยิ่งนัก ณ ตอนนี้ หลังจากที่ส่งเควินและเหวินไท่จือลงที่เรือแล้วเรียบร้อย แมลงปอยักษ์ก็ขับเคลื่อนออกไปอย่างสง่างาม ท่ามกลางแสงดาวพราวระยับของท้องฟ้ายามราตรี เควินเดินเข้ามาหาชานป๋อหลินและกลุ่มคนที่ค้อมหัวยืนเรียงแถวต้อนรับเขาอยู่ “ป๋อหลิน... นายมารอรับฉันเหรอ ไม่น่าเป็นไปได้นะ” เอ่ยถามคนตรงหน้า แต่สายตาเขากลับมองมาที่อลินเพราะหล่อนจ้องเขาแต่แรก เห็นรอยแดงที่แก้มเขาแล้วก็ยิ่งจ้องใหญ่ ถ้าเขาให้คนมาอุ้มเพิร์ลไปจริงรอยนั้นคงเป็นฝีมือเพิร์ลแน่นอน “ฉันติดงาน เพิ่งมาถึงน่ะ” คนตอบบอกยิ้มๆ และคงเห็นว่าสายตาของอลินและเควินผสานกัน “ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วก็พยักหน้าให้กับ อลินและลูกน้องของตัวเองเดินนำไปยังลิฟต์ อลินมองเควินแต่ก็คิดว่ายังไม่ใช่โอกาสที่จะพูดเลยตัดใจเดินตามหลังชานป๋อหลินไปแม้จะอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ก็ตามที “อุ้ย” คนที่เดินตามป๋อหลินเข้าไปในลิฟต์อุทานเพราะหล่อนถูกคว้าแขนให้เข้าไปยืนใกล้ชานป๋อหลิน หันไปด้านนอกยังเห็นเควินทอดมองมาที่หล่อนอยู่ ดูเหมือนว่าคนข้างๆ หล่อนกำลังไม่พอใจ อลินกำลังจะหันไปอธิบายว่าต้องการถามเขาเรื่องเพื่อน แต่ดวงหน้าบึ้งตึงก็ก้มลงมาหาหล่อนแล้วเขาก็กระชากหล่อนเข้าไปใกล้ให้รับจูบประกาศศักดาของเขา ก่อนประตูลิฟต์จะปิดลง... ก่อนที่เขาจะถอนจูบเพียงพริบตาเพราะพ้นสายตาของเควินแล้ว ชานป๋อหลินดูอารมณ์ไม่ค่อยนิ่งและยิ่งเห็นว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ อลินก็เผลอเช็ดปากอย่างเสียอกเสียใจ กับเขาหล่อนก็คงเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่เขาจะทำยังไงกับหล่อนก็ได้จะลากมาควงบนเรือสำราญที่อาจจะเผชิญหน้าคู่หมั้นเขาเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นเหมือนผู้หญิงที่เพื่อนเขาอยากคว้าไปจากมือเขาเมื่อไหร่ก็ได้หากมีเงินมากพอ เขาเลยต้องประกาศศักดาแสดงความเป็นเจ้าของโดยไม่นึกถึงจิตใจหล่อน... กัดริมฝีปากแน่นเมื่อรับรู้ว่าตำแหน่งที่ยืนอยู่ตอนนี้นั้นอัปยศอดสูแค่ไหน ให้พ้นอาทิตย์นี่ไปก่อนเถิด หล่อนจะหนีไปจากตรงนี้ให้พ้นและลืมเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้หมด “ฉันเคยบอกเธอไว้แล้วใช่ไหมว่าอยู่ที่นี่ ถ้าไม่นับตอนอยู่บนเตียงให้เธอทำตัวไร้ตัวตนไม่รำคาญสายตาฉัน อย่าให้เห็นว่าเธอพยายามแสดงว่ามีตัวตนต่อหน้าใครอีก... เธอน่าจะพอรู้ว่าฉันไม่ชอบถูกหักหลัง” คำพูดของเขาทำให้หล่อนน้ำตาปริ่มขอบตาเพราะเป็นหล่อนเขาถึงได้คิดเช่นนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอธิบายเลยสักนิดเดียว แม้อยากจะเถียงว่าหล่อนไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่จุดที่ยืนอยู่ก็คงไม่ทำให้หล่อนได้รับความเชื่อถือไว้ใจจากเขาได้สักเท่าไรนัก ได้แต่บอกว่าเพราะรับปากไว้และเขาทวงสัญญาหรอกหล่อนจึงซื้อได้ด้วยเงินในสายตาเขา แต่พ้นจากตอนนี้ไป ถ้าเขาเอ่ยปากซื้อตัวหล่อนไปเหยียบย่ำศักดิ์ศรี วันนั้นหล่อนจะเป็นคนที่เขาซื้อไม่ได้ แม้ว่าจะจ่ายด้วยทั้งหมดที่ชีวิตเขามีก็ตามที...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม