เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่ชั้นยี่สิบห้า สงครามเดินออกจากลิฟท์ก่อนตวัดข้อมือขึ้นมองนาฬิกา เขามาก่อนเวลาสิบนาที พนักงานหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าลิฟท์นำทางเขาไปสู่ห้องประชุมในทันที
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง พนักงานคนเดิมก็จัดการเปิดประตูให้ สงครามยิ้มและกล่าวขอบคุณก่อนสาวเท้าเข้าไปข้างใน
“ อ้าว สถาปนิกที่เจ๋งที่สุดในเมืองไทยมาถึงแล้ว สวัสดีคุณสงคราม ” ชายรูปร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่สวมสูทดูภูมิฐานเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มทันทีที่สงครามไปถึง เขายิ้มรับและยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพพร้อมทักทายกลับไป รวมทั้งทุกคนที่อยู่ในห้องด้วย แม้ว่าจะมาก่อนเวลา กระนั้นก็มีผู้เข้าร่วมประชุมอยู่เต็มห้องแล้ว
“ สวัสดีครับท่านอลังการ ”
“ สงคราม ผมขอแนะนำลูกชายให้รู้จัก ไปเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ต่างประเทศเสียหลายปี นี่ก็พึ่งกลับมาเพื่อแบ่งเบาภาระของผม ไอ้ผมมันก็แก่แล้วน่ะนะ ไม่รู้จะลงโลงวันไหน ธิเบต นี่คุณสงครามลูก สถาปนิกชื่อดังที่พ่อเล่าให้ฟัง ”
“ สวัสดีครับคุณสงคราม คุณพ่อชื่นชมคุณมาก ๆ เล่าให้ผมฟังตลอดเลย วันนี้ดีใจที่ได้พบตัวจริงเสียที ผมธิเบตครับ ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคล้ายผู้เป็นบิดา หากแต่มีความขาวใสละม้ายโอปป้าเกาหลี อาจจะเป็นเพราะว่าไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเสียนาน
ทว่าหนุ่มหล่อตรงหน้าไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากสงครามได้มากเท่าหญิงสาวที่ยืนอยู่เคียงข้าง
แม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพง แม้ว่าใบหน้าใสนั้นจะมีเครื่องสำอางฉาบไว้ แม้ผมดกดำสลวยที่เขาเคยเอามาพันนิ้วเล่นเสมอนั้นจะถูกเคลือบไว้ด้วยสีบลอนด์อ่อนสวยงาม
แม้ว่าตอนนี้เธอจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากทีเดียวแต่เขาก็ยังจำได้สนิท ไม่มีวันลืม...
“ ชล ! ”
เขาหลุดปากเรียกชื่อเธอออกไปอย่างยั้งไม่อยู่ ดวงตาคมกริบเบิกกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มอย่างดีใจ ดีใจที่สุด...
“ อ้าว คุณสงครามรู้จักชลด้วยเหรอครับ ” ธิเบตเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เสียงใสเอ่ยตอบราบเรียบ ทว่าเสมือนปักมีดลงไปยังกลางใจของสงคราม
“ อ๋อ เคยเรียนที่เดียวกันน่ะค่ะ แค่คนรู้จัก ”
แค่คนรู้จัก แค่คนรู้จัก แค่คนรู้จัก ! ...
มันเหมือนเสียงสะท้อนดังกลับไปกลับมาในห้องโถงที่ก้องอยู่ในหัวสมองของสงครามตอนนี้
หลังจากคืนนั้น เธอหายไป หายไปจากชีวิตเขา สงครามเฝ้าถามจากเพื่อนฝูงและครอบครัว จนกระทั่งทราบว่าเธอไปเรียนต่อที่เมืองนอก
เขาพยายามติดต่อเธอ แต่เธอปิดกั้นเขาทุกช่องทาง บากหน้าไปขอที่อยู่กับทางครอบครัวก็คงถูกสั่งไว้ว่าห้ามให้ใครเด็ดขาด
เขาสูญเสียเธอไปแล้ว เสียไปแล้วจริง ๆ ...
เจ็ดปีเต็ม เป็นเจ็ดปีที่เขาไม่เคยลบเลือนเธอออกไปจากใจได้เลยแม้แต่วันเดียว
รัก... คิดถึง... มาก...
แต่วันนี้ เธอยืนอยู่ตรงหน้า เพียงเพื่อทำท่าทีเฉยชา และบอกว่าเขาเป็นแค่คนรู้จัก
ปวดใจชะมัดเลยเว้ยเฮ้ย !
“ สวัสดีค่ะคุณสงคราม ” เธอเอ่ยทักทายมาอย่างห่างเหิน สงครามเรียกสติให้กลับคืนมาก่อนทักทายกลับ
“ สวัสดีชล ไม่เจอกันเจ็ดปี สบายดีหรือเปล่า ” เธอทำเพียงพยักหน้าแล้วส่งยิ้ม แต่มันเป็นยิ้มที่ดูเย็นชาเหลือเกิน ก่อนที่ธิเบตจะเอ่ยถ้อยคำที่เหมือนจะฝังกลบเขาลงไปในหลุมลึกมากขึ้น
“ คุณสงครามคงจะพอรู้จักชลบ้างแล้วผิวเผิน ผมขออนุญาตแนะนำอีกทีละกันนะครับ สายชลเป็นอินทีเรียที่ไซด์ ที่เก่งมาก ชลจบและทำงานที่โน่นมาตลอดหลายปี แม้ชื่อเสียงในไทยจะไม่เคยมี แต่ที่โน่นชลดังมากและคิวงานเต็มตลอด ผมก็เลยชักชวนให้มาลองช่วยตกแต่งรีโนเวทตึกเก่าที่คุณพ่อพึ่งได้มา โดยใช้ฐานะพิเศษในการเป็นคนรู้ใจบังคับอยู่กลาย ๆ ”
คนรู้ใจ...
คำนั้นมันทำร้ายผู้ชายคนนี้ฉิบหาย !
แล้วกูเป็นใครวะ ผัวคืนเดียวงั้นสิ !
สงครามยืนสงบนิ่งทว่าขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน สถานการณ์ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป มันช็อคซ้อนช็อคครั้งแล้วครั้งเล่า
“ เอาล่ะ แนะนำกันพอสังเขปแล้วก็เริ่มประชุมเลยเถอะนะ พิมลพรรณ แจกแฟ้มเลย ”
ท่านประธานอลังการสั่งเลขานุการคู่ใจให้แจกเอกสารงานให้กับทุกคนที่นั่น ก่อนจะเปิดประชุมอย่างเป็นทางการ
ตลอดระยะเวลาสามชั่วโมงในห้องประชุม สงครามมองไปที่สายชลไม่รู้กี่ร้อยพันรอบ แต่เธอไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขาทั้งสิ้น สายตาเธอจดจ้องอยู่ที่จอมอนิเตอร์ หรือไม่ก็แค่ที่ไอ้หนุ่มรูปหล่อพ่อรวยนั่น แถมหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสบายอกสบายใจ
เขานึกอยากจะพรวดพราดขึ้นไปบนโต๊ะแล้วกระโดดถีบหน้าขาว ๆ ของไอ้ธิเบตนั่นให้หงายหลังหัวฟาดพื้นเป็นสิบ ๆ หน แต่ก็ทำได้เพียงนั่งมองแล้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวราวกับหมาบ้า เพราะหากทำอย่างนั้นเข้าจริง ๆ ท่านอลังการคงไม่ปล่อยให้เขามีลมหายใจออกไปแน่ ๆ โทษฐานที่ไปเล่นงานลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของท่านแบบนั้น คงได้ตายกลายเป็นผีเฝ้าบริษัทอลังการเรียลเอสเตทแบบศพไม่สวย ไม่ได้ส่งให้พ่อแม่ฌาปนกิจด้วยซ้ำ
สิ่งเดียวที่ปะพรมหัวใจเขาให้ชุ่มชื้นได้ก็คือ พรุ่งนี้ เขาต้องไปดูหน้างานกับเธอเพียงสองคน สงครามกับสายชลเท่านั้น เพราะไอ้ตี๋หน้าขาวมันต้องไปเซ็นสัญญาอะไรสักอย่างกับท่านอลังการผู้เป็นพ่อ
แค่นั้นก็คุ้มค่าเพียงพอที่สงครามจะหาทางรื้อฟื้นให้สายชลจดจำเพื่อนรักคนนี้ได้แล้ว !
***
ตีสี่ของอีกวัน
สงครามแหกขี้ตาตื่นมาทำอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่นัดดูงานมันสิบโมงตรงโน่น เขาอาบน้ำอาบท่า เซ็ทผมอย่างบรรจง เลือกเสื้อผ้าชุดหล่อที่สุด เดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่น ทำตัวอย่างกับว่าหนุ่มนัดสาวไปเดทแรก ทั้ง ๆ ที่เขาและสายชลมีกันและกันมาร่วมค่อนชีวิต
วันเวลาเจ็ดปี มันพรากเธอจากเขาไปจนลิบลับ
แต่เขาไม่มีทางให้มันเป็นชั่วนิรันดร์ เขาจะทำให้เธอกลับมา กลับมาสู่อ้อมอกของผู้ชายคนนี้
เพื่อนรักคนนี้ คนที่รักเธอจนสุดหัวใจ...