ไม่มีค่าให้จำ

1108 คำ
          เก้าโมงตรง ร่างสูงใหญ่ควบรถจักรยานยนต์ Ducati  คันโปรด ตะบึงห้อไปสู่จุดหมายปลายทางในอีกสี่สิบนาทีถัดมา เขาเข้าไปเดินสำรวจหน้างาน ก่อนที่จะได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดในเวลาเก้าโมงห้าสิบห้า           สงครามยิ้มแล้วเดินออกไปต้อนรับเธอที่หน้าประตูทันที           เธอเปิดประตูลงมาจากรถพร้อมกระเป๋าเอกสาร วันนี้ร่างบอบบางสวมกางเกงยีนสีออกโทนฟ้าคราม เสื้อเชิ้ตสีขาวดูทะมัดทะแมง ผมสลวยถูกรวบถักเป็นเปียเดี่ยวไว้กลางหลังง่าย ๆ ใบหน้าหวานไม่ได้แต่งแต้มอะไรไว้มากนัก มันดูเป็นธรรมชาติ ดูสวยใสน่ารักดังเช่นสายชลคนเดิม           สายชลของสงครามคนนั้น...           “ ชล มาแล้วเหรอ ”           เสียงทุ้มเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มอย่างดีอกดีใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหา เธอเบี่ยงตัวหลบแล้วสาวเท้าเข้าไปในหน้างานโดยไม่พูดไม่จา           เฉยชา ห่างเหิน แต่เขาจะไม่ละความพยายาม…           ร่างสูงสาวเท้าตามเธอไปติด ๆ หญิงสาวหยิบไอแพดขึ้นมาบันทึกภาพและโน้ตงานอย่างขะมักเขม้น           “ ชลกินข้าวเช้ามายัง ”          เธอยืนนิ่ง ไม่ตอบอะไร...           “ เดี๋ยวเสร็จงานเราไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านโปรดของชลกันไหม ที่ตอนเรียนไปกินกันประจำน่ะ ชลไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเสียนาน ไม่รู้มีก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ แบบนี้กินหรือเปล่า ”         เงียบ แทนคำตอบ...           “ เราขอโทษนะชล สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ชลรู้ไหมว่าไม่มีวันไหนที่เราลืมชลได้เลย ”           เธอก็ยังคงเงียบ ราวกับเขาไม่มีตัวตน...           “ เราพยายามหาทางติดต่อแต่ก็ไม่สามารถ จนหมดปัญญา เราทรมานใจมาก ไม่มีวันไหนที่เราไม่คิดถึงชล ”           ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเคย เสียงทุ้มเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยถ้อยคำจากเบื้องลึกแห่งหัวใจออกไป                 “ ชล เรารักชลนะ ”           ครานี้เธอไม่ได้เงียบอย่างที่เป็นมา           “ รีบทำงานเถอะ ฉันไม่มีเวลาว่างมากนัก ช่วงบ่ายมีงานต้องเคลียร์ให้เสร็จ ช่วงเย็นมีนัด ”           สงครามฉุนกึก นี่เธอเห็นเขาเป็นอะไร ถ้อยคำแทนความรู้สึกจากหัวใจของเขามันไม่มีค่ากับเธอเลยใช่ไหม           “ นัดกับใคร ไอ้ธิเบตนั่นใช่ไหมชล ” เธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วตอบมาอย่างเบื่อหน่าย           “ ฉันจะนัดกับใครมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของเพื่อนร่วมงานอย่างคุณ กรุณารีบทำงานเถอะค่ะ ”ความเฉยชาเปรียบเสมือนชนวนให้เกิดสงคราม แถมสงครามกับคนพาลอย่างนายสงครามซะด้วย           “ รู้จักกันนานหรือยังกับไอ้ธิเบตหน้าขาวนั่นน่ะ ”           “ คุณธิเบตสั่งว่าอยากได้ผนังกับเคาน์เตอร์เป็นแบบปูนเปลือย ตรงจุดนี้ฉันจะเน้นโทนสีเทานะคะ มีเคาน์เตอร์ตรงนี้ ”           “ คนเหี้ยไรชื่อธิเบตวะ พ่อแม่มันได้กันที่ธิเบตเหรอ ”           “ ส่วนครัว แน่นอนว่าต้องตอบโจทย์ชีวิตสมัยใหม่ ครัวเป็นครัวฝรั่ง คุณธิเบตสั่งว่าอยากให้มีโต๊ะทานข้าวเล็ก ๆ  ในครัวเลย ”           “ จะเชื่อได้เหรอว่ามันยังไม่มีเมีย รูปหล่อพ่อรวยขนาดนี้ ไปไว้ใจมันได้ยังไง ”           “ ส่วนห้องรับแขก คุณธิเบตอยากให้แต่งเป็นวินเทจ ดังนั้นผนังอยากให้เป็นเบจหรือไม่ก็เทาซอฟท์ ”           “ ถามจริง ๆ เหอะ ชลได้กับมันหรือยัง ”           สายชลหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกยาว ๆ พยายามข่มใจไม่ให้แตกระเบิดต่อชนวนที่สงครามพยายามก่อขึ้น           “ กรุณาโฟกัสที่งานด้วย มืออาชีพอย่างฉันไม่มีเวลาที่จะเสวนาเรื่องไร้สาระอะไรทั้งนั้น ” มือใหญ่เอื้อมไปจับข้อมือเล็กนั้น เธอสะบัดมือออกทันที           “ อย่ามาทำรุ่มร่ามแถวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องคุณธิเบต ให้ยกเลิกจ้างบริษัทของคุณ ”           ร่างใหญ่สาวเท้าเข้าหา รังสีอันตรายแผ่ซ่าน สายชลก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติจนกระทั่งไปจนมุมที่ผนัง เขายกแขนทั้งสองขึ้นคร่อมกักขังเธอไว้ไม่ให้ไปไหน ตาคมกริบผสานกับตากลมโตที่พยายามข่มความตระหนกไว้อย่างเต็มที่           “ เลิกทำเป็นลืมเรา เลิกทำเหมือนเราเป็นคนอื่นเสียที สายชล เรารู้จักกันมาค่อนชีวิต แล้วชลก็หนีหาย หายไปจากชีวิตเราโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำไมทำกับเราแบบนี้ ” ใบหน้าหวาน เชิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตอกกลับบ้าง           “ เรื่องบางเรื่องที่ผ่านมาในชีวิต มันก็ไม่ได้มีค่าให้จดจำเสมอไป ” ตาคมนั้นฉายแววปวดร้าวอย่างเห็นได้ชัด           “ ชลจะบอกว่าชลลืมเรา ลืมมิตรภาพอันงดงามลืมสายใยความผูกพัน ลืมช่วงเวลาดี ๆ ที่เรามีร่วมกันมาตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ ” เธอยกยิ้มที่มุมปาก แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา           “ ใช่ ฉันไม่มีเมมโมรี่อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น บอกแล้วไง ของบางอย่างมันก็ไม่ได้มีค่าให้จดจำ แล้วก็กรุณา    อยู่ให้ห่าง ๆ ฉันด้วย ” พูดจบก็พยายามใช้มือทั้งสองดันไหล่แกร่งให้ออกห่างหากแต่ไม่เป็นผล ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ่งก้มลงมาใกล้ มือใหญ่กดตรึงผสานมือน้อยไว้บนฝาผนังแนบแน่น กายกำยำเบียดกดเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยอีกครั้ง           “ ชลไม่ลืมหรอก ไม่มีทางลืมผู้ชายคนแรกของชลได้ สายชลไม่มีทางลืมสงครามคนนี้ ” เธอส่ายศีรษะก่อนตอบกลับเบา ๆ ทว่าบาดลึกไปถึงหัวใจชายหนุ่ม           “ เรื่องคืนนั้น นึกเสียว่าทำทานให้หมาก็แล้วกัน มันเป็นแค่เรื่องราวไร้สาระสำหรับชีวิตของฉัน บอกแล้วว่ามันไม่มีค่าให้จำ ”           “ ชล ! ” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ พลันเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของสงครามก็ดังขึ้น หญิงสาวใช้โอกาสนั้นดันร่างแกร่งให้ออกห่างแล้วเดินออกประตูตรงไปยังรถทันที           ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มากดรับด้วยท่าทางหงุดหงิด           “ ครับ ”           “ นั่นคุณสงครามหรือเปล่า ”           “ ใช่ ไม่ทราบว่าจากไหนครับ ”           “ ผมธิเบตครับ พอดีผมโทรหาชลแล้วเธอไม่รับสาย เลยโทรเข้าเครื่องคุณเพราะทราบว่าวันนี้ต้องมาดูหน้างานด้วยกัน ”           “ กำลังเดินดูหน้างานกันอยู่ ชลคงลืมมือถือไว้ที่รถ คุณธิเบตมีอะไรสำคัญเร่งด่วนหรือเปล่าครับ ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม