เพราะหัวใจ (ไม่) รัก#6 แต่งก็แต่ง

1881 คำ
“ไม่! ผมไม่แต่ง” ภาคินค้านหัวชนฝาไม่ยอมทำตามคำสั่งของบิดา เขากับเธอไม่ได้มีอะไรกันเลย จะให้แต่งงานได้ยังไง อีกอย่าง เขายังไม่อยากมีครอบครัว ยังอยากใช้ชีวิตแบบโสด ๆ ไม่ต้องมีพันธะใด ๆ จะไปไหนก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ “ไม่ได้! ยังไงก็ต้องแต่ง” คุณพ่อสุดหล่อได้ยินแบบนั้นก็เครียดขึ้นมาทันที ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายถึงได้ปฏิเสธเสียงแข็งทั้ง ๆ ที่ตนเองทำผิด “คุณพ่อครับ ผมไม่อยากได้เมียหน้าตาแบบนี้” “ท่านประธาน” หญิงสาวพูดเสียงอ่อย มองคนปากเสียด้วยสายตาผิดหวัง ถึงเธอจะมีหน้าไม่สะสวย หุ่นไม่ได้บอบบางเหมือนคู่ควงของเขาแต่ภาคินก็ไม่ควรพูดจาดูถูกเธอแบบนี้ “ภาคิน!” กลิ่นจันทร์เรียกชื่อลูกชายเสียงดังด้วยความไม่พอใจเธอไม่คิดเลยว่าจะได้ยินประโยคดูถูกผู้หญิงแบบนี้จากปากของภาคิน “ทำไมพี่คินพูดแบบนี้คะ หนูเดือนไม่เห็นว่าน้องอุ่นจะหน้าตาแย่ตรงไหน ออกจะสวยด้วยซ้ำ ดูสิ ปากนิดจมูกหน่อย ผิวพรรณก็ดี จริงไหมหนูดาว” “จริง! พี่คินพูดแบบนี้เท่ากับดูถูกนะคะ” สองแฝดไม่พอใจคำพูดของพี่ชายเอามาก ๆ ที่กล้ามาว่าไออุ่น ทางด้านภาคินเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังไม่พอใจกับคำพูดของเขาก็ตวัดสายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งหน้าบึ้งข้าง ๆ มารดาด้วยความขุ่นเคือง เพราะเธอเป็นต้นเหตุทำให้เขาถูกคนในครอบครัวตำหนิ “ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้เลย” “คุณแม่!” “ขอโทษน้อง เดี๋ยวนี้” “เอ่อ... คุณท่านคะ ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เรื่องแค่นี้เล็กน้อย” “ไม่ได้หรอกจ้ะหนูอุ่น สุภาพบุรุษเขาไม่พูดดูถูกผู้หญิงหรอก อ้อแล้วไม่ต้องเรียกแม่ว่าคุณท่านด้วย เรียกแม่เถอะจ้ะ” กลิ่นจันทร์สงสารว่าที่ลูกสะใภ้จับใจ จึงจับมือของไออุ่นมากุมเพื่อให้เธอรู้ว่าตนเองไม่ได้เข้าข้างลูกชาย ทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากเพราะขาดแม่มานาน พอได้รับความอบอุ่นจากกลิ่นจันทร์น้ำตาก็ซึมอย่างไม่รู้ตัว “ขอบคุณมากค่ะคุณแม่ที่เมตตาอุ่น” “ไม่ต้องร้องไห้ลูก ยังไงเรื่องนี้แม่เข้าข้างหนูอุ่น” “แต่คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ทำไมต้องแต่งงานด้วย” “ฮึก ๆ พี่คิมดูลูกชายคนโตของพี่สิ กลิ่นเสียใจ” คนเจ้าน้ำตาเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวดีไม่ยอมง่าย ๆ จึงเริ่มแผนการเรียกร้องความสนใจจากสามีและลูก ๆ เธอรู้ดีว่าถ้าใช้วิธีนี้ ทั้งลูกและสามีต้องยอมทำตามความต้องการของเธอทุกอย่างแน่ ยังไงลูกสะใภ้คนโตของตระกูลกุลกานนต์ต้องเป็นไออุ่นเท่านั้น “ไม่ต้องร้องครับที่รัก เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง เจ้าคิน ขอโทษน้องซะ แล้วก็ตกลงแต่งงานด้วย ถ้าไม่อยากให้แม่แกเสียใจไปมากกว่านี้” “คุณแม่ไม่ต้องร้องนะครับ ถ้าพี่คินไม่ยอมแต่งงานเดี๋ยวผมแต่งเอง ผมยังโสด” ภาวินเห็นมารดาขยิบตาให้ตนเองจึงเดินไปนั่งบนพื้นแล้วจับมือของคุณแม่ขึ้นมาซบที่แก้มแสร้งเล่นละครตาม เขาทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จราวกับเป็นนักแสดงมืออาชีพ เมื่อแอบมองปฏิกิริยาของพี่ชายแล้วเห็นภาคินเริ่มทำหน้าไม่ถูกก็สะกิดตัวพี่สาวสองคนเบา ๆ ให้ช่วยด้วย “เราสองคนเห็นด้วยกับเจ้าวินค่ะ ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ ฝ่ายหญิงจะเสียหายแค่ไหนถ้ามีคนรู้ จริงไหมหนูเดือน” “ใช่ พี่ต้องขอโทษน้องอุ่นด้วยนะจ๊ะที่มีพี่ชายนิสัยแย่ ไม่เป็นสุภาพบุรุษ” “ทุกคนคะ คือ... อุ่นขอขอบคุณทุกคนมากที่ไม่รังเกียจอุ่น แต่อุ่นกับท่านประธานไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ไม่จำเป็นต้องแต่งงานหรอกค่ะ อุ่นเป็นคนไม่มีชื่อเสียง ไม่จำเป็นต้องแคร์ ใครจะพูดอะไรก็เรื่องของเขา อุ่นรับได้ค่ะ” “แต่แม่รับไม่ได้ ฮือ ๆ แม่ผิดเองที่เลี้ยงเขาไม่ได้เรื่อง เลี้ยงแบบตามใจ ทำให้เขาเป็นผู้ชายนิสัยเสีย ปากร้าย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ” “คุณแม่อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ อุ่นเข้าใจ คนสันดานแย่ไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่หรอกค่ะ มันอยู่ที่ตัวบุคคล” “โธ่ หนูอุ่น ๆใจหนูประเสริฐมากลูก” กลิ่นจันทร์เอ็นดูว่าที่ลูกสะใภ้มาก จึงดึงตัวไออุ่นเข้ามากอดแล้วร้องไห้เสียงดังเพื่อกดดันลูกชาย เธอเชื่อว่าภาคินต้องตอบตกลงแต่งงานเพราะเขารักพ่อแม่มาก ไม่มีวันทำให้พ่อกับแม่เสียใจแน่นอน ดูจากสีหน้าและแววตาก็รู้ว่าเขากำลังสับสน ทางด้านภาคิน เขายืนมองภาพตรงหน้าด้วยความเหนื่อยใจเมื่อโดนบิดา มารดา น้องชาย น้องสาว และไออุ่นมองว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ เขาถอนหายใจไปหลายรอบ พยายามคิดหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่เห็นหนทาง ยิ่งมารดาต้องมาเสียน้ำตาให้กับคำพูดและการกระทำของตนเองก็ยิ่งรู้สึกแย่ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะสงสารมารดาของชายหนุ่ม ไออุ่นจึงไม่ปฏิเสธเรื่องแต่งงานอีก เธอเป็นคนไม่มีครอบครัว ถ้าได้แต่งงานกับภาคินก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยพ่อแม่พี่น้องของเขาก็เป็นคนดี เธอจะได้มีครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างความคิดด้านลบเด้งเข้ามาในหัวของไออุ่นในระหว่างที่กำลังกอดกับกลิ่นจันทร์หญิงสาวเริ่มสับสน ใจหนึ่งก็อยากแต่งงาน อีกใจก็ไม่อยากแต่งงาน “เฮ้อ พ่อก็ต้องขอโทษหนูอุ่นเหมือนกันนะลูก” “พวกเราด้วยครับ/ค่ะ” “พอแล้วทุกคน ผมยอมแพ้” ภาคินเห็นพ่อแม่พี่น้องเข้าไปกอดปลอบหญิงสาวแล้วพูดขอโทษแทนเขาทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ผิดก็ยอมยกธงขาว บอกตรง ๆ ว่าเขาทนไม่ได้จริง ๆ ที่เห็นคนในครอบครัวต้องมาเสียใจเพราะการกระทำของตน ดังนั้นจึงยอมที่จะทำตามความต้องการของมารดา “ลูกหมายความว่ายังไงจ๊ะคิน” “ผมขอคุยกับไออุ่นสองคนก่อนนะครับ” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินเข้าไปหาไออุ่น จากนั้นก็ดึงแขนเธออย่างไม่เบานัก แล้วลากเข้าไปในห้องนอนเพื่อตกลงอะไรบางอย่างท่ามกลางความสงสัยของคนในครอบครัว เหตุใดภาคินจึงต้องการคุยกับไออุ่นแค่สองคน หรือว่าเขามีแผนอะไร เมื่อประตูห้องนอนปิดลง ภาคินก็ดึงมือของตนออกจากแขนของเธอแล้วก้าวเท้าฉับ ๆ มายืนอยู่กลางห้อง มองคนที่กำลังเดินตามหลังมาช้า ๆด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาดัง ๆ “นั่งลง ผมมีเรื่องจะตกลงกับคุณ” “ค่ะ ท่านประธาน” “เอาล่ะ ฟังดี ๆ ข้อแรก ผมจะแต่งงานกับคุณ แต่... เราจะไม่จัดงานแต่งงาน” “หมายความว่ายังไง ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ” “ก็หมายความว่าผมจะยอมจดทะเบียนสมรสกับคุณ แต่จะไม่ยอมจัดงานแต่งประกาศให้โลกรู้แน่นอน” “อืม เข้าใจแล้วค่ะ” “เข้าใจก็ดี ข้อสอง ภรรยาของผมต้องไม่ทำตัวให้เสียชื่อเสียง ข้อสาม ห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของผม ข้อสี่ คุณต้องย้ายไปอยู่กับผมที่คอนโดในกรุงเทพ อืมมมม ยังมีอีกหลายข้อนะ แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อน” ข้อตกลงที่ชายหนุ่มพูดมาไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญเกินกว่าจะทำตามเพราะเธอทำได้อยู่แล้ว แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่ข้องใจคือ ถ้าแต่งงานแล้วต้องย้ายไปอยู่กับเขาที่คอนโดในกรุงเทพ แสดงว่าเธอจะต้องจากบ้านจากเพื่อนน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอควรตกลงแต่งงานกับเขาไหม แต่พอคิดถึงใบหน้าพ่อแม่พี่น้องของภาคิน เธอกลับปฏิเสธการแต่งงานไม่ลง สุดท้ายความเห็นแก่ตัวก็นำพาให้เธอตอบตกลงชายหนุ่ม “โอเคค่ะ ดิฉันจะทำตามข้อตกลงของท่านประธาน แต่ท่านประธานต้องไม่ห้ามดิฉันกลับมาเยี่ยมคนที่นี่ ดิฉันจะมาตอนไหนก็ได้ และห้ามออกคำสั่งโดยไร้เหตุผล แล้วก็เอ่อ... แล้วก็...” “แล้วก็อะไร พูดมาสิ” “เอ่อ... ห้ามมีอะไรกับดิฉัน” “หึ ๆ ข้อนี้ผมทำไม่ได้ คนเป็นผัวเมียกัน เรื่องบนเตียงเป็นเรื่องปกติ ผมเป็นผู้ชายมีความต้องการ หรือคุณจะให้ผมไปนอนกับคนอื่น” “เฮ้อ ไม่มีทางเลือกสินะ” เธอคิดตามเขาแล้วรู้สึกว่าตนคงรับไม่ได้แน่ถ้าสามีไปนอนกับผู้หญิงอื่น “ใช่ เตรียมตัวเตรียมใจก็แล้วกัน ผมเอาคุณแน่ ไปเถอะ ทุกคนรอฟังคำตอบอยู่ ส่วนเรื่องหน้าตาของคุณที่ผมพูดก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้ตั้งใจ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะ” เขาพูดแบบเขิน ๆ ทำให้คนฟังหัวใจพองโต พยักหน้ารับคำขอโทษของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปหาคนที่รออยู่เพื่อแจ้งพวกเขา “พวกเราสองคนตกลงจะแต่งงานกันครับ” “จริงเหรอคิน จริงเหรอหนูอุ่น” “ครับ/ค่ะ คุณแม่” “ว้าว แม่ดีใจมากเลยลูก เราจะจัดงานแต่งกันวันไหนดี” “เราสองคนจะไม่จัดงานแต่งครับ แค่จดทะเบียนก็พอ” “ทำไมล่ะ ตาคิน หนูอุ่น” “คือเราสองคนไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องนี้ค่ะ ถ้าเกิดอยู่ด้วยกันไม่ได้จริง ๆ แล้วต้องหย่าจะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” “ถ้าลูกสองคนตัดสินใจแบบนี้แม่ก็ตามใจลูกจ้ะ” กลิ่นจันทร์ยิ้มหน้าบาน ยอมทำตามที่ลูกชายและลูกสะใภ้ต้องการ แค่พวกเขาสองคนตกลงจะแต่งงานกันเธอก็ดีใจมากแล้ว เธอไม่อยากจะบังคับไปกว่านี้ เดี๋ยวเจ้าลูกชายตัวแสบจะเปลี่ยนใจ ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอเชื่อว่าต้องเกิดขึ้นแน่ แต่อาจจะเกิดตอนที่มีหลานมาให้อุ้มแล้วสักสองสามคน “หมดเรื่องแล้วใช่ไหม พ่อว่าเราไปกินข้าวที่ร้านประจำดีกว่าฉลองวันเกิดเจ้าคินและฉลองต้อนรับลูกสะใภ้ด้วย ทุกคนว่าไง” “ไปครับ/ไปค่ะ” “ไม่ไปค่ะ คือ... อุ่นไม่มีชุดใส่” “โธ่ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เรื่องแต่งตัว แต่งหน้า ทำผมไว้ใจพวกเราเถอะจ้ะ น้องอุ่น” กลิ่นเดือนยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์พลางขยิบตาให้มารดาเป็นเชิงรู้กัน “งั้นคุณพ่อ คุณแม่ พี่คินกับตาวินไปรอที่ร้านได้เลยนะคะ เดี๋ยวเราสองคนขอแปลงโฉมพี่สะใภ้แป๊บเดียว แล้วจะรีบตามไป” กลิ่นดาวเอ่ย หลังจากนั้นสองแฝดก็พาตัวพี่สะใภ้ที่มีอายุน้อยกว่าตนเองไปที่ห้องพักเพื่อแปลงโฉมหญิงสาว เปลี่ยนจากนางซินก้นครัวกลายเป็นเจ้าหญิงแสนสวยเพื่อให้พี่ชายตกตะลึง พวกเธอเชื่อว่าไออุ่นเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง แต่งนิดแต่งหน่อยต้องออกมาสวยไม่แพ้ใครแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม