เพราะหัวใจ (ไม่) รัก #1 ผู้ชาย Perfect
“กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด”
เสียงกรี๊ดกร๊าดของพนักงานสาวทั้งสาวแท้และสาวเทียมดังขึ้นมาไม่เบานักเมื่อภาคิน กุลนานนต์ ท่านประธานบริษัทสุดหล่อเดินลงจากรถสุดหรูของตนเองแล้วหายเข้าไปในลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนของอาคารKN Tower ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง ชายหนุ่มเป็นคนหน้าตาดี ฐานะดี การศึกษาดี ชาติตระกูลก็ดีไม่ว่าจะเป็นทางพ่อหรือทางแม่ เขาจึงกลายเป็นที่หมายปองของสาว ๆ เพราะความสมบูรณ์แบบที่มี
“พี่คิน พรุ่งนี้ต้องไปเปิดตัวโรงแรมใหม่ของเราที่ภูเก็ตนะคะอย่าลืม” หนูดาว หรือกลิ่นดาวบอกกับพี่ชายหลังจากที่คุยกันเรื่องงานเสร็จ
“รู้แล้วครับน้องสาว พี่ไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้น คุณพีก็บอกแล้ว”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้น้องสาวที่ทำตัวเหมือนมารดาขึ้นทุกวัน แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะโต้ตอบ ประตูห้องทำงานก็มีเสียงเคาะแล้วเปิดเข้ามา
“ไปกันได้หรือยังหนูดาว เราหิวแล้วนะ”
หนูเดือน หรือกลิ่นเดือน ฝาแฝดของกลิ่นดาวเดินมาตาม เพราะมีนัดไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านโปรดด้วยกัน หลังเรียนจบจากเมืองนอก สองสาวก็เข้ามาทำงานในบริษัทของตนเพื่อช่วยพี่ชายขยับขยายธุรกิจครอบครัว
“ขอโทษ เราลืมเลย มัวแต่คุยงานกับท่านประธานสุดหล่อน่ะสิ”
“โธ่ ตัวเองน่ะขี้ลืมกว่าพี่อีก หึ”
“งั้นหนูดาวกับหนูเดือนขอตัวก่อนนะคะ ท่านประธาน”
“เฮ้ย เดี๋ยว ๆ ไม่คิดจะชวนพี่ไปกินข้าวเที่ยงด้วยเหรอ”
“อ้าว ท่านประธานว่างเหรอคะ ไม่ไปกินข้าวกับสาว ๆ ในสต๊อกเหรอ เห็นปกติไม่ค่อยว่าง หายไปกับสาวคนนั้นทีคนนี้ที น้องนุ่งไม่ค่อยได้เจอหน้า ถ้าคุณแม่ไม่บังคับให้ลูกทุกคนกินข้าวด้วยกันทุกวันเสาร์อาทิตย์ ป่านนี้คงไม่ได้เห็นหรอก หน้าพี่ชายเนี่ย”
“ใช่ค่ะ หนูดาวเห็นด้วยกับหนูเดือน”
“เอาอะไรมาพูด พี่ไม่มีผู้หญิงที่ไหนทั้งนั้นแหละ”
“จ้า ๆ เชื่อก็ได้ จะไปก็ลุกเลย”
“คร้าบบบบบ คุณแม่คนที่สอง คุณแม่คนที่สาม” ภาคินรีบลุกจากเก้าอี้เดินมาหาน้องสาวทั้งสองคนที่ยืนทำหน้างอเป็นจวักเมื่อพูดถึงสาว ๆ ของพี่ชายที่พวกเธอเห็นในข่าวสังคมไฮโซอยู่บ่อยครั้งจนมารดาเริ่มจะไม่พอใจ แต่ยังไม่พูดอะไรเพราะไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูก
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกจากห้องทำงานของท่านประธานเพื่อไปกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารร้านโปรดของพวกเขา
“พี่คิน พี่ดาว พี่เดือน จะไปไหนกันครับ” น้องคนสุดท้องของพี่ๆ เดินออกมาจากห้องทำงานของตนพอดี เมื่อเห็นพี่สาวกับพี่ชายกำลังเดินไปด้วยกันจึงเรียกให้พวกเขาหยุดก่อน
“ไปกินข้าว” ภาคินเป็นคนตอบ
“ไปกันสามคนไม่ชวนผมเลยนะ งอนดีไหม”
“แล้วว่างเหรอ ไปไหม ถ้าว่างก็เดินตามมา”
“ว่างงงง รอผมด้วย” ภาวิน น้องชายคนเล็กของพี่ ๆ วิ่งตามพี่สาวกับพี่ชายที่เดินเข้าไปในลิฟต์โดยไม่รอตนเองอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สาว ๆ หมายปองเพราะเหตุผลเดียวกับพี่ชาย
หลังจากเรียนจบ เขาก็เข้ามาช่วยพี่ชายและพี่สาวทำงาน พวกเขา สี่คนเป็นพี่น้องที่รักกันมากเพราะได้รับความรักจากพ่อแม่ไม่เคยขาด ทำให้ครอบครัวนี้ได้รับรางวัลครอบครัวตัวอย่างจากนิตยสารชื่อดังของประเทศติดกันหลายปี
เมื่อมาถึงร้านอาหาร สาว ๆ ที่อยู่ในร้านก็มีอาการไม่ต่างจากพนักงานของบริษัท พวกเธอมองชายหนุ่มทั้งสองแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนก็จำได้ว่าพวกเขาคือใครจึงเดินเข้ามาหาเพื่อขอถ่ายรูปแต่ถ่ายกับภาคินและภาวินเท่านั้น สองสาวจึงทำหน้าเซ็งแล้วเดินไปนั่งรอน้องชายกับพี่ชายที่โต๊ะอาหาร
“ถ่ายรูปเสร็จแล้วเหรอคะ คุณเซเลบทั้งสอง แฟนคลับเยอะจริงๆ ไปที่ไหนก็มีแต่คนขอถ่ายรูป”
“เบื่อจริง ๆ มากับหนุ่มฮ็อต ไปด้วยทีไรเป็นหมาหัวเน่าตลอด”
สองแฝดบ่นไม่จริงจังนักแล้วเอาเมนูขึ้นมาดู สองหนุ่มจึงยิ้มเพราะมันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่มีคนมาขอถ่ายรูป จะปฏิเสธก็ทำไม่ลง จึงยอม ๆ ไปทำเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าล้ำเส้นเกินไปพวกเขาก็พร้อมที่จะปฏิเสธทุกคนเช่นกัน
“ว่าแต่พรุ่งนี้พี่ไปทำงานคนเดียวหรือเอาใครไปด้วยคะ”
“พี่ให้เจ้าวินไปด้วย”
“ผมต้องไปไหนครับพี่คิน”
“อ้าว/อ้าว”
“ล้อเล่นน่า ผมจำได้อยู่หรอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงานกับท่านประธานที่ภูเก็ต”
“เกือบโดนด่าแล้วนะเจ้าวิน” กลิ่นเดือนเอ่ยขึ้นมาแล้วค้อนน้องชายไปหนึ่งที
“พอ ๆ พี่ว่ากินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวมันไม่อร่อย อะนี่ ของหนูดาว นี่ของหนูเดือน” พี่ชายคนโตตักอาหารใส่จานน้องสาวทั้งสองอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ขอบคุณค่ะ” สองสาวตอบพร้อมกัน
จากนั้นบนโต๊ะอาหารก็ไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้องอีกเลย มีแต่เรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องสาว ๆ ของสองพี่น้องภาคินและภาวินที่โดนสองสาวฝาแฝดซักไซ้สอบถามจนหนุ่ม ๆ ต้องปาดเหงื่อไม่รู้จะตอบอย่างไร สองหนุ่มถึงกับหูชากันเลยทีเดียวเมื่อโดนสองแฝดบ่นแทนมารดา แต่สองหนุ่มก็ยังยิ้มออกมาได้เพราะเข้าใจถึงความห่วงใยของทั้งสอง
ช่วงค่ำ ก่อนนอนภาคินมานั่งคุยกับพ่อแม่ในห้องนั่งเล่นอย่างเช่นทุกครั้งที่กลับมานอนในบ้านแสนอบอุ่นหลังนี้ เพราะเขาอยู่ที่คอนโดเป็นหลักเนื่องด้วยบริษัทอยู่ไกลจากตัวบ้านมาก ชายหนุ่มจึงขออนุญาตพ่อกับแม่ไปนอนที่คอนโดซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงานกว่า
“พรุ่งนี้ไปทำงานที่ภูเก็ตใช่ไหมจ๊ะพี่คิน”
มารดาคนสวยของชายหนุ่มถาม
“ครับคุณแม่”
“พี่คิน เมื่อไหร่ลูกจะแต่งงานสักที แม่กับพ่ออยากอุ้มหลาน ลูกอายุเยอะแล้วนะ สมควรสร้างครอบครัวแล้ว”
“ผมยังไม่เจอกับเนื้อคู่เลยครับคุณแม่ จะให้ผมแต่งงานกับใครครับ”
“ก็ผู้หญิงที่เป็นข่าวกับลูก ไม่เข้าข่ายเนื้อคู่สักคนเลยเหรอลูก”
“โธ่ คุณแม่ครับ ผมไม่ได้จริงจังกับใครทั้งนั้น คุณแม่ก็รู้”
“เพลา ๆ บ้างนะลูก แม่ไม่อยากเห็นข่าวพวกนี้เลย บอกตรง ๆแม่กลัวลูกจะติดโรค”
“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้มั่วขนาดนั้น ตอนหนุ่ม ๆ คุณพ่อก็เป็นใช่ไหมครับ”
“เฮ้ยยยยย ไอ้ลูกชาย อย่าโยนขี้ให้พ่อสิ”
“ลูกพูดถูกแล้วค่ะ กลิ่นรู้นะก่อนแต่งงานเรื่องผู้หญิงพี่คิมเองก็ใช่ย่อยเหมือนกัน”
“หึ ๆ แม่งอนพ่อแล้วเจ้าคิน เดี๋ยวพ่อพาแม่ไปปรับความเข้าใจก่อนนะลูก ถ้าได้ยินเสียงแปลก ๆ จากห้องของพ่อแม่อย่าตกใจนะ”
“พี่คิม! พูดแบบนี้กับลูกได้ยังไง ปล่อยเลยนะ”
“เบา ๆ นะครับพ่อ”
ภาคินตะโกนตามหลังพ่อแม่ที่พากันเดินขึ้นบันได คนหนึ่งก็ขี้งอน อีกคนก็ขี้แกล้ง เป็นคู่ที่น่ารักและลงตัวมาก คนเป็นลูกยิ้มอย่างมีความสุขเนื่องจากตั้งแต่เขาเกิดมา ไม่มีสักครั้งที่เห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน
ส่วนเรื่องที่ตนเองยังไม่แต่งงานก็เพราะยังไม่เจอผู้หญิงแบบแม่ แต่ถ้าเจอ รับรองว่าจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นหลุดมือแน่นอน ชายหนุ่มคิดอย่างอารมณ์ดีเมื่อจินตนาการถึงคู่ครองที่วาดฝันเอาไว้ จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางตั้งแต่เช้า