รุ่งขึ้น ท่านประธานสุดหล่อออกเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตพร้อมกับน้องชายของตนที่มีอาการงัวเงียเพราะตื่นไม่เต็มตาตั้งแต่เช้า สองหนุ่มเดินทางมาถึงภูเก็ตในช่วงสาย ๆ ของวัน
เมื่อพวกเขาเดินลงมาจากรถ พนักงานต่างก็ทำการต้อนรับกันเป็นอย่างดี และหนึ่งในทีมที่มาต้อนรับคือ ไออุ่น สุทธิวัน พนักงานทำความสะอาดของโรงแรมที่ยืนมองเจ้านายคนใหม่อยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากโรงแรมนี้ถูกเปลี่ยนเจ้าของเพราะเจ้าของคนเก่าบริหารแล้วขาดทุน ตระกูลกุลกานนต์จึงเข้ามาซื้อหุ้นแล้วบริหารต่อโดยมีภาคินเป็นหัวเรือใหญ่
“ผมขอนอนก่อนนะพี่คิน ง่วงชะมัด งานจัดตอนเย็น ทำไมต้องมาตั้งแต่เช้าด้วย”
“อย่าบ่นนักเลย ไปนอนเถอะ พี่ก็จะไปพักผ่อนบนห้องพี่เหมือนกัน”
“งั้นเจอกันในงานเลยนะพี่คิน”
“อืม”
สองพี่น้องคุยกันจบก็แยกย้ายไปนอนในห้องของตนเองที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ และในระหว่างที่เขากำลังเดินไปนั้น อยู่ ๆ ก็ชนกับหญิงสาวรูปร่างอวบจนทั้งคู่ล้มลงบนพื้น
“โอ๊ยยยย/โอ๊ยยยย”
หญิงสาวหลับตาปี๋เพราะคิดว่าล้มลงบนพื้นแล้วต้องเจ็บตัวแน่ๆ จึงไม่เห็นว่าตนเองกำลังล้มทับตัวท่านประธานสุดหล่อที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้
“นี่คุณ ลุกออกไปจากตัวผมก่อน มันหนัก”
“ว้าย ขอโทษค่ะ”
ได้ยินว่าหนัก ไออุ่นก็รีบลืมตาขึ้นมาแล้วเด้งตัวลงไปนั่งบนพื้นแทน ถึงว่าล่ะ เธอไม่รู้สึกเจ็บสักนิด เพราะล้มทับเขานี่เอง
จากนั้นหญิงสาวก็ช่วยผู้ชายที่ตนเองเดินชนให้ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ภาคินเสียอารมณ์ไม่น้อยที่มีคนเดินมาชน แต่ก็พยายามไม่ใส่ใจ เพราะไม่อยากอารมณ์เสียตั้งแต่เช้า
“คุณหาอะไร” เขาเห็นเธอคลำไปมาบนพื้นเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างจึงถามด้วยความสงสัย
“คุณช่วยหาแว่นให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันมองไม่เห็น”
ไออุ่นยังไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือใครเพราะเธอทำแว่นตาหนาเตอะเหมือนมนุษย์ป้าหายไป จึงพยายามคลำหาบนพื้น แต่ก็ไม่เจอ ใช่ว่าเธอจะมองไม่เห็นเลย มันแค่เบลอ ๆ เวลาไม่มีแว่น
“แว่นเหรอ” ภาคินหันไปมองรอบตัว เห็นแว่นของเธอตกอยู่ห่างจากตัวนิดหน่อยจึงลุกขึ้นไปหยิบแล้วเอามาใส่ให้เจ้าของ ในขณะที่เขากำลังใส่แว่นตาให้ เธอก็ได้เห็นหน้าคนที่เดินชนตนเองชัดเจน ทำให้หัวใจดวงน้อยเกิดอาการกระตุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ว้ายยยยย ท่านประธาน” คนสายตาสั้นร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้นมาว่าคนที่ตนเองเดินชนนั้นคือใคร หญิงสาวยกมือขึ้นมาขอโทษขอโพยชายหนุ่มยกใหญ่เพราะกลัวเขาจะไล่ออกโทษฐานที่เดินซุ่มซ่าม
“นี่เธอ เลิกขอโทษฉันได้แล้ว ทำยังกับฉันเป็นยักษ์เป็นมารไปได้”
“ค่ะ ๆ ดิฉันขอโทษอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวสิ คุณชื่ออะไร ทำงานอยู่แผนกไหน”
“ดิฉันชื่อไออุ่น เป็นพนักงานทำความสะอาดค่ะ” หญิงสาวพูดจบก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ภาคินนั่งอยู่บนพื้นคนเดียว มองคนที่วิ่งหนีไปด้วยความงงงวย เหตุใดเธอจึงทำตัวเหมือนกับกลัวเขาทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกัน
จากนั้นก็ลุกขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกไปก็เห็นโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าหล่นอยู่บนพื้น ถ้าเดาไม่ผิด เขาคิดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ของพนักงานทำความสะอาดคนเมื่อกี้ จึงก้มลงไปเก็บแล้วเดินกลับห้อง เอาไว้ค่อยเรียกเธอมาเอาคืนหลังจากงานเลี้ยงเลิกแล้วกัน
ทางด้านคนที่หนีมาอยู่ในห้องพักของพนักงานทำความสะอาดก็ยังตกใจไม่หาย ใครจะไปคิดว่าคนที่ตนเองเดินชนคือท่านประธานสุดหล่อที่เธอแอบปลื้ม ทำให้ไม่กล้าคุยกับเขานานเพราะเขิน
แต่เธอไม่เคยบอกใครเรื่องที่แอบปลื้มท่านประธานเพราะเจียมตัวดี เธอทั้งจน หน้าตาก็ไม่สวย หุ่นก็เหมือนห่วงยางเข้าไปทุกวัน ไม่มีผู้ชายที่ไหนจะมาชอบหรอก ยิ่งคนอย่างท่านประธานยิ่งแล้วใหญ่ เธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ลึก ๆภายในใจ ปลื้มเขาอยู่ห่าง ๆ แบบนี้ดีที่สุด
“เลิกคิด ๆ อยู่โสด ๆ แบบนี้ดีที่สุด”
“ใครโสดจ๊ะ ไออุ่น”
“ส้มโอ! เข้ามาตอนไหนเนี่ย ไม่เห็นได้ยินเสียงเลย”
“เมื่อกี้เอง ว่าแต่พึมพำอะไรเหรอ อะไรโสด”
“ก็บ่นไปตามประสาคนโสดอย่างเราน่ะสิ ดู หน้าก็ไม่สวย ไขมันเกาะตามตัวตั้งเยอะ ผู้ชายที่ไหนเขาจะเอา จริงไหม”
“ถูกต้อง เพราะฉะนั้นเราอยู่แบบนี้แหละดีที่สุดเนอะ”
สองสาวเพื่อนสนิทหัวเราะกันคิกคัก ไม่ได้กังวลเรื่องจะมีสามีหรือไม่มีสามีแต่อย่างใดเพราะคิดว่าชีวิตนี้ต้องโสดจนตายแน่ ด้วยรูปร่างหน้าตาและฐานะแบบนี้ ใครเขาจะเอาทำเมีย
จากนั้นก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะถึงเวลาเปิดตัวโรงแรมอีกครั้งโดยทีมผู้บริหารคนใหม่ ทำให้วันนี้พนักงานอย่างพวกเธอค่อนข้างยุ่งเป็นพิเศษ
ช่วงเที่ยง ในขณะที่พนักงานคนอื่น ๆ กำลังทยอยไปกินข้าว ไออุ่นเพิ่งรู้ตัวว่าโทรศัพท์มือถือของตนเองหายไป จึงเดินหาทั่วทุกที่ แต่ก็ไม่พบสุดท้ายเธอก็นึกออกว่ายังไม่ได้ไปหาจุดที่เดินชนท่านประธาน หญิงสาวรีบเดินแกมวิ่งไปยังจุดนั้น
“เฮ้อ ไม่มีเหมือนกัน เออใช่ ลองให้ส้มโอโทรหาดีกว่า” คิดได้แบบนั้น หญิงสาวก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนสนิทเพื่อให้ส้มโอช่วยเหลือ แต่โทรยังไงก็ไม่มีคนรับสาย
“ไม่มีคนรับสายเลยอะแก ทำไงดี”
“อืมมมม นั่นน่ะสิ ทำไงดี เอางี้ ลองโทรอีกครั้ง คราวนี้ขอให้ติดด้วยเถอะเจ้าพระคุณ”
เจ้าของมือถือเครื่องเก่าเอามือขึ้นมาพนมเพราะไม่อยากซื้อใหม่ จึงต้องวิงวอนให้เทวดาฟ้าดินช่วย
ตูดดด ตูดดด ตูดดด
“ฮัลโหล”
“ท่านประธาน! นั่นใช่ท่านประธานใช่ไหมคะ”
“อืม โทรศัพท์คุณอยู่กับผม หลังเลิกงานค่อยมาเอาที่ห้องของผมนะ”
หญิงสาวจำเสียงเขาได้ ซึ่งอีกฝ่ายก็จำเสียงของเธอได้เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่เพิ่งเคยพูดคุยเมื่อเช้า แต่ทำเหมือนกับว่าคุยกันมานานนมจนจำเสียงของกันและกันได้อย่างไรอย่างนั้น
“ค่ะ ๆ เดี๋ยวดิฉันไปเอา ขอบคุณมากนะคะที่เก็บไว้ให้”
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณภาคินด้วยใจจริงแล้วก็วางสายไปเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไร
จากนั้นก็หันมาบอกเพื่อนสนิทที่รอฟังอยู่ข้าง ๆ เมื่อส้มโอได้รู้เรื่องที่ไออุ่นเดินชนกับภาคินแล้วนอนทับเขาทั้งตัว หญิงสาวก็กรี๊ดออกมาด้วยความอิจฉา
“อิจฉาอะแก พรหมลิขิตแน่เลย”
“เพ้อละแก”
“ก็มันน่าคิดนี่น่า ฉันอยากเป็นแกจังเลย”
“พอ ๆ เลิกทำหน้าตาเคลิ้มแล้วไปกินข้าวเถอะ”
“อิจฉา อิจฉา อิจฉา”
“บ้า! มันเป็นเรื่องบังเอิญ”
“หูยยยยย บังเอิญหรือพรหมลิขิตกันแน่ยะ ฉันเคยดูซีรีส์เกาหลีก็แบบนี้ตั้งหลายเรื่อง”
“พอแล้วแก กามเทพคงไม่จับคู่ฉันกับท่านประธานหรอก เสียเวลาเปล่า เขาระดับไหนเราระดับไหน อย่าลืมสิ อย่ามโนให้เยอะเลย”
“โธ่ ฉันก็แค่จินตนาการเท่านั้นเอง ว่าแต่ แกจะหน้าแดงทำไม”
“เปล่า อากาศร้อนหน้าก็เลยแดง ไม่ได้คิดอะไร”
“จ้า ๆ เชื่อ ๆ ไม่คิดก็ไม่คิด ไอ้ที่บอกฉันเมื่อกี้บอกตัวเองด้วยนะ”
สองสาวหยอกล้อกันไปมาตามประสา ไม่ได้จริงจังตามที่คิดเพราะไม่เชื่อว่าคนจน ๆ อย่างพวกเธอจะได้เจอเนื้อคู่หล่อรวยแบบในซีรีส์เกาหลีที่พระเอกรวยมากแต่นางเอกจนมากสุดท้ายก็มารักกัน เพราะเรื่องแบบนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นในชีวิตจริงแน่นอน โดยไม่รู้เลยว่ากามเทพได้เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่หลายชั่วโมงก่อนแล้ว