ธาริณีรู้สึกขนหัวพอง เหมือนโดนถ้ำมองอย่างไรอย่างนั้น เขารู้เรื่องเธอดีแค่ไหน…
เกิดคำถาม ไร้คำตอบ ธาริณีได้แต่กัดฟันกรอด ไม่แน่ใจว่าอีกคนนี้รู้อะไรมากเกี่ยวกับตัวเธออีก หากพูดไปแล้วเข้าตัวก็พยายามนิ่งเข้าไว้ เพื่อไม่ให้อีกคนหาเรื่องยอกย้อนได้อีก แต่เสียงจิ๊จ๊ะของอีกคนมันทำให้สาวสวยเริ่มอ่อนใจ
“คุณเล็ก ขอร้องละคุณจะพาฉันไปไหน ก็พาไปเถอะ แต่ขออย่างเดียวอย่าทำอะไรฉันเลยนะ นะ...ฉันขอร้อง..แล้วตอนนี้ฉันเหนื่อย... ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณ”
เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาลง ใบหน้างอง้ำแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ
“ปล่าว...” เขาลากเสียงยาว เหล่ตามองหญิงสาว ที่กำลังพิงเบาะนั่ง หลับตาพริ้ม ๆ บอกอาการว่าอ่อนล้าเพียงไหน
“ผมก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับคุณเลยนะ”
เขาแก้ตัวให้ตัวเอง แอบพอใจอาการแสดงออกของอีกคน ว่าเหนื่อยกับการต่อกรกับเขา แล้วคงจะเพลียจริง ๆ ความเหนื่อยล้าจากการออกแรงเสียเหงื่อก่อนหน้านี้ บวกกับการโต้เถียงยิ่งกว่าโต้วาที ทำให้แรงที่มีอยู่น้อยนิดถูกหารสอง หิวก็หิวกะว่าจะกินอาหารให้อิ่มหนำจากงานแต่งเพื่อนรัก แต่กลับมาออกแรงโดยเปล่าประโยชน์ ...
เปลือกตาที่ประดับด้วยขนตางอนงามขยับขึ้นลงช้า ๆ บอกอาการของเจ้าของ ยิ่งบวกกับแอร์เย็น ๆ ร่างกายฝืนปรับสภาพไม่ไหว ทำให้คนขี้เซาอย่างธาริณีหนังตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ เมื่อเริ่มทนไม่ไหวเปลือกตาก็ค่อย ๆ ปิดสนิทลงและหลับไปในที่สุด...
ริมฝีปากหนาของคนนั่งใกล้ฉีกยิ้มกว้าง ภาพสาวสวยสิ้นฤทธิ์นอนหมดท่า อาชาตัดสินใจเลือกจอดรถบริเวณไหล่ทางอีกครั้ง ก้มเอนตัวปรับเบาะที่นั่งให้ราบลง เพื่อให้ร่างบางนอนสบายตัวขึ้น แม้หล่อนจะปากกล้าไม่ยอมเขาและร้ายได้น่าหยิกแค่ไหน แต่การตัดสินใจ ครั้งนี้เขาเลือกแล้ว... รู้ดีว่าหลังจากนี้ เขาคงไม่มีโอกาสได้เจอหล่อนอีก มันจึงทำให้หัวใจและอารมณ์ของเขาปั่นป่วนอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ว่าที่พี่สะใภ้เข้าบอกว่า...
“คุณเล็ก ยายณีก็มาร่วมงานบีด้วยนะ เห็นบอกว่าเสร็จงานบีครั้งนี้แล้วจะย้ายไปอยู่กับแม่ที่เปิดบริษัทสาขาใหม่ในประเทศเยอรมนีอย่างถาวร จะปักหลักอยู่ที่โน่นเลย”
คำพูดว่าที่พี่สะใภ้ได้กล่าวถึง ทำให้หัวใจของเขาถึงกับเต้นรัว ภายในใจกลับรู้สึกดีใจเหมือนกับว่าสิ่งที่รอคอยกำลังเดินทางมาหาเขา แต่ประโยคหลัง ทำให้ตัวเขาเริ่มเข้าใจหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไรต่อจากนี้ หากเจอหล่อนอีกครั้งและโอกาสก็เป็นของเขา! เถอะ! แม้จะเจอกันผิดแบบผิดวิธี แต่เขาก็ชนะในเกมนี้ แต่หลังจากนี้ เขาต้องใช้ความพยายามที่เหลือ เพื่อจะเอาชนะใจหล่อนให้ได้...
ปลายจมูกโด่งค่อย ๆ ก้มลงแตะหน้าผากมนเบาๆ
นี่กระมังที่เขาว่าเสียงเรียกของหัวใจ ต้องการใครสักคน ที่รู้สึกถูกใจและต้องการอยู่ใกล้โดยไม่คิดปฏิเสธ...
อาชารู้สึกหัวใจอิ่มเอิบ มองผลงานตัวเองที่หลับสนิทเป็นระยะ ๆ เปิดเพลงเบา ๆ ฟังสบาย ถูกถ่ายทอดออกมาจากแผ่นซีดีและเขาฮัมเพลงคลอไปด้วยเบาๆ อย่างอารมณ์ดี เครื่องยนต์ถูกผ่อนบังคับเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไม่รีบร้อน มุ่งตรงไปยังจุดหมายข้างหน้า
“ยามหลับ ทำไมถึงดูไม่น่ามีพิษภัยเลยนะแม่คุณ” สายตาคมเข้มมองสาวสวยที่มือยังจับเสื้อสูทเข้ามาปิดบังหน้าอกแน่นเอาไว้ทั้งที่หลับอยู่อย่างนั้น ศีรษะเอียงลงอีกทางหน้าตายามหลับชั่งน่ารักเหมือนเด็กเหลือเกิน
กันตาสาวมั่นวัย 28 ปีเจ้าของไร่กาแฟที่สืบทอดโรงงงานขนาดเล็กจังหวัดชุมพรมาจากรุ่นสู่รุ่นให้อยู่รอด ที่มาพักหลังมีคู่แข่ง ผลผลิตส่งออกจากโรงงานจึงลดลง ส่งผลให้เงินที่ใช้หมุนเวียนติดขัด วันนี้เธอรีบเร่งติดต่อลูกค้าด้วยตนเองเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกัน แต่พอตอนกลับระหว่างทางรถกลางเก่ากลางใหม่ของหล่อนก็เกิดรวนดับไปดื้อ ๆ
“เฮ้ยเป็นอะไรไปอีกล่ะนี่”
เจ้าตัวว่าอย่างหงุดหงิดเมื่อเดินลงมาดูรถ แล้วกลับไปสตาร์ทเครื่องอีกครั้งก็ไม่ได้ผล จึงได้แต่คว้าโทรศัพท์ออกมาพูดคุยพร้อมเดินไปรอบ ๆ รถ สักพักก็ยกแขนปาดเหงื่อที่หน้าผากที
“เฮ้อรู้แต่ใช้แต่ไม่รู้วิธีซ่อมมันก็เป็นอย่างนี้แหละ....เสียเวลาจริง ๆ”
หล่อนยังก้ม ๆ เงย ๆ ดูรถอยู่อย่างนั้นกระทั่งรถของอาชาแล่นใกล้เข้ามาพลันสายตาคมเข้มของอาชาก็ปะทะกับร่างสูงยาว สมส่วนของผู้หญิงริมไหล่ทาง ร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงยีนต์รัดรูปกับเสื้อเชิ้ตสีครีมแขนยาวแนบสนิทเห็นสัดส่วน ก้ม ๆ เงย ๆ กับตัวรถเก๋งคันสีแดงเพลิงโหลดเตี้ยจอดสงบนิ่งตรงไหล่ทาง รถหล่อนคงกำลังมีปัญหาต้องการความช่วยเหลือ
ร่างสมส่วนบวกกับการแต่งตัวสะดุดตา เรียกประสาทสัมผัสขาของอาชา โดยการผ่อนคันเร่งให้เบาลง และแตะเบรกในวินาทีต่อมา โดยลืมนึกไปว่าตอนนี้มีหญิงสาวสวยนอนหลับอยู่ในรถด้วยหนึ่งคน
เขาก้าวลงจากรถอย่างมั่นใจ พร้อมส่งเสียงกระแอมไปสองสามครั้ง เหมือนจะบอกว่า มีคนสนใจ ‘คุณ’ หากคุณกำลังเดือดร้อน สีหน้าขมวดมุ่นของหล่อนหันมามองทำทีท่าเหมือนไม่อยากไว้ใจคนแปลกหน้า ทำให้อาชาต้องส่งยิ้มกว้างให้ เพื่อเพิ่มความไว้วางใจให้หล่อน พร้อมคำถาม
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ” รอบนี้ เธอยิ้มในหน้ารับไมตรีจากคนแปลกหน้า
“เอ่อ มะ มี มีค่ะ... คือ กันตา ก็ไม่รู้หรอกค่ะ อยู่ดี ๆ รถก็ดับไปซะเฉยเลย”
ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มแต้มเพียงครู่ก็หม่นลง แสดงสีหน้ากลุ้มใจอย่างเห็นได้ชัด
“เอ่อ... คุณกันตา...” ชายหนุ่มทวนชื่อ รู้สึกดีใจลึก ๆ ว่าเขาไม่ต้องถามคำถามอย่างหนึ่ง
“งั้น.. ให้ผมดูให้ดีกว่าครับ” สุภาพบุรุษเอ่ยอาสา กลบเกลื่อนความรู้สึกดีใจเอาไว้ พร้อมหยอดรอยยิ้มที่มั่นใจว่าหากใครเห็นแล้วจะต้องติดใจ
“ค่ะ” กันตารับคำขยับหลีกให้อีกฝ่ายมองดูสภาพรถได้สะดวกขึ้น
ก้ม ๆ เงย ๆ พร้อมกับมือหนาส่งไปสัมผัสเครื่องยนต์เหมือนกำลังสำรวจให้แน่ใจว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไปในตัวเครื่อง สักพักก็ปิดฝากระโปรงด้านหน้าลง ก่อนจะหันไปเปิดประตูรถด้านคนขับ
“ตกลง รถตาเป็นอะไรคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามเบา ๆ พอให้อีกคนได้ยิน ก้มหน้าลงอาชาไปใกล้กระจกด้านหน้าคนขับที่เปิดอยู่ทั้งบาน สีหน้ายังเป็นทุกข์ จับจ้องใบหน้าคมรอลุ้นคำตอบ
“เครื่องยนต์ก็ปกติดี ลองสตาร์ทใหม่อีกครั้งครับ”
อาชาโผล่ใบหน้าหล่อเหลาออกมา มองหญิงสาวที่ยืนดูอยู่ สีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“อุ้ย! จริงหรือค่ะ”
ใบหน้าหวานกล่าวอย่างดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“กลับไป ต้องส่งรถเข้าศูนย์สักหน่อยแล้วค่ะ รวนแบบนี้กันตาชักใจคอไม่ดี เกิดอยากจะดับขึ้นมากลางทางอย่างครั้งนี้มีหวังตาต้องซวยแน่ ๆ เพราะรู้แต่ขับ จับต้องเครื่องยนต์ไม่ถูก”
“ดีแล้วครับ กลับไปก็เอาไปเช็คเครื่องสักหน่อยเผื่อขับรถทางไกลจะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก”
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ คือ...จะให้กันตาเรียกคุณว่าไงดีคะ”
“อาชาครับ หรือเรียกเล็กก็ได้ครับ ผมยินดีให้สาว ๆ สวยๆ อย่างคุณเรียกครับ”
เสียงทุ้มบอกทันทีพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มอยู่ในที
“ค่ะ... คุณเล็กนี่ ใช่เจ้าของไร่กาแฟ ‘รัตรังสรรค์’ ใช่มั้ยค่ะ”
มุมปากหนาฉีกยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าเป็นการตอบรับ กันตาถึงกับหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยความดีใจ
“ว้าว ดีใจจังได้เจอคนหนุ่มไฟแรง...”
เธอออกอาการชื่นชม เพราะพักนี้ก็ได้ยินข่าวคราวของชายหนุ่มมาไม่น้อย
“งั้น ขอให้กันตาเลี้ยงอาหารขอบคุณคุณสักมื้อ จะได้มั้ยคะ ”
เมื่อเห็นความไม่ถือเนื้อถือตัวจึงเอ่ยปากชวนโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“ได้ครับ”
อาชายิ้มรับหัวใจพองโต ยิ่งมีสาวสวยชื่นชมในตัวเขายืนอยู่ตรงหน้า เขายิ่งไม่ยอมให้เสียโอกาส ก็คนมันเสือผู้หญิงจะให้พลาดได้อย่างไร...
“วันนี้ได้หรือเปล่าคะ” ใบหน้าคมเอียงคอถาม พร้อมยิ้มหวานหยด
“ได้สิ”
คนรออยู่แล้วเอ่ยไม่ต้องคิด หญิงสาวยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะเข้าไปประจำที่นั่งของเธอ เมื่อชายหนุ่มขยับถอยห่าง
“งั้นคุณเล็กขับตามกันตามาเลยค่ะ”
เธอยื่นหน้าออกมาย้ำ อาชาพยักหน้าตอบรับ เอื้อมมือหมายจะปิดประตูให้ อย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ แต่แล้วก็ชะงักไว้ เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“เฮ้ย! ไม่ได้!” เสียงทุ้มนั้น ทำเอาอีกคนหน้าเหวอ คิ้วเรียวขมวดผูกปม
“มีอะไรหรือคะ”
สาวสวย อดแปลกใจไม่ได้ที่รับปากไม่ทันไร ก็เปลี่ยนใจขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน
“วันนี้คงเห็นจะไม่ได้หรอกครับ...” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ
‘วันนี้ไม่ได้จริง ๆ เพราะมีใครอีกคนที่เขาจะต้องรีบจัดการ’
“หรือคะ” กันตารู้สึกความหวังหล่นวูบ “งั้นไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้วันหน้าที่คุณเล็กว่างก็แล้วกัน ขอเบอร์คุณเล็กไว้นะคะ”
แต่เพื่อมารยาทหากอีกคนไม่ว่างจริง ๆ
เมื่อแลกเบอร์กันเรียบร้อยต่างคนก็แยกย้าย อาชาเดินกลับมายังรถของตัวเอง แทรกตัวนั่งตำแหน่ง มือหนากำลังสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมสายตาเหลือบมองคนนอนอยู่อีกฝั่งให้ชื่นใจ แต่สิ่งที่เห็นทำให้จี๊ดขึ้นสมอง
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะ... แม่ม้าพยศ!”