เข้าใจ vs เอาแต่ใจ

1655 คำ
“หวงก็เป็นของพี่สิครับ” แน่นอนว่าประโยคนี้ทำให้ลิลินยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วเธอก็รีบยื่นมือไปควงแขนติณห์ทันที ก่อนที่จะเอนไปซบไหล่กว้าง ๆ ของเขา “รอแต่งงานนะคะ ลินจะเป็นของพี่ติณห์ทั้งตัวเลย” “โถ่ลิน อีกไม่กี่เดือนเองนะ พี่ขอทดลองก่อนไม่ได้เหรอ? เราคบกันมานานแล้วยังไง ๆ ก็ต้องแต่งอยู่ดีนี่” ติณห์หว่านล้อม พร้อมกับยกมือใหญ่ ๆ ของเขาแตะเบา ๆ ที่มือลิลินด้วย “ไม่ได้ค่ะ ลินจะไม่ผิดคำสัญญากับปะป๊าเด็ดขาด พี่ติณห์ชวนบ่อย ๆ แบบนี้จำไม่ได้เหรอคะ ว่าปะป๊าบอกพี่ติณห์วันที่ท่านจับได้ว่าเราคบกันว่าอะไร” “จำได้ ห้ามล่วงเกินลินก่อนแต่งงาน” “เยส! ถูกต้อง! ฉะนั้นรอหน่อยนะคะ อีกแป๊บเดียวเอง ลินไม่หายไปไหนหรอกค่ะ” ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะรู้ว่ายังไง ๆ ก็ต้องสมปรารถนา แต่ความเป็นชายทั้งแท่งของเขา ที่อยู่แนบชิดกับลิลินแฟนสาวทุกวันนั้น มันชักจะทำเขาความอดทนต่ำลงไปทุกวัน เขาต้องการให้ลิลินเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย อยากเชยชมเรือนร่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมไว้มาตลอดนี้สักที เพราะที่ผ่านมาจวนจะสามสิบปีนี้ ชายทั้งแท่งอย่างเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย “เฮ้อ รอก็ได้ แต่ลินสัญญาแล้วนะ ว่าจะไม่หายไปไหน?” ติณห์ถามย้ำอย่างไม่สบายใจ ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาต้องรู้สึกแปลก ๆ จนถามทวนมันอีกครั้ง “สัญญาสิคะลินจะไปไหนได้ แต่ตอนนี้ลินร้อนมาก ๆ เราไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ” เมื่อลิลินให้คำสัญญาผ่าน ๆ เธอก็ควงแขนติณห์แฟนหนุ่มไปขึ้นรถทันที จนปลายฝนที่ลงมาจากชั้นบนตอนนี้ เธอต้องหยุดชะงัก และแอบมองภาพตรงหน้าไกล ๆ เหมาะสม ผู้ชายหล่อผู้หญิงสวย ทำไมว่าที่เจ้านายเธอชีวิตเพอร์เฟคขนาดนี้ แฟนหล่อขับลัมโบร์กินีและเป็นถึงไฮโซซีอีโอสายการบินเวลฟาย ส่วนชื่อเสียงเรียงนามถามว่ารู้จักไหม? ใช่ พอเห็นหน้าจริงจัง ปลายฝนเธอก็แอบตกใจเหมือนกัน ที่เธอเองก็พอจะรู้จักผู้ชายคนนี้ห่าง ๆ เพราะผู้ชายเกรดพรีเมี่ยมคนนี้ เขาเป็นลูกหลานทายาทโรงพยาบาลที่ดองกับครอบครัวเธออยู่ แต่เธอไม่เคยคุยหรือเคยพบกับติณห์มาก่อน เพราะหนึ่งปลายฝนเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมที่ถูกเก็บมาเลี้ยง และสองเธอมีความถ่อมตัว ไม่กล้าเสนอหน้าออกไปรู้จักหรือสนิทสนมกับใคร เพราะมันจะทำให้เธอคิดน้อยเนื้อต่ำใจเสมอ ว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ๆ “ติณห์คนนี้นี่เอง ได้ยินชื่อมานานไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้” “ไม่ทราบว่ามีอะไรธุระอะไรกับคุณลิลินอีกคะ?” ปลายฝนละสายตาจากรถสปอร์ตคันนั้นหันกลับตกใจ เมื่อพนักงานที่นำเธอไปสัมภาษณ์งาน ไถ่ถามขึ้นมาจากด้านหลัง “เอ่อเปล่าค่ะ คือเรื่องสัมภาษณ์งาน ขั้นตอนมีแค่นี้ใช่มั้ยคะ?” “ค่ะ รบกวนตามฉันไปเซ็นสัญญาที่ฝ่ายบุคคลด้วย” ปลายฝนได้ยินแบบนั้นก็ยืนงุนงงอยู่ครู่นึง เพราะเธอยังไม่ได้ตกลงที่จะทำงานนี้ด้วยซ้ำ ทำไมพนักงานคนนี้ต้องยัดเยียดให้เธอไปเซ็นสัญญาด้วย “ฉันขอเวลาตัดสินใจสักสองสามวันได้ไหมคะ” “สองสามวันไม่ได้ค่ะ แต่ให้เวลาตัดสินใจสิบนาที ตำแหน่งนี้ถึงจะว่างบ่อย แต่ไม่ใช่ว่าคุณลิลินจะถูกใจใครง่าย ๆ คนมาสมัครไม่ขาดสายเงินเดือนก็เยอะ คิดดูดี ๆ นะคะ” ไม่ขาดสาย? เหอะ หลังจากพนักงานสาวบอกและเดินออกไป ปลายฝนก็ถึงกับหัวเราะเหอะออกมา เพราะไม่ขาดสายที่ว่า เธอไม่เห็นใครมานั่งรอสัมภาษณ์งานกับเธอสักคน! ทำไมบริษัทใหญ่ ๆ แบบนี้ถึงทำอะไรไม่มีระบบเอาซะเลย แล้วยังไงต่อ เธอควรจะตัดสินใจทำงานที่นี่ดีมั้ย? หรือว่าเซย์โนกลับไปนอนเล่นที่บ้านเช่นเดิม ปลายฝนยืนคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะหวนนึกถึงทุก ๆ วันที่เธอเอาแต่นอนรอชายกำยำคนนั้นอย่างไร้วี่แวว จริง ๆ แล้วมันเบื่อนะ แล้วถ้ายิ่งอยู่แบบนั้น..มันก็เหมือนเธอกำลังทำตัวไร้ประโยชน์ไปวัน ๆ หรือระหว่างรอเธอควรหาอะไรทำให้ชีวิตมันมีสีสัน ไม่ก็สร้างสตอรี่ให้กับตัวเองบ้าง เพราะไหน ๆ ก็อุตส่าห์เรียนจบมาแล้ว ‘ครืน... ครืน...’ P’NAPHAT เมื่อเห็นชื่อปลายสาย ปลายฝนก็กดรับทันที ก่อนที่จะหันไปมองที่ป้ายแผนกฝ่ายบุคคลแว๊บนึงด้วยความลังเล “ค่ะ พี่ณภัทร” (สัมภาษณ์งานเป็นยังไงบ้าง) “ยังลังเลอยู่เลยค่ะ เอ่อ... คือที่ลังเลเพราะเจ้านายฝนดูเป็นคนแปลก ๆ ค่ะ ท่าจะเรื่องเยอะ” หญิงสาวป้องมือกระซิบ จนทำให้คุณหมอณภัทรที่อยู่ปลายสายหัวเราะออกมาเบา ๆ (ฮะ ๆ นินทาว่าที่เจ้านายในบริษัทเขาเลยนะ คนทำงานระดับนี้ ก็ต้องเรื่อยเยอะเป็นธรรมดา อย่าลืมสิว่าผู้บริหารต้องบริหารทุกอย่าง พี่ว่าถ้ามีโอกาส ฝนก็ควรคว้าไว้นะ) ปลายฝนพยักหน้าตาม เข้าใจที่พี่หมอณภัทรพูดทุกคำ และประโยคนั้น มันก็ช่วยเธอได้มาก เธอตัดสินใจทำตามคำแนะนำของหมอณภัทรทันที เพราะปกติไม่มีใครหวังดีกับเธอเท่าเขาคนนี้แล้ว ถ้าพี่ณภัทรบอกว่าดี ก็ต้องดีสิ เธอจะเชื่อเขา “ค่ะ ฝนจะลองดู” (ครับ แต่ถ้าเสร็จธุระเรื่องงาน ฝนกลับแท็กซี่ได้ใช่มั้ย ช่วงนี้ที่โรงพยาบาลคนไข้เยอะและหมอเฉพาะทางด้านศัลยประสาทมีไม่กี่คน พี่ค่อนข้าง) “ได้ค่ะไม่มีปัญหา พี่ณภัทรทำงานเถอะค่ะ” (ครับ) ที่ปลายฝนรีบตัดบทบอกไปแบบนั้น เธอไม่ได้น้อยใจหมอณภัทรเลยสักนิด แต่เธอเข้าใจต่างหาก ว่าการเป็นหมอศัลยกรรมประสาทที่งานล้นมืออย่างเขา มันเหนื่อยและกดดันแค่ไหน ยิ่งคนไข้อุบัติเหตุผ่าเร่งด่วนเข้ามาทีไร เหมือนทุกนาทีของเขาต้องแข่งกับชีวิตคน และตอนนี้ขณะที่ปลายฝนตัดสินใจเซ็นสัญญาอยู่ ด้านลิลินผู้เป็นเจ้านาย ก็รับประทานอาหารกลางวันกับคนรักอย่างอิ่มอกอิ่มใจที่ไม่ไกลจากบริษัทของเธอ ซึ่งทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงาน และเลือกเรือนหอที่ติณห์ไปจัดหามาคร่าว ๆ ไปด้วย “หลังนี้เล็กไปลินไม่ชอบค่ะ” “งั้นหลังนี้ ใหญ่ขึ้นมาหน่อย” “ไม่ค่ะ มันไม่อลังการ ลินอยากได้บ้านหลังใหญ่ ๆ กว้าง ๆ โมเดิร์น ๆ ให้สมกับที่เป็นคู่แต่งงานจากสองตระกูลใหญ่ พี่ติณห์ต้องเข้าใจนะคะว่าเราจะได้ไม่อายใคร ว่าแต่... มีให้ลินเลือกอีกรึเปล่าคะ?” ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับก้มมองแบบบ้านที่เขาวางไว้บนโต๊ะทันที ก่อนที่จะนั่งสลับไปมา ๆ และยกมือกุมขมับ เพราะเขาเหนื่อยใจกับความเรื่องเยอะของแฟนตัวเองมาก และไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง เพราะบ้านที่เขาให้ดูมันไม่เล็กและไม่สมเกียรติซะเมื่อไหร่แถมยังสมัยใหม่โมเดิร์น จัดสรรพื้นที่ข้างในอย่างลงตัว เหมาะกับคู่รักแต่งงานและวางอนาคตมีลูกสี่ถึงห้าคนอย่างเขา “ลินอยากได้แบบไหนล่ะ เอาเป็นว่าลินหามาเถอะ ไม่ก็ออกแบบเองไปเลย” ลิลินได้ยินแบบนั้นก็หุบยิ้มวางช้อนกับมีดหั่นเสต็กลงทันที ก่อนที่จะเอนพิงพนักเก้าอี้ ยกมือกอดอกมองหน้าว่าที่จ้าบ่าวของเธอ “พี่ติณห์ประชดลินเหรอคะ?” “คำไหนที่คิดว่าพี่ประชด? ลินชักจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ นี่ก็ไม่ได้นู่นก็ไม่เอา พี่ก็ให้ลินหาเองนี่ไง เพราะพี่มีงานต้องทำนะลิน พี่เหนื่อย” เหมือนฟ้าผ่ากลางโต๊ะอาหาร นี่ครั้งแรกที่ติณห์พูดเต็มปากเต็มคำว่าลิลินเอาแต่ใจ และที่เป็นแบบนี้ก็เพราะถูกตามใจและถูกโอ๋มาตลอด ลิลินจึงยืนหนึ่งในความเรื่องเยอะและเอาแต่ใจเสมอมา ซึ่งเธอเองไม่รู้หรอกว่า มันเริ่มไม่น่ารักสำหรับติณห์แล้ว เขาทำงานหนักเพื่อจะสรรเวลามาจัดงานแต่งให้เธออย่างสมเกียรติ แต่ลิลินกลับสร้างความลำบากใจให้เขาแทน “งั้นก็ขอโทษแล้วกันค่ะ ลินก็งานเยอะ งั้นลินกลับนะคะ ไม่ต้องไปส่ง” พูดจบร่างเล็กก็ลุกขึ้นพรวด ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายใบหรูของเธอและสะบัดหน้าเดินออกไป ส่วนติณห์ เขาก็นั่งนิ่ง ๆ ถอนหายใจ และมองตามแผ่นหลังของแฟนสาวออกไป ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเช่นกัน เขาไม่รู้จะจัดการกับความเอาแต่ใจของลิลินด้วยวิธีไหนดี เพราะเขาเองก็มีส่วนผิด ที่ตามใจเธอมาแต่ต้นจนเธอได้ใจขนาดนี้ และได้แต่หวังว่าเธอจะเปลี่ยนมันสักที ไม่ใช่ตอนนี้ก็เมื่อเป็นแม่คน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม