ดีแลนอยากเจอ ไม่ได้เพราะพิศวาส เขาอยากปิดจบ เพื่อไม่ให้มีเรื่องร้อนใจภายหลัง ชายหนุ่มโล่งใจไปหนึ่งเปราะ หากสาวคนเมื่อคืนมีอาชีพเสริมแบบนี้ หล่อนคงป้องกันตัวอย่างดี ปัญหาที่เขากำลังกังวลคงไม่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มโบกมือไล่ เขาเอนตัวดำลงใต้น้ำ ไม่อยากรับรู้อะไรอีก แม้จะมีบางอย่างคาใจ
เขาไม่น่าหละหลวมได้ขนาดนี้ ต่อให้เมาจนครองสติไม่อยู่ ดีแลนก็ไม่เคยพลาดที่จะป้องกันตัวเอง
‘คุณดี’
เสียงแหบสั่นกระซิบเรียกชื่อเขา ดีแลนพยายามเพ่งมอง แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย นอกจากหมอกบางๆ ขวางเอาไว้
ชายหนุ่มแช่น้ำจนฉ่ำปอด เขาแต่งตัวด้วยชุดเดิม และเดินออกมาจากคลับแห่งนั้น ตอนที่เกือบถึงเวลาเปิดทำการ ดีแลนมุ่งหน้ากลับบ้าน เขาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ชายหนุ่มหมายมั่นปั้นมือ ดึกๆ เขาจะย้อนกลับไปที่นั่น และมอบของกำนัลปิดปาก เพื่อจบปัญหาคาใจ
ตืดดด....
โทรศัพท์ส่วนตัวดังเตือน เมื่อมีคนต่อสายมาหา ชายหนุ่มสอดมือ ล้วงโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบมากดรับ เมื่อมองเห็นเบอร์คุ้นตา
“Good afternoon delan”
ดีแลนยิ้มมุมปาก เขาเอ่ยทักกลับไป “ผมควรตอบคุณว่าไงดีล่ะอดัม Good afternoon หรือ Good night ดี”
เสียงหัวเราะดังลั่น แทรกผ่านสายโทรศัพท์มา “แม่สาวนั่น รีดคุณจนหมดแรงเลยเหรอ?” อดัมสัพยอก เขาส่งดีแลนขึ้นสวรรค์ ไม่คิดว่าแม่สาวคนนั้นจะร้อนแรงเสียจน ดีแลนถึงกับหลับเป็นตาย มาตื่นเอาเกือบค่ำ
“คุณรู้”
“รู้สิ ผมเป็นคนส่งหล่อนให้คุณนี่” อดัมตอบ เขาแกว่งแก้วบรั่นดีในมือ ก่อนจะค่อยๆ จิบทีละน้อย
“ขอบคุณนะ แต่คราวหลังไม่ต้องนะ” ถึงดีแลนจะเป็นหนุ่มเลือดลมพลุ่งพล่าน แต่เขาชอบที่จะเป็นฝ่ายเลือก มากว่าถูกจัดฉากยกให้
“คุณมีความสุข ผมก็ดีใจ ว่าแต่...ธุระของเรา วันไหนดีล่ะ ผมอยากคุยรายละเอียดกับบริษัทของคุณแล้ว”
อดัมวกกลับมาเรื่องงาน ดีแลนเลยไม่ได้ถามต่อ เขานัดแนะอดัม ก่อนจะกดวางสายไป
หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทิ้งตัวลงนั่ง ยกมือกดข้างขมับ เมื่ออาการปวดหัวจี๊ดๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง เขาคงต้องหาอะไรรองท้อง ก่อนจะขึ้นไปหลับสักงีบ จากนั้นคงต้องเดินทางไปพบผู้หญิงคนนั้น เพื่อจบปัญหาที่เขาระแวงเล็กๆ ให้จบลงไปสักที
อาหารง่ายๆ ที่เปิดตู้เย็นก็เจอ ปรารถนา มารดาของเขา มักจะแวะมาทำอาหารและเก็บใส่กล่องไว้ให้บุตรชายคนเดียวกินแก้หิว ดีแลนแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน เขาอยากมีเวลาส่วนตัว เพราะเบื่อเต็มทนแล้วกับความวุ่นวายของครอบครัวใหญ่ บ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้กลับไปนาน ในรั้วบ้านหลังเดียวกันมีหลายครอบครัว ดีแลนคงชินกับการอยู่คนเดียว เขาเลยรำคาญกับเสียงโหวกเหวกของสมาชิกในบ้าน
เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของเดวิดก็จริง แต่อย่างว่าแหละ ครอบครัวคนจีน มักจะอยู่เป็นกลุ่มก้อน ดังนั้นรอบๆ บ้านของเขา คือบ้านของญาติๆ ที่ปลูกอยู่ในที่พื้นเดียวกัน
มันจึงเป็นที่มาที่ทำให้ดีแลน...แยกมาอยู่ที่นี่ลำพัง
ชายหนุ่มนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม เขาหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้ายามหลับอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มโสดรุ่นเดียวกัน แต่ยามใดก็ตามที่ดีแลนตื่น เขาจะเคร่งขรึม และเป็นที่เกรงขามของคนรอบตัว
“วันนี้ทำไมตื่นสายจัง...แล้วไม่ไปทำงานเรอะ?”
เทียนถามบุตรสาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมื้อเย็น โดยที่ยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เทียนไม่ได้ถามบุตรสาว หลังจากช่วงเช้าอบเชยไม่ได้ตื่นมาช่วยเหมือนทุกวัน
“เชยไม่ไปทำงานที่นั่นแล้วค่ะแม่” อบเชยตอบ รีบพุ้ยข้าวใส่ปาก ดันตัวลุกขึ้นยืน เมื่อข้าวหมดจาน
“ทำไมล่ะ...” เทียนซักต่อ อบเชยไม่ใช่คนท้อถอย ต้องมีอะไรทำให้อบเชยไม่ไปทำงาน ทั้งที่เพิ่งไปทำได้แค่วันเดียว
“มันเลิกดึกค่ะแม่...” คำตอบของอบเชยเทียนเลยคลายความสงสัย
อีกอย่างนางก็ไม่อยากให้บุตรสาวไปทำงานกลางค่ำกลางคืน เมื่อมีแต่อันตรายอยู่รอบตัว
“ดีแล้วล่ะ หางานกลางวันทำดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนูจนนอนหลับไม่สนิท” เทียนบ่น นางเช็ดใบตองระหว่างที่คุยกับอบเชย
“เดี๋ยวเชยออกไปข้างนอกนะแม่ เชยจะออกไปหางานใกล้ๆ บ้านทำ”
อบเชยเป็นคนขยัน เธอไม่เคยอยู่นิ่งๆ มีแรงเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับงาน และการเรียนก็ไม่เสียด้วย
“อืม...อย่ากลับดึกล่ะ” เทียนเอ่ยปากอนุญาต หมดความสนใจบุตรสาว เมื่องานในมือของนางก็ยุ่งจนทำไม่ทัน ต้องเตรียมของไว้ทำขนมขายตอนเช้า สองคนแม่-ลูก ที่หาเงินตัวเป็นเกลียว
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เธอเร่งล้างจาน และรีบออกจากบ้าน ก่อนที่จะแสดงพิรุธจนมารดาจับได้
สองเท้าเดินริมถนนไปเรื่อยๆ ความคิดล่องลอย อบเชยไม่รู้ว่าเธอจะทำตัวแบบไหนต่อไปดี เรื่องที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงเสียจนเธอตั้งรับไม่ทัน เป็นความผิดพลาดที่อบเชยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งเดียวที่อบเชยมั่นใจ เธอไม่มีวันปริปากบอกคนอื่นแน่ๆ แม้แต่มารดา อบเชยก็ไม่คิดจะบอก
“เห้ย!” ความคิดบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว
คนสองคนต่างเพศ มีความเป็นไปได้สูงว่าหลังจากมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น มักจะเกิดตามมา บทเรียนในวิชาสุขศึกษา อาจารย์ผู้สอนพูดย้ำแล้วย้ำอีก อบเชยยืนตัวแข็งทื่อ
เธอยกนิ้วขึ้นมานับ...มันเพิ่งผ่านมา ไม่ถึงสิบชั่วโมง
ดังนั้นเธอยังมีเวลาสำหรับการป้องกันตัว เพื่อสกัดปัญหาใหญ่ที่จะตามมา
หน้าปากซอยมีร้านขายยา และที่นั่นน่าจะมียาบางอย่างที่ช่วยไม่ให้อบเชยต้องผจญกับเรื่องร้ายแรง สองเท้าก้าวเร็วขึ้น เธอใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็พาตัวเองมาถึงจุดหมาย อบเชยเงยหน้ามองป้ายหน้าร้าน สูดลมหายใจลึกๆ ตอนที่เอื้อมมือดันประตูกระจกเปิดเข้าไปภายใน และมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แม้จะอายจนหน้าชากับการมองลอดแว่นของเภสัชกรประจำร้านขายยาแห่งนั้น อบเชยก็จำเป็นต้องตีสีหน้าให้นิ่งไว้ ตอนที่เธอล้วงเศษสตางค์ในกระเป๋ายื่นให้ มือของเธอสั่นระริกทีเดียว
“รู้วิธีใช้ไหม...ดูข้างกล่องนะ อ่านให้เข้าใจ ทำตามล่ะ อย่าให้พลาด”
แม้น้ำเสียงจะแข็งๆ ฟังเหมือนกำลังถูกดุ อบเชยตั้งใจฟัง เธอยิ้มแหยๆ ให้ แล้วจึงรีบเดินออกมา
สวนสาธารณะที่เดิม อบเชยเลือกนั่งที่ชิงช้า เธอกวาดตามองไปรอบๆ ตัว มีผู้คนเดินไปมา แต่ยังไม่พลุกพล่านนัก กล่องขนาดเล็ก มีแผงยาอยู่ด้านใน มียาอยู่สองเม็ดด้วยกัน อบเชยอ่านวิธีใช้ เธอบิยาเม็ดแรกโยนใส่ปาก ตามด้วยการยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะรีบยัดแผงยาที่เหลือเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนกล่องที่บรรจุ อบเชยเดินไปหย่อนทิ้งในถังขยะ เธอจำวิธีใช้ ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ นี่ขึ้นใจแล้วนี่เอง
การที่อบเชยทิ้งกล่อง เพราะต้องการป้องกันความผิดพลาด
หากมารดาเห็นเข้า ท่านต้องตกใจแน่ๆ อบเชยเลยต้องรีบกำจัด แต่ยังเก็บยาที่เหลือไว้ เพราะหลังจากนี้ไม่เกินสิบสองชั่วโมง เธอต้องกินยาอีกเม็ดที่เหลือ อบเชยนั่งทอดอาลัย และกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตก เธอถึงกับตั้งเวลากันพลาด ยาเม็ดที่เหลืออบเชยต้องกินให้ตรงเวลาเป๊ะๆ
ดีแลนทิ้งตัวนั่งบนโซฟาบุนวม เขากวาดตามองหาบริกรหนุ่มคนนั้น และฉุนที่รออยู่ก็รีบปรี่เข้ามาหาทันที
“มาเสียดึกเลยนะครับท่าน”
“หล่อนล่ะ?” ดีแลนไม่อยากเสียเวลา เขาถามหาแม่สาวคนนั้นทันที
ฉุนทำหน้าปั้นยาก อบเชยไม่มาทำงานวันนี้ และเท่าที่รู้มา หล่อนไม่มาทำงานอีกต่อไปแล้ว
“เธอลาพักครับ” ฉุนพูดปด หากบอกความจริงไป เขาคงชวดหลายอย่าง
“งั้นรึ?” ดีแลนรำพึง เขายกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ ถอนใจแรงๆ
“ท่านอยากได้คนอื่นแทนไหมครับ” ฉุนพยายามเชียร์สาวๆ คนอื่นให้ เมื่อแต่ละนางที่ขึ้นไปโยกย้ายส่ายเอวอยู่บนเวที สวยๆ อวบอัดไม่ต่างอะไรกับอบเชย ตามความเห็นของเขา อบเชยจริตก็ไม่ค่อยมี หน้าตาก็ธรรมดา สู้สาวเจนโลกที่ส่งสายตายั่วยวนพวกนั้นก็ไม่ได้
“ไม่ล่ะ...ถ้าหล่อนมาทำงาน ติดต่อหาฉันตามเบอร์นี้นะ” ดีแลนกล่าวตัดบท เขาลุกขึ้นยืน หลังวางธนบัตรไว้ชำระค่าบรั่นดีที่เขาดื่มไป
ฉุนก้มมองนามบัตรที่รับมา เขาห่อปาก ครางเสียงหลง