อบเชยทอดสายตาอ่อนเศร้ามองไปที่เตียงเป็นครั้งสุดท้าย
ดีแลนนอนหลับสนิท สีหน้าของเขาปริ่มสุขจนอบเชยน้ำตาคลอ เธอตัดใจเดินออกไปจากห้องVIP ทางเดินเงียบกริบ และอุณหภูมิรอบตัวเย็นเฉียบเช่นเดิมจนอบเชยสั่นสะท้าน เธอรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น และคงเป็นความโชคดีของเธอ อบเชยไม่เจอคนอื่นอีกเลย แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในที่สุดอบเชยก็เดินออกมาจากคลับแห่งนั้นได้สำเร็จ หญิงสาวท่องจำไว้ในใจ นับจากนี้ไป เธอจะไม่มาเหยียบที่แห่งนี้อีก
ณรงค์มองตามผู้หญิงร่างเล็ก ที่เดินโผเผออกมาจากประตูด้านข้างผับตอนดึกสงัด
เจ้าของสกายฮอลล์ขมวดคิ้ว เขารีบปัดความสงสัยทิ้ง เมื่อเวลานี้ตนเองง่วงจนเปลือกตาแทบจะปิด แต่...ระหว่างที่ขับรถยนต์คู่ใจกลับที่พัก ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน รูปร่างหน้าตาแม้จะเห็นไกลๆ กลับรู้สึกคุ้นเคยบอกไม่ถูก
“ช่างเถอะ คงเป็นคนรู้จักสักคนแหละ”
หนุ่มหล่อเจ้าของผับดังรีบปัดความคาใจทิ้ง เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น เขาง่วง เขาอยากนอน ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ไว้ค่อยคิดพรุ่งนี้..
รถประจำทางแล่นมาจอดป้ายพอดีกับที่อบเชยเดินไปถึง หญิงสาวรีบกระโจนขึ้นไป กวาดตามองหาที่นั่ง เธอเลือกที่นั่งแถวสุดท้าย และนั่งเงียบๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
หญิงสาวถอนใจแรงๆ ไฟฟ้าในบ้านยังปิดสนิท เธอยกข้อมือมองเวลา นาฬิการาคาถูกยังทำงานได้ดี เข็มสั้นและเข็มยาวชี้บอกเวลา เหลืออีกประมาณไม่ถึงสามชั่วโมง พระอาทิตย์ก็จะออกมาทำหน้าที่ฉายแสงให้ความสว่างกับทุกผู้ทุกคน และวัฐจักรเดิมๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้น สำหรับมนุษย์ที่ต้องหาเลี้ยงปากท้อง
อบเชยปิดประตูรั้วด้วยน้ำหนักมือที่พยายามเบาให้ถึงที่สุด เธอจรดปลายเท้า ลัดเลาะไปจนถึงห้องนอน
ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิท เรือนกายอวบอุ่นก็รูดลงไปกองที่พื้น มือเรียวรวบกอดตนเองไว้แน่น เธอยกชายเสื้อขึ้นกัดไว้ เพื่อลดเสียงสะอื้นไม่ให้ดังมากเกินไป ไม่อย่างนั้นมารดาที่กำลังหลับสนิท อาจจะตกใจตื่น เมื่อบุตรสาวร่ำไห้อย่างหนัก อบเชยคลานไปที่ฟูกนอนเก่าๆ เธอนอนซุกตัวบนที่นอนนั้น กอดตัวเองไว้แน่นๆ สะอื้นไห้จนลำตัวสั่นเทา
ดีแลนไม่ผิด คนที่ผิดคือเธอเอง เพราะความอยากรู้ ทำให้เธอยั่วยุจนดีแลนจนเขาตบะแตก
เขาข่มเหงเธอทั้งที่เขาเมามาย และอบเชยเชื่อว่า ทันทีที่สติเขาฟื้นคืนมา เขาจะไม่มีวันจำได้
เรื่องที่เกิดขึ้น จะเป็นความลับ หากเธอไม่พูด ดีแลนก็คงไม่กระโตกกระตาก
เขาคงอายหากมีคนอื่นล่วงรู้ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น คือความผิดพลาดใหญ่หลวงของเขา
กว่าอบเชยจะหลับ เธอย้ำกับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ย้ำให้ตัวเองจำขึ้นใจ...เรื่องนี้จะถูกกดลึกอยู่ในตำแหน่งที่ใครก็เอื้อมไม่ถึง และเธอจะไม่มีวันแพร่งพรายบอกใครแน่ๆ
แสงสีส้มอ่อนส่องผ่านม่านหน้าต่างที่ขยับไหว เพราะสายลมพัดแทรกเข้ามาตามรอยแตกของเนื้อไม้
คราบน้ำตาเปรอะข้างแก้ม รอยช้ำของกลีบปากอิ่ม ตัดกับสีขาวของผิวเนื้อ ร่องรอยหลายอย่างกระจายอยู่ตามเนื้อตัว เป็นรอยรักที่ดีแลนทิ้งไว้ให้อบเชยดูต่างหน้า และมันจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
ดีแลนงัวเงียตื่นเอาเกือบบ่าย เขาผุดลุกขึ้นนั่ง ยกมือตบข้างขมับ ปวดหัวเหมือนมีใครมาวางระเบิดไว้ด้านใน ชายหนุ่มปรือตามอง รอบตัวที่เหมือนพายุถล่มใส่ ข้าวของที่จัดไว้อย่างสวยงามหล่นกระจัดกระจาย รวมถึงเสื้อผ้าของเขาด้วยที่หล่นอยู่บนพื้น และกระจายไปเกือบทั่วห้อง
“เห้ย!” เขาอุทาน รีบกระโจนลงมายืนข้างเตียง
ดีแลนเป่าปากดังพรืด...เมื่อบนเตียงว่างเปล่า ไม่มีอะไร หรือใครเหมือนที่เขากลัว แต่ว่า...เขาเมาหนักถึงขนาดนอนแก้ผ้าเชียวเหรอ? อะไรไม่เท่า เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ความทรงจำก่อนหน้านี้ มีแค่ความว่างเปล่า... จำได้แค่ว่า...เขามาเจอกับอดัม ยังไม่ทันได้คุยงาน ก็พาลเมาไปเสียก่อน
เพราะยัยเด็กบ้านั่นคนเดียว!!
ดีแลนจำได้แค่ว่า เขาดื่มหนัก แต่ไม่รู้ว่ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ไม่อดัมก็ใครสักคนแหละที่พาเขามานอนที่นี่
ดีแลนพยายามคิดในแง่ดี...แม้จะรู้สึกโหวงๆ ในอก
ชายหนุ่มส่ายใบหน้าแรงๆ เกือบสี่ปีที่เขาไม่เคยดื่มจัดแบบนี้ ดีแลนไม่ค่อยสังสรรค์ เขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ชายหนุ่มฉวยผ้าเช็ดตัวมาพันรอบสะโพก หยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนจะไสลด์หน้าจอเพื่อดูเวลา “ตายโหง!! ตื่นป่านนี้ ที่บริษัทคงบ่นกันเกรียว” มันไม่ใช่แค่การไปทำงานสายครั้งแรก แต่นี่เป็นการหยุดงานแบบที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แม้ดีแลนจะเป็นประธาน เขาก็ไม่เคยใช้อภิสิทธิ์นั้น เขาเป็นผู้บริหารที่เคร่งครัด เป็นแบบอย่างให้พนักงานในหวังเทียนกรุปทำตาม
สองขาพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขากดโทรศัพท์พลางหย่อนตัวแช่ลงในอ่าง
“ซี๊ดดดด!”
ทรงพลแบนโทรศัพท์ส่วนตัวออกห่าง เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อคนที่โทรศัพท์มาหาเขา คือเจ้านายจอมเคร่งครัด
ดีแลนสะดุ้ง เมื่อหย่อนตัวลงน้ำ ความเจ็บแสบพุ่งเข้าใส่ จนต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน
กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้าเฉลยให้ดีแลนรู้ รอยข่วนยาวๆ กลางหลัง นั่นคือสาเหตุที่เขาแสบ แผลสดๆ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ดีแลนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เขลาจนไม่รู้ รอยที่เกิดขึ้นบนแผ่นหลังของเขาเกิดขึ้นได้อย่างไร ดีแลนกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาไม่อยากเดา ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอง อวัยวะเบื้องล่าง เขาเกือบล้มหัวขมำ เพราะคิดอะไรบางอย่างได้
“เจ้านายครับ เจ้านายครับ!!” เสียงใครบางคนตะโกนเรียก
ดีแลนลดตัวลงนั่ง ส่งเสียงแหบแห้งตอบคนปลายสายไป “มีอะไรรึทรงพล?”
เมื่อเจ้านายถามแบบนั้น ลูกน้องที่ดีจะตอบอะไรได้นอกจาก “เปล่าครับ ผมเห็นเจ้านายเงียบ เลยถามกลับไปแค่นั้นครับ”
“ฉันคงไม่เข้าบริษัทนะ...วันนี้” ดีแลนกรอกเสียงบอก เขาจ้องหน้าขาตัวเอง เหมือนมีอะไรบางอย่างงอกออกมาจากตรงนั้น
คราบสีขาวขุ่นแห้งเกรอะกรัง จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากค่ำคืนที่ผ่านมา เขาเล่นรักกับสาวปริศนา ที่จำไม่ได้แม่แต่หน้า ไม่รู้ว่าหล่อนชื่อแซ่อะไรด้วยซ้ำ ความทรงจำของเขาเหมือนมีหมอกบางๆ ขวางเอาไว้ สิ่งที่ดีแลนนึกได้ตอนนี้ คือเขามีความสุข สุขเสียจนแม้แต่อุปกรณ์ป้องกันตัว ดีแลนยังไม่สนใจที่จะหามาใช้ หลักฐานเห็นทนโท่นี่ไง!!
“ครับ” ทรงพลคันปากอยากจะถาม แต่เขาหรือจะกล้า
ดีแลนกดวางสาย เขาวักน้ำล้างคราบสกปรกกึ่งกลางร่างกาย สลับกับการพยายามคิด
เขาสะเพร่าขนาดนอนกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักเชียวเหรอ?
เงารางๆ ที่พยายามเพ่งมอง แต่เงานั่นเหมือนจะหวงตัว ยิ่งเขาพยายามมากขึ้นเท่าไหร่ ภาพเงานั้นก็ยิ่งจางลง ดีแลนสะบัดศีรษะ เขายกมือขึ้น ใช้หัวแม่มือคลึงข้างขมับ จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากภายนอก
“ท่านครับๆ ตื่นหรือยังครับ?”
ฉุนแวะมาดูดีแลนตอนที่เขากลับมาทำงานอีกครั้ง วันนี้เขามาก่อนเวลา เพราะหากโชคดี เขาอาจได้ทิปงามๆ จากลูกค้ารายนี้
“ตื่นแล้ว เข้ามาสิ”
ดีแลนตะโกนบอก บางทีพนักงานของที่นี่ อาจจะรู้ว่าเขาหิ้วใครมานอนด้วย
ฉุนยืนก้มหน้า ท่าทางสำรวม ดีแลนมองนิ่งๆ “นายพาฉันมานอนที่นี่รึ?” เขาถาม
“ครับ เมื่อคืนเจ้านายเมามาก คุณอดัมเลยให้ผมพาเจ้านายมานอนพัก ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณอดัมเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้หมดแล้ว” ฉุนรีบบอก เขาท่องมาจนขึ้นใจ ค่าจ้างที่รับมา เขาใช้จ่ายได้เป็นเดือนๆ
“อืม...แล้วพอรู้ไหม ใครอยู่กับฉันเมื่อคืน?”
ดีแลนผ่อนลมหายใจช้าๆ เขาหลุบเปลือกตาลง รอฟังคำตอบ
คำสั่งของคนจ่ายสตางค์คือไม่ได้รวมถึงการบอกรายละเอียด ดังนั้นหากลูกค้าอยากรู้ ฉุนก็ไม่ได้คิดจะปิด บางทีเขาอาจได้ทิปงามๆ จากอบเชยอีกก็ได้ เพราะหากหล่อนมีรายได้เพิ่ม หล่อนคงพอใจ
“เด็กที่ทำงานที่นี่ครับ”
“งั้นเหรอ...คืนนี้ฉันจะมาใหม่ ยังไงช่วยเป็นธุระ พาหล่อนมาพบฉันด้วยล่ะ”