สุดท้ายฉันก็ได้เสื้ออีกตัวกลับมาให้พี่เฟรม เพราะเสื้อของเขาจริงๆมันคือตัวนี้ต่างหากส่วนอีกตัวก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเขาจัดการกับมันยังไง เห็นบอกว่าจะเอาไปคืนเองแล้วเขารู้เหรอว่าเสื้อตัวนั้นเป็นของใคร
เขาจะรู้จักกับพี่เธีย?
ใช่แน่! ทำไมฉันถึงได้โง่อย่างนี้นะ ดูก็รู้ว่าพี่เฟรมไม่พอใจที่เห็นเสื้อมันสลับกัน แปลว่าพี่เฟรมกับพี่เธียคงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีนักหรอกหรืออาจจะถึงขั้นเป็นคู่อริกันเลยก็ว่าได้เพราะวันนั้นพี่เฟรมดูโมโหฉันเอามากๆแถมยังสั่งไม่ให้ฉันยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอีก
แสดงว่าพี่เฟรมต้องรู้เรื่องของเขาพอสมควร...
"ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง" พอนึกถึงก็เจอเข้าพอดีเลย
ตอนที่ฉันกลับมาจากโรงเรียนมาถึงบ้านก็เห็นพี่เฟรมนั่งทำหน้าขรึมอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่นเข้าพอดี เขามองดูถุงในมือฉันอย่างสนใจราวกับรอลุ้นว่ามันคืออะไร เพิ่งเคยเห็นพี่เฟรมทำตัวสนใจน้องก็ช่วงนี้แหละ ทุกทีไม่เคยใยดี
"ไม่มีเรียนเบื่อเลยกลับมาก่อน" บางทีก็คิดว่าเขานิสัยคล้ายกับ... "อะไร"
"เสื้อพี่เฟรม เขาคงสลับกันวันนั้น วันนี้เลยเอามาคืน" ฉันยื่นถุงทีมีเสื้อของเขาไปให้ แต่แทนที่พี่ชายจะสนใจเสื้อราคาแพงของเขากลับรัวคำถามใส่ฉันยกใหญ่
"บอกเราแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปยุ่งกับมัน"
"ไม่ได้ยุ่งเลย เขาแค่เอามาคืนแค่นั้นจริงๆ" ฉันโกหกเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนด่า ความเป็นจริงคือมันมากกว่าที่คิด ถ้าพี่เฟรมรู้ว่าฉันโดนคนทั้งโรงเรียนรังแกด้วยมีหวังได้ย้ายโรงเรียนอีกแน่
"..." พี่เฟรมมองหน้าฉันราวกับตัวเองเป็นเครื่องจับโกหก จะถามออกไปตอนนี้ดีไหมนะว่าทำไมเขาต้องห้ามไม่ให้ยุ่ง หรือเขารู้เหมือนที่นักเรียนในโรงเรียนรู้เลยกลัวว่าฉันจะตกอยู่ในอันตราย
"ขอถามอะไรหน่อยสิ" พอเขาไม่ได้ห้ามอะไรฉันจึงตัดสินใจถามเกี่ยวกับเรื่องของพี่เธีย "พี่เฟรมรู้จักคนชื่อเธียเหรอ"
"...ทำไม" มั่นใจได้ทันทีว่าสองคนนี้ต้องเป็นศัตรูกัน พอถามแค่นั้นพี่ชายฉันก็ทำดุขึ้นมาทันที
"ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยเล่า ไม่ถูกกันเหรอ" ยิ่งถามคิ้วหนาๆบนในหน้าคมก็ยิ่งขยับชิดกันจนเกิดเป็นรอยย่นมากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบเพราะพี่เฟรมเอาแต่เงียบแล้วแกล้งทำเป็นกดเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปเรื่อยๆเหมือนที่ฉันพูดไปนั้นมันไม่เข้าหูเขาเลยแม้แต่น้อย
"แค่อยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาแปลกๆ"
"อย่าไปอยากรู้เรื่องคนอื่นดีกว่า" นี่เขากำลังด่าว่าฉัน 'เสือก' แบบอ้อมๆอยู่หรือเปล่านะ พี่เฟรมเว้นคำพูดเอาไว้เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างแล้วจึงพูดต่อ "โดยเฉพาะคนนี้"
"..." สุดท้ายฉันก็ไม่คำตอบอยู่ดี ไม่รู้จะเก็บเป็นความลับไว้ทำไมกันนัก บอกมาตรงๆเสียก็สิ้นเรื่อง ยิ่งทำปิดบังคนเขายิ่งิยากรู้ "แล้วพี่เอาเสื้อตัวนั้นไปคืนเขายังอะ"
"แม่บอกว่าถ้ามาให้ไปช่วยหน่อย"
สี่ทุ่มแล้วแต่ฉันก็ยังคงนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย แต่เรื่องเรื่อยเปื่อยที่ว่านั้นดันมีแต่หน้าคนชื่อเธียลอยไปลอยมา ไม่ใช่ว่าฉันพิศวาสอะไรเขาแต่การกระทำของเขามันทำให้ฉันสับสนว่าเขาเป็นคนประเภทไหนกันแน่ หลายคืนแล้วที่ต้องมานอนคิดว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรในโรงเรียนนั้นอีก เขาจะมาไม้ไหนหรือส่งใครมาแกล้งกันอีกมั้ย
แต่ๆมาวันนี้เขากลับมาทำเหมือนเราไม่เคยทะเลาะกัน เป็นไบโพลาร์หรือไง...
ฉันคิดทบทวนถึงคำพูดตัวเองในวันนั้นที่ทำให้พี่เธียเดือดจัด จำได้ว่าตอนนั้นพูดแค่พ่อกับแม่ไม่รักแล้วหลังจากนั้นก็เหมือนเขาเปลี่ยนจากคนหนึ่งเป็นอีกคน เคยคิดว่าเขาแค่เป็นคนกวนๆชอบแกล้งคนอื่น เป็นเด็กที่พ่อแม่รวยแล้วแสดงความมีอำนาจเท่านั้นแต่มันกลับไม่ใช่แล้ว เขาน่ากลัวกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยตอนที่โมโห หรือสิ่งที่ฉันพูดนั่นจะเป็นปัญหาสำหรับเขากันนะ ถ้าใช่ฉันจะได้ไปขอโทษแล้วยุติส่งครามกันเสียที เพราะตอนนี้ชีวิตของฉันมันอยู่ไม่สุขเอาเสียเลยหรือสุดท้ายแล้วจุดจบของฉันมันจะไม่ต่างจากคนอื่นที่ก้าวเข้าไปมีปัญหากับเขา
Dream mii : พรุ่งนี้ก่อนเข้าโรงเรียนไปส่งฉันที่ธนาคารหน่อยนะ อยากไปถอนเงินซักล้านมาเปย์ผู้ชาย
ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับแสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็สว่างจ้าขึ้นมา พอเห็นว่าเป็นยัยดรีมจึงตอบกลับไปด้วยสติ๊กเกอร์หนึ่งตัวก่อนจะเปิดโหมดห้ามรบกวนแล้วพาตัวเองหลับไป
"พราวรดาอีกแล้วเหรอ" เสียงของครูหัวหน้าฝ่ายปกครองพูดพร้อมกับกอดอกมองหน้าฉันที่กำลังยืนกวาดใบไม้แห้งใต้ต้นไทรหน้าโรงยิมเพราะถูกทำโทษ ส่วนยัยดรีมกับยัยธัญญ่ารับหน้าที่เดินเก็บขยะทั่วทั้งโรงเรียน
"ค่ะ หนูอีกแล้ว แย่จังเลยนะคะ" ฉันตอบแล้วก้มกวาดขยะต่อ
ไม่ใช่เพราะอยากจะทำตัวก้าวร้าวกับครูนักหรอกแต่การถูกทำโทษครั้งนี้ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เหมือนโดนกลั่นแกล้งมากกว่า
"เพิ่งย้ายมาได้เดือนกว่าแต่ชื่อเธออยู่ในสมุดของห้องปกครองมากกว่าเด็กห้องท้ายๆอีกนะ" ครูยังคงพูดตอกย้ำความเกเรที่ถูกยัดเยียดของฉันต่อ แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรอกฉันพอจะดูออกว่าแค่ไม่อยากให้คิดมากล่ะมั้ง สักพักก็เดินจากไปปล่อยให้ฉันทำหน้าที่ของตัวเองคนเดียวใต้ต้นไทรที่ใบขยันร่วงเหลือเกิน
"เหนื่อยชิบหายเลยโว้ย!!" ดรีมทิ้งตัวนั่งลงบนสนามหญ้าหน้าโรงยิมพร้อมกับบ่นเสียงดังจนเด็กมอต้นที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง
"คอยดูฉันจะเล่นงานพวกมันบ้าง"ธัญญ่าที่กลับมาในสภาพไม่ต่างกันลงไปนอนบนสนามหญ้าบ้างพร้อมกับทำท่าชกไปในอากาศด้วยความโมโห
“ไปกินน้ำปั่นร้านพี่คีตะกัน” ดรีมพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาถามฉันเสียงดัง "ยัยพราวเสร็จหรือยัง!"
“อุดหนุนแม่เขามาสามปี หมดไปหลายหมื่นแล้วนะเว่ย” ธัญญ่าพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะให้กับความพยายามของอีกคน
นั่นก็เพราะว่าดรีมแอบชอบพี่ ‘คีตะ’ รุ่นพี่มอฯหกที่สาวๆหลายคนในโรงเรียนยกให้เป็นหนุ่มฮอตคนหนึ่ง ทั้งเรียนดี เล่นกีฬาเก่งแถมยังเด่นกิจกรรมอีกด้วย แต่ที่ฉันไม่ประทับใจคือเขาเป็นเพื่อนสนิทของอีตาบ้าเธีย แล้วฉันก็เพิ่งมารู้ได้ไม่กี่วันมานี้เองว่าดรีมชอบรุ่นพี่คนนี้
บอกฉันห้ามยุ่งกับพี่เธียเพราะเขาน่ากลัวส่วนตัวเองดันชอบเพื่อนสนิทเขาหัวปักหัวปำ
แต่ดูเหมือนจะเป็นรักข้างเดียวเพราะพี่เขาไม่แม้แต่จะชายตามามองเพื่อนของฉันเลยสักครั้ง ก็แน่ล่ะยิ่งตอนนี้ฉันตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนในฐานะคู่กัดของพี่เธียที่หน้าด้านไม่ยอมย้ายโรงเรียนด้วย เพื่อนคงคะแนนตกไปอีกเยอะจนแทบไม่เหลือโอกาสที่พี่คีตะจะหันมามองเลยด้วยซ้ำ
จังหวะที่กำลังจะหันไปตะโกนบอกยัยดรีม อยู่ๆก็มีคนทิ้งขวดน้ำอัดลมลงบนพืื้นที่ฉันกำลังกวาดอยู่ พอหันหน้าไปมองก็เห็นกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงชั้นมอฯหกกลุ่มหนึ่งที่กำลังมองมาแถมยิ้มเยาะใส่กันอีกต่างหาก
"มันไม่ใช่ที่ทิ้ง" ฉันเอ่ยปากบอกด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดเพื่อลดการปะทะแต่ไม่รู้ว่าคนฟังจะรู้สึกยังไง เพราะยัยพวกนั้นพากันหยุดแล้วหันมามองฉันกันหมด ยัยดรีมกับธัญญ่าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลุกจากตรงนั้นแล้ววิ่งมาหาทันที
"แล้วไง สุดท้ายเธอก็ต้องกวาดไปทิ้ง" น้ำเสียงและท่าทางของคนพูดฟังยังไงก็รู้ว่ากำลังหาเรื่องกันอยู่ชัดๆ
"เพราะโรงเรียนมีนักเรียนนิสัยแย่ๆแบบนี้ไง มันถึงถ่วงความเจริญ ถ้าไม่มีคงไประดับโลกแล้ว" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่ดูเหมือนว่าประโยคของฉันมันจะสะเทือนจิตใจยัยนั่นเหลือเกิน
"ว่าไงนะ!"
"ไม่ได้เข้าใจเหรอคะพี่ หนูจะบอกว่าตรงนี้ไม่มีถังขยะ คนฉลาดเขาไม่เอาขยะมาทิ้งตรงนี้" พอพูดจบยัยรุ่นพี่คนนั้นอารมณ์เดือดขึ้นทันที หล่อนพุ่งตัวเข้ามาหาฉันพร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นเตรียมฟาดลงมาเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้
แต่มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงของใครบางคนแทรกเข้ามาระหว่างเราสองคนพอดี เขาถูกผลักเข้ามาตรงกลางระหว่างยัยรุ่นพี่คนนั้นกับฉัน
"เชน!"
"เธีย!"