“ก็แค่คลายเครียดไปวันๆ สนุกจะตาย วิถีคนโสด และฉันไม่ได้ทำให้ใครทรมานใจอยู่แล้วน่า”
“แต่ก็ฝืนใจนะคะ”
“เป็นอะไรเนี่ย อยู่ๆ ก็มาห้าม”
“เด็กที่มาใหม่น่ะ อยากทำงานจริงๆ ค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่เอามาขาย แล้วดูคุณท่านก็จะสนองความต้องการของพ่อแม่เธอด้วย”
“ฉันก็ไม่ได้เอาทุกคนที่ซื้อ ก็รู้อยู่ แต่ดูก่อน” ยังไม่ทันสิ้นคำดีเด็กรับใช้ก็พาลูกตาลเข้ามาในห้องอาหาร ลูกตาลเดินก้มหน้าก้มตา เอามือประสานกันไว้ด้านหน้า และหยุดยืนชิดผนังห้อง
“มาแล้วค่ะคุณท่าน” เด็กรับใช้รายงาน ทำให้ชาร์ลหันไปมองเล็กน้อย พิจารณาแล้วว่าเด็กสาวคนนี้หน้าตาน่ารักใช้ได้เลยทีเดียว แต่ต้องขัดสีฉวีวรรณอีกสักหน่อย จับแต่งตัวน่าจะดูดีขึ้น
“ชื่ออะไร” ชาร์ลถามโดยไม่มองหน้า
“ชื่อ... ชื่อลูกตาลค่ะ” เธอตอบแบบไม่เงยหน้าเช่นกัน ไม่รู้ว่าเจ้านายหน้าตาอย่างไร แต่ฟังแล้วน้ำเสียงเจ้านายเหมือนพูดไม่ชัดเล็กน้อย
“ได้เงินเดือนแรกแล้วนี่”
“ค่ะ” ลูกตาลตอบแบบประหม่า
“อยู่ที่นี่เดือนนึงแล้วเป็นยังไงบ้าง”
“ก็... ดีค่ะ พี่ๆ ทุกคนดีกับหนู”
“ได้ข่าวว่าป้าแขให้ขึ้นไปทำความสะอาดที่ห้องรับรองเหรอ”
“ค่ะ”
“งั้นพรุ่งนี้ ขึ้นไปทำความสะอาดที่ห้องฉันด้วยนะ สักตอนบ่ายๆ หลังอาหารเที่ยง” เอาแล้วไง เขากำลังส่งสัญญาณอย่างนั้นสินะ
“อะไรนะคะ!” ลูกตาลอุทานด้วยความตกใจ พร้อมกับเงยหน้ามอง และชั่ววินาทีจึงได้เห็นหน้าเจ้านายหน้าตาว่าเป็นอย่างไร เขาหน้าตาหล่อมาก มากจนบรรยายไม่ถูก จมูกโด่ง ตาตี๋้เล็กน้อย ปากกระจับ ผิวไม่ขาวมากนัก ตัวสูงใหญ่แม้จะนั่งอยู่ ลูกตาลสำรวจแค่ไม่กี่วิก็เห็นทุกสิ่งบนใบหน้าเจ้านาย
“ทะ ทะ ทำความสะอาดห้องคุณท่านเหรอคะ” ลูกตาลเห็นหน้าเขาแล้วถามย้ำเสียงสั่น
“ใช่” ชาร์ลตอบเสียงเรียบแล้วกินต่อ แต่ลูกตาลกลับตัวสั่น มือเย็นเฉียบ ครั้นจะปฏิเสธก็ดันมีสายตาป้าแขปรามอยู่
“หนะ หนะ หนูคนเดียวเหรอคะ”
“ใช่ ป้าแขบอกว่าเก่งไม่ใช่เหรอ คนเดียวไหวอยู่แล้วน่า ไม่ใช่งานหนักเสียหน่อย” พอฟังอย่างนี้แล้วลูกตาลก็หันไปมองป้าแข ทว่าป้าแขกลับพยักหน้าให้รับ แม้ลูกตาลจะพยายามส่ายหน้าเบาๆ ก็ตาม
“หนู... หนู”
“เอาล่ะ เตรียมตัวก็แล้วกัน พรุ่งนี้จะได้... ทำงานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง” เขาหันไปพูดพลางหรี่ตามองด้วยความเจ้าเล่ห์แต่ไม่ได้ยิ้มแย้ม
“ให้เด็กๆ เก็บนะป้าแข ฉันอิ่มแล้ว” สิ้นคำเขาก็ลุกพรวด แล้วหยัดยืนขึ้นเต็มความสูงเอี้ยวตัวเดินผ่านลูกตาลไป โดยที่เธอก็เพิ่งสังเกตว่าเขาตัวสูงใหญ่มากจริงๆ ความสูงของเธอยังไม่ถึงไหล่เขาเลย ทำเอาประหม่าและสั่นกลัวไม่หาย
“ป้าแข” ลูกตาลกำลังจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“หยุด ไม่ต้องพูดแล้ว คุณท่านว่ายังไงก็อย่างนั้นแหละ กลับห้องไปเตรียมตัวเถอะ คุณท่านไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง”
“แต่หนูไม่เอา”
“ไม่มีใครปฏิเสธคุณท่านได้หรอกนะ ไปได้แล้วไป” สิ้นคำของป้าแข ลูกตาลก็วิ่งร้องไห้ออกไปจากบ้าน เพราะกลัวและคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาเรียกเธอขึ้นไปรับใช้ในเวลากลางวัน ให้ตายเถอะ
“ป้าแข จะยอมเหรอคะ ยัยตาลกับนายศินน่ะ...”
“จุ๊ๆ อย่ามาพูดตอนนี้ ยังไงซะมันก็เป็นของคุณท่าน แต่มันทนไม่ไหวไปเอากับไอ้ศินเอง ตอนนี้ถ้าจะเอาผิดก็ย่อมได้ ไอ้ศินมันตีท้ายครัว”
“น่ากลัวทั้งสองจะ...”
“ทำเองก็ต้องแก้เอง เก็บของเถอะ”
“ค่ะ” ทั้งคู่หยุดการสนทนาแต่เพียงเท่านี้ เพราะไม่อยากจะพูดให้ใครได้ยิน แล้วนำไปบอกเจ้านาย ทุกคนรู้ดีว่าชาร์ลดุและน่ากลัวแค่ไหน คนสนิทอย่างป้าแขก็ยังเคยโดนมาก่อน เมื่อไหร่ที่ป้าแขแสดงความห่วงใยเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป ก็จะโดนดุ โดนปราม แต่ป้าแขก็มีไม้ตายเอาไว้ปรามในยามที่ชาร์ลหัวร้อนมากๆ เช่นกัน
ปกติ ชาร์ลไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่ใช่นิสัยโดยแท้จริง แต่มีบางอย่างทำให้เขาเปลี่ยนไป เปลี่ยนทุกอย่างแม้กระทั่งการใช้ชีวิต ยิ่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากเท่าไหร่ ชาร์ลก็ยิ่งใช้ชีวิตเสเพลในยามค่ำคืน ทำตัวเหมือนแบดบอย กิน ดื่ม เที่ยว คั่วผู้หญิง แต่ถึงเวลาทำงานชาร์ลก็ทำหนักจนลืมความสุข เป็นเหตุผลที่เขาไม่กลับบ้าน แต่เลือกที่จะนอนบ้านอีกหลัง ที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทของชาร์ลตั้งอยู่ บริษัทผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ส่งออกต่างประเทศ
รวมถึงมีธุรกิจอีกมากมายนับไม่ต่ำกว่าห้า หนึ่งในนั้นแอบปล่อยเงินกู้แบบลับๆ ให้กับเหล่านักธุรกิจด้วยกัน หรือแม้แต่ธุรกิจรายเล็ก แต่เขาไม่ได้ไปดูแลเอง มีผู้ช่วยคอยดูแลให้ เวลากลางวันเขาเอาแต่ทำงาน เวลากลางคืนคือการปลดปล่อย หาผู้หญิงมาบำเรอประหนึ่งประชดชีวิตโสด ใช้มันให้สาแก่ใจไปข้างหนึ่ง จนบางครั้งก็มีอาการคล้ายกับคนอมทุกข์ ซึ่งยากที่ใครจะล่วงรู้ถึงทุกข์ของเขาได้