หลังจากวางสายผมก็ได้ให้พี่เก้าอยู่ดูแลคลับแทน และรีบออกไปหาเฟย์พร้อมกับพี่คิว ดูเธอตื่นกลัวเป็นอย่างมากพูดแทบไม่ได้ศัพท์เอาแต่สะอื้นร่ำไห้ ฟังน้ำเสียงที่ร้อนรนบวกกับเสียงเคาะกระจกที่ดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ ผมก็ร้อนใจกลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย ทำได้แค่รีบไปหาให้เร็วที่สุด และผมก็ลืมถามไปเลยว่าเธออยู่ที่ไหน
“ไปทางไหนดีครับคุณพีท” พี่คิวที่ตอนนี้รับบทเป็นคนขับรถถามความเห็น ผมชั่งใจเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนจะตัดสินใจ
“เลี้ยวซ้ายเลยครับ” พอพี่คิวรับทราบก็ขับรถไปตามทางที่บอก
ระหว่างทางผมก็กดโทรศัพท์ต่อสายไปหาเฟย์ด้วย แต่ก็ได้ยินเพียงแต่เสียงคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น
(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ....)
(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ....)
“บ้าชิบ อย่าบอกนะว่าแบตหมด”
ผมมองสองข้างทางตลอดด้วยความเป็นร้อนใจ ทางนั้นจะร้องไห้เพราะความกลัวขนาดไหน และท้องถนนด้านหน้าของผมก็เห็นรถคันหรูสีแดงจอดอยู่ริมทาง และมีชายชุดดำสวมหมวกกันน็อกยืนเคาะกระจกรถอยู่ ใช่ ต้องเป็นรถของเธอแน่ ๆ
“จอดข้างหน้านี้เลยนะครับ”
“ครับคุณพีท”
พี่คิวตีไฟเลี้ยวจอดต่อท้ายรถหรูคันดังกล่าว พวกเรารีบเปิดประตูรถลงไปพร้อมกัน ก่อนที่จะวิ่งไปหาเจ้าของรถผมก็หันไปหาพี่คิว
“เดี๋ยวพี่จัดการให้ครับ” แต่พี่คิวก็รู้งานยิ่งกว่าว่าผมต้องการจะให้ทำอะไร
ได้รับคำตอบผมก็รีบวิ่งเข้าไปที่ตัวรถทันที และชายชุดดำคนนั้นก็รีบขึ้นมอเตอร์ไซด์และขับออกไปอย่างเร็วพลัน
“คุณพีทอยู่นี่นะครับ เดี๋ยวพี่จะตามมันไปเอง” ผมพยักหน้าให้พี่คิว เขาก็รีบวิ่งไปที่รถแล้วขับตามออกไป
ส่วนตัวผมที่ยืนอยู่นอกรถก็พยายามเคาะเรียกเจ้าของรถที่เอาแต่ซบหน้าเข้ากับพวงมาลัยพร้อมกับมือสองข้างที่ยกขึ้นปิดหูอย่างไม่ต้องการจะรับรู้อะไรจากโลกภายนอก
“เฟย์ ฉันเอง พีท”
“เฟย์ ตั้งสติหน่อยสิ ลืมตาขึ้นมาดูก่อน มันไปแล้ว” ผมพยายามบอกกับคนในรถที่เธอไม่ยอมรับฟังอะไรเลย
ผมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากดโทรหาเธออีกครั้ง และมันก็เหมือนเดิมที่มีแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติกลับมาแทน แบตน่าจะหมดจริงๆ คงต้องพยายามเรียกให้เธอได้สติ
“เฟย์ ไม่ต้องกลัวนะ มันไปแล้ว ฉันมาแล้ว ฉันอยู่ตรงนี้ไง” และเหมือนว่าคนในรถจะได้สติและพอรับรู้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เธอค่อยๆ ผละใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาออกจากพวงมาลัย ดวงตาที่บวมแดงมองมาทางผมที่ยืนอยู่ด้านนอก และทำท่าเบะปากเหมือนจะร้องไห้อย่างกับเด็กน้อยสามขวบอีกครั้ง
เฟย์เปิดประตูก้าวลงจากรถอย่างไวแล้วรีบโผเข้ามาสวมกอดผมทันที พร้อมกันนั้นน้ำตาของเธอก็ล่วงหล่นใส่ไหล่กว้างจนมันเปียกชื้นทะลุลงสู่ผิวหนัง
“ทำไมถึงพึ่งมา ฮึก รู้มั้ยว่าฉันกลัวแค่ไหน ฮึก ไอ้คนบ้า ฮือ…”
เธอทั้งร้องไห้ทั้งต่อว่าที่ผมมาช้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นเพราะเธอกลัว เห็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ สดใสร่าเริงแบบเธอเป็นอย่างนี้มันก็อดที่จะสงสารและเอ็นดูในเวลาเดียวกันไม่ได้
ผมยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังของเธอที่ตอนนี้มันกำลังสั่นเทาเพื่อปลอบขวัญ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเฟย์ไม่ติดต่อผมมา หรือถ้าเป็นผมเองที่มาไม่ทันการณ์จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ และก็ไม่รู้ว่าพี่คิวจะตามผู้ชายคนนั้นทันหรือไม่
“กลัวมากเหรอ”
“ก็กลัวน่ะสิ ฮึก นายลองมาเจอแบบฉันมั้ยล่ะ ฮึก” ขนาดปากเถียงออกมาฉอด ๆ แต่เธอก็ไม่ยอมผละออกจากตัวของผมเลย
“เลิกร้องได้แล้ว แล้วก็ไปขึ้นรถ”
“ขึ้นรถ จะไปไหน” เฟย์ผละใบหน้าออกเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองด้วยความสงสัย
“ไปส่งเธอกลับไง ปล่อยให้กลับคนเดียวเดี๋ยวใครมาฉุดลงข้างทางจะลำบากฉันอีก”
“ไอ้บ้า ไอ้คนปากเสีย ผีเจาะปากนายมาพูดรึไง” ระหว่างที่ด่า ริมฝีปากของเธอก็ยังเบะออกเหมือนเด็กอีกแล้ว ยัยเด็กน้อยเอ้ย
ผมจึงยกมือขึ้นรั้งท้ายทอยของเธอให้ซบใบหน้าเข้าที่แผงอกอีกครั้งเพื่อปลอบประโลม พอเธอเริ่มสงบลงผมก็จัดการพามานั่งที่ฝั่งข้างคนขับ และผมก็ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้เธออีกหนึ่งตำแหน่งด้วยความเต็มใจ
ตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าเป็นเขา ตอนที่เห็นเขายืนอยู่ข้างรถแทนที่ผู้ชายชุดดำคนนั้น มันทั้งดีใจและอุ่นใจมากไม่คิดว่าเขาจะมาจริงๆ ฉันไม่คิดว่าเขาจะมาได้ถูกทาง และเจอกับฉันได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่สายถูกตัดไปเพราะแบตหมด
คราแรกบอกได้เลยว่าฉันกลัวและสิ้นหวัง คิดว่าเขาต้องหาฉันไม่เจอแน่ ๆ ฉันยังไม่ทันได้บอกเลยว่าอยู่ตรงไหน แต่เขาก็มาเจอจนได้ และตอนนี้ชายแปลกหน้าก็ได้หนีหายไปแล้ว เหมือนจะเห็นผู้ชายที่มากับพีทขับรถตามไปด้วย ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรต่อ ดูเหมือนพีทก็รอการติดต่อกลับจากเขาเหมือนกัน
สักพักเสียงโทรศัพท์ของพีทก็ดังขึ้นขณะที่กำลังไปส่งฉันที่คอนโด
พีท (เจอตัวมั้ยครับ)
คิว (ขอโทษครับคุณพีท มันขับเข้าทางแคบ พี่ตามเข้าไปไม่ได้ครับ)
พีท (ไม่เป็นไรครับพี่คิว)
คิว (ขอโทษอีกครั้งนะครับ ว่าแต่คุณพีทจะให้พี่ไปรับที่ไหนครับ)
พีท (เดี๋ยวผมบอกอีกที)
คิว (ครับ งั้นพี่ไปหาไอ้เก้าก่อนนะ)
พีท (ครับ)
นี่คือเสียงสนทนาของพีทกับพี่คิว ที่ฉันรู้เพราะเขาขับรถอยู่และวานให้ฉันกดรับสายและเปิดลำโพงให้ คนคนนั้นคงจะหนีไปได้สินะ ดูเหมือนว่าคนที่ชื่อพี่คิวอะไรนั่นจะไล่ตามไม่ทัน เสียดาย เลยไม่ได้รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร แต่ถ้าแค่คิดจะช่วยก็ไม่น่าทำให้ฉันกลัวขนาดนั้น