แค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง (2)

1326 คำ
ฉันผวาเฮือกกับคำพูดไม่ทุกข์ร้อนของหมอนั่น ก้าวถอยหลังหนีมาจนชิดกับผนังอีกด้านด้วยความหวาดหวั่น หัวใจเต้นแรงอย่างตื่นกลัว วินาทีนั้นฉันนึกถึงหน้าแม่ที่ล่วงลับไปแล้วขึ้นมาทันที ความสิ้นหวังทั้งหมดทั้งมวลแล่นจู่โจมจิตใจจนรู้สึกหดหู่ไปหมด ภาพคิเรย์ที่ค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามาใกล้ดูไม่ต่างอะไรจากปีศาจที่กำลังจะปลิดวิญญาณเครื่องสังเวยเลยสักนิด! มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย ฉันทั้งสั่นทั้งกลัวมองหน้าคิเรย์น้ำตาคลอ “ไม่นะ อย่าเข้ามาว้าย” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกหมอนั่นกระชากแขนแล้วเหวี่ยงทีเดียวถึงที่นอน! ร่างฉันปลิวหวือลงบนเตียงด้วยความเร็วและแรงจนรู้สึกจุกไม่หมด ยังไม่ทันได้ตั้งตัวพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีคิเรย์ก็คร่อมอยู่ด้านบนร่างของฉันแล้ว! “นี่! จะทำอะไรออกไปนะ” ฉันฟาดมือตบตีใส่หน้าและร่างกายของคิเรย์ไม่ยั้ง ไม่สนใจด้วยว่าจะโดนส่วนไหนของหมอนั่น เพียะ! ทุกอย่างหยุดชะงักหลังจากเสียงก้องกังวานแสบแก้วหูดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้อง ฉันเบิกตากว้าง หัวใจร่วงกราวไปอยู่ตาตุ่ม! มองหน้าคิเรย์แววตาหวาดหวั่น... ไม่... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตบหน้าเขาจังๆ สักหน่อย แต่ว่ามือมันดันไปโดนเอง คิเรย์ค่อยๆ หันกลับมามองหน้าฉันด้วยแววตาเดือดดาล นัยน์ตาคมเข้มสีดำทะมึนราวกับมีปีศาจน่าสยดสยองอยู่ข้างใน ไม่ว่าฉันจะมองเขาด้วยสายตารู้สึกผิดและขอโทษเพียงใดก็ไม่มีวี่แววว่าปีศาจในแววตาคมคู่นั้นจะสงบลงเลย! ฉันกำลังจะดับสูญจริงๆ แล้วใช่ไหม “เลิกดีดดิ้นได้แล้ว!” หมอนั่นกัดฟันกรอดจ้องหน้าฉันนัยน์ตาลุกวาว! เขากระชากแขนทั้งสองข้างของฉันมาจับรวบไว้ด้วยกันแล้วจับกดไว้เหนือศีรษะ ก่อนที่อีกมือจะดึงทึ้งเสื้อนักเรียนฉันออกอย่างไม่ปรานี แรงเสียดสีจากการฉีกกระชากของเนื้อผ้าทำเอาเจ็บแสบร่างกายไปหมด “คิเรย์ปล่อยฉันนะ!” “ปล่อยเหรอ!? เธอไม่ใช่เหรอที่เอาตัวเข้ามาอ่อยฉันก่อนน่ะ!!” หมอนั่นตะคอกใส่หน้าฉันได้เจ็บแสบมาก จนฉันแทบจะไม่เหลือแรงตอบโต้ออกไป “ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้สักหน่อย ฮือๆ ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า” “หึ!” คิเรย์หัวเราะเยาะคำพูดของฉันในลำคอ ยิ่งกระตุ้นให้ฉันรู้สึกเกลียดเขาเข้าไปอีก “ปล่อยสิ! ฉันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของนายนะ ปล่อย!!!” ฉันรู้สึกเจ็บข้อมือที่ถูกกดจนปวดไปถึงกระดูก ถึงจะออกแรงขัดขืนมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ทำให้หลุดจากการจับกุมของหมอนั่นได้เลย “ไหนบอกว่าจะเป็นเธอก็ได้ไง” หมอนั่นแสยะยิ้มร้ายมองหน้าฉันด้วยแววตาเร่าร้อน “ฉันบอกว่าให้เดทกับฉันแทนไม่ใช่ให้ทำแบบนี้!!” ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดกลั้น “เดท!? คิดว่าฉันจะสนใจเดทกับผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธองั้นเหรอ สำคัญตัวผิดไปแล้ว ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาฉันเองก็ต้องยอมเป็นที่รองรับความต้องการของฉันแบบนี้ อย่ากำเริบให้มันมากนักเพราะถ้าฉันหมดความอดทนขึ้นมาเธอได้กลายเป็นของเล่นของพวกลิ่วล้อฉันแน่” “...!!!” ฉันกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาสายหนึ่งไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ถูกผู้ชายตรงหน้าดูถูกเหยียดหยาม ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะมีหัวใจที่หยาบกร้านแบบนี้ เมื่อความอดทนสูญสิ้น ในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรจะเสียแบบนี้ ฉันก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว “หึ! แล้วคิดเหรอว่าบลายธ์จะสนใจผู้ชายป่าเถื่อนอย่างนาย!” ฉันแค่นยิ้ม มองหน้าคิเรย์ด้วยสายตาเกลียดชัง “นี่เธอ” คิเรย์บีบข้อมือฉันแน่นขึ้น อึก! ... ฉันหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด จนตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าข้อมือจะกลับมาใช้การได้เหมือนปกติหรือเปล่า แต่เพียงชั่วอึดใจโสตประสาททั้งหมดของฉันก็ถูกคิเรย์ช่วงชิงไป หมอนั่นนัยน์ตาวาวโรจน์ราวกับถูกจุดไฟอารมณ์ทันทีที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้น เขาขยับไม้จิ้มฟันที่คาบเอาไว้ตลอดเข้าไปในปากจนมิดด้ามก่อนจะก้มหน้าลงซุกไซ้ซอกคอฉันอย่างเกรี้ยวกราด ฉันดิ้นพล่าน! น้ำตาไหลพราก ร้องตะโกนขอร้องให้เขาหยุดทำจนเสียงแหบแห้งแต่ไม่ว่าฉันจะด่าทอหรืออ้อนวอนจนแทบขาดใจยังไงคิเรย์ก็ไม่สนใจ เขายังคงบดขยี้เรือนร่างฉันต่อไปตามอารมณ์ที่เดือดพล่านของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะมีใครต้องตายทั้งเป็นจากการกระทำของเขาเลย ฉันทั้งผิดหวังทั้งโกรธเกลียดและสาปแช่งเขาต่างๆ นานา คนแบบนี้เหรอที่คิดจะเดทกับบลายธ์! ต่อให้วันนี้ฉันถูกเขาย่ำยีจนพรุนฉันก็จะขอสาบานด้วยชีวิตว่าจะไม่ปล่อยให้เขาไปทำลายโลกที่สดใสของบลายธ์เด็ดขาด! ฉันเหลือบมองเพดานอย่างเหม่อลอย ดวงตาเกรอะกรังไปด้วยฝ้าน้ำตา วินาทีที่ถอดใจยอมแพ้และกำลังจะวูบหลับไปด้วยความอ่อนแรงประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างไม่บอกกล่าว! หัวใจฉันพองโตขึ้นมาทันที แสงสว่างแห่งความหวังทอวาบเข้ามาในจิตใจราวกับมีเชือกเส้นหนึ่งหย่อนลงมาในหลุมที่กำลังจะกลบฝังฉันให้ตายทั้งเป็น “คิเรย์!” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างประตูมองมาที่เตียงก่อนจะนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ เขามองสบสายตาฉันด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าคิเรย์นิ่ง “ซิลเวอร์!? อะไรของมึงวะ” คิเรย์หันไปมองหน้าเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ ซิลเวอร์เป็นผู้ชายที่มีดวงตาสีเงินน่าหลงใหลและเส้นผมสีดำประกายแดงแถมยังชอบทำหน้าเบื่อหน่ายโลกได้ทั้งวัน เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนพ้องของคิเรย์และเป็นอีกหนึ่งตัวอันตรายที่ได้รับการการันตีความร้ายกาจจากคนทั้งโรงเรียน นอกจากคิเรย์กับซิลเวอร์แล้วกลุ่มนี้ยังเหลือสมาชิกอีกสามคนคือเลเอส ชิโน่ และไรเนอร์! “เปล่า... ไม่มีอะไร ทำต่อเถอะ” หมอนั่นกำลังจะปิดประตูแล้วออกจากห้องไป เฮ้ ไหงงั้นล่ะ! ? เดี๋ยวก่อนสิ! ฉันไม่ยอมให้ความหวังริบหรี่ที่นายอุตส่าห์สร้างให้แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะต้องสูญเปล่าหรอกนะ! ดูเหมือนว่าคิเรย์เองก็ข้องใจกับท่าทีกวนประสาทที่เข้ามาแล้วปล่อยให้งงของซิลเวอร์เหมือนกัน หมอนั่นถึงกับเผลอคลายมือที่กำลังบีบข้อมือฉันออก ฉันฉวยโอกาสนี้สะบัดมือเขาออกแล้วรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีผลักคิเรย์ออกไปสุดแรงเกิด! ได้ผล! ถึงแม้หมอนั่นจะไม่ได้กระเด็นไปไกลอย่างที่หวังแต่มันก็มีพื้นที่มากพอจะทำให้ฉันขยับตัวและลุกหนีจากเตียงได้ ฉันกระโดดลงจากเตียงแล้วก้มหยิบกระเป๋าที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนจะวิ่งผ่านประตูที่เปิดอ้าซึ่งมีซิลเวอร์ยืนขวางอยู่ออกมาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความงุนงงของซิลเวอร์ ฉันได้ยินเสียงสั่งให้หยุดของคิเรย์ “เฮ้ หยุดนะ” นาทีนั้นไม่มีอะไรจะหยุดฉันได้ ต่อให้ข้างหน้าจะเป็นทางตันฉันก็ไม่คิดจะหันหลังกลับไปทางเดิมแน่! ฉันวิ่งกระหืดกระหอบ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยยับย่น วิ่งหลงอยู่ใน Clubhouse นั่นท่ามกลางสายตาของพนักงานและแขกที่มาใช้บริการหลายสิบนาทีกว่าจะมองเห็นแสงสว่างจากด้านนอก พระเจ้าในที่สุด ฉันก็หนีพ้นจากปีศาจที่ชื่อว่าคิเรย์สักที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม