อนุลำดับสอง

1759 คำ
ตอนที่ 6 อนุลำดับสองจูเพ่ยเพ่ย หญิงสาวร่างกายบอบบางดูซูบซีดเดินออกมาจากเรือนด้วยท่าทางเชื่องช้า สายตานางมองตรงไปที่สามีและอนุภรรยาลำดับที่หนึ่ง จูเพ่ยเพ่ย นางเป็นบุตรสาวผู้ดูแลม้าในวังหลวง เพราะบิดาได้สละชีวิตปกป้องแม่ทัพหนุ่มไว้ เขาจึงรับนางมาเป็นอนุอีกคน เลี้ยงดูนางให้อยู่ดีกินดี แต่ทว่ากลับไม่เคยใส่ใจหรือมานอนค้างกับนางสักคืน นับจากวันนั้นก็หนึ่งปีแล้วที่นางต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไร้สามีคอยดูแล ฮูหยินยังโชคดีกว่านักที่เคยมีโอกาสได้รับความรักจากสามี แต่นางหาเคยได้รับไม่ ในทุกๆวันนางมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำขนมและให้บ่าวนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ ชีวิตนางอาภัพนัก เกิดมาไม่ทันไรก็กำพร้ามารดา ทั้งบิดายังมาจากไปทิ้งนางไว้เพียงลำพัง แต่งงานมีสามีก็เหมือนไม่มี โชคชะตาที่น่าอดสูของนางทำให้นางนั้นอยากที่จะสร้างบุญเอาไว้ให้มาก หากเกิดใหม่ในภายภาคหน้าจะได้มีชีวิตที่ดีดังเช่นผู้อื่นบ้าง “คารวะท่านพี่” ครั้นเมื่อไม่อาจเลี่ยง หญิงสาวจึงจำต้องพบปะกับชายหนุ่มและอิงหยวน แม่ทัพหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “ได้ยินว่าพักนี้เจ้าไม่ค่อยสบาย หายดีแล้วหรือ” “เป็นหวัดนิดหน่อยเจ้าค่ะ” เมื่อหลายวันก่อนนางคิดค้นสูตรขนมใหม่ๆ เมื่อต้องใช้แป้งชนิดหนึ่งจึงทำให้นางนั้นแพ้จนจามไม่หยุด กว่าจะหายก็ใช้เวลาหลายวัน จูเพ่ยเพ่ยสบสายตาว่างเปล่าของผู้เป็นสามี นางยอมรับว่านางแอบชอบจ้าวเยว่ฉินมานานหลายปี และไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้แต่งเข้ามาเป็นอนุของเขาด้วยเหตุบังเอิญ แต่ทว่าแม้อยู่ใกล้ชิดถึงเพียงนี้นางกลับหาได้มีความสุขไม่ นางต้องทนทุกข์มองเขาเดินไปมาโดยมีอิงหยวนเกาะแกะไม่ห่างกาย ทั้งเขายังไม่เคยเข้ามาหานางที่เรือนเลยสักวัน ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา “ข้าจะเข้าวังหลวง หยวนเอ๋อร์เจ้ารอข้าที่นี่นะ” เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยกับอนุคนโปรดก่อนที่เขาจะเดินจากไป เมื่อร่างสามีลับสายตา สตรีผู้อ่อนหวานก็แปรเปลี่ยนเป็นนางมารทันที อิงหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน ร่างระหงเดินวนรอบกายจูเพ่ยเพ่ยพลางมองอย่างเหยียดหยาม “คิดจะยั่วยวนท่านพี่ด้วยสภาพเช่นนี้งั้นหรือหรือ” ร่างผอมบางราวกิ่งไผ่ ทรวดทรงใดก็หามีไม่ ช่างเป็นสตรีที่จืดชืดไร้เสน่ห์เสียเหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกระคายเคืองสายตาจนน่าหงุดหงิด อิงหยวนเหยียดริมฝีปาก อย่างไรเสียยามนี้คงไม่มีใครที่จะทำให้สามีพึงพอใจได้เช่นนางอีกแล้ว “ข้าเองก็เป็นภรรยาท่านพี่เช่นกัน หากข้าจะยั่วยวนสามี ก็หาใช่เรื่องที่ผิดไม่” จูเพ่ยเพ่ยกล่าวขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน อิงหยวนคิดว่าเป็นคนโปรดแล้วจะพูดจาถากถางผู้ใดก็ได้งั้นหรือ เมื่อครั้งที่ถูกฮูหยินตบจนเลือดกลบปากครานั้นคงไม่เข็ดขยาดกระมัง อนุคนโปรดเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็โกรธเสียจนใบหน้างามบิดเบี้ยว นางง้างมือขึ้นหมายจะทำร้ายหญิงสาวตรงหน้าให้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด แต่กลับต้องหยุดการกระทำนั้นเมื่อแม่สามีเดินเข้ามาเสียก่อน จ้าวฮูหยินพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดเมื่อต้องพบหน้าสองอนุภรรยาของบุตรชาย หญิงวัยกลางคนมองทั้งสองด้วยสายตาเฉยชา จูเพ่ยเพ่ยย่อกายคารวะแม่สามีอย่างนอบน้อม ต่างจากอิงหยวนที่ยืนนิ่งเฉย จ้าวฮูหยินปรายตามองสะใภ้โคมเขียว ก่อนจะเอ่ยทักจูเพ่ยเพ่ยเพียงผู้เดียว “ได้ยินว่าเจ้าป่วย ยามนี้คงหายดีแล้ว” อย่างไรเสียแม้นางจะไม่ชอบใจนักที่บุตรชายรับจูเพ่ยเพ่ยมาเป็นอนุอีกคน แต่นางก็หาได้หูหนวกตาบอดมองไม่เห็นความดีของหญิงสาว ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่จูเพ่ยเพ่ยไม่เคยสร้างปัญหาให้ผู้ใดต้องเดือดร้อน นางจึงยังพอมีเมตตาต่ออนุลำดับสองของบุตรชายอยู่บ้าง “หายดีแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านแม่ที่เมตตา” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน จ้าวฮูหยินปรายตามองอิงหยวนที่ยืนเชิดหน้าหยิ่งยโสโอหังด้วยความหมั่นไส้ สตรีชั้นต่ำผู้นี้ถูกบุตรชายนางขุดขึ้นมาจากที่โสโครก แต่ทว่าแม้จะล้างน้ำเพียงใดก็ไม่อาจล้างความสกปรกที่ติดแน่นออกไปได้ คนชั้นต่ำก็ยังเป็นคนชั้นต่ำอยู่วันยังค่ำ ไม่อาจเปลี่ยนแปลง “เอาล่ะถ้าเจ้าหายดีแล้ว เช่นนั้นวันนี้เจ้าไปช่วยข้าดูแลฮูหยินผู้เฒ่าทีเถิด” ท่านแม่สามีของนางยามนี้ตรอมใจหนักจนล้มป่วย เพราะคิดถึงอดีตหลานสะใภ้จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในทุกวันหากสถานการณ์ยังปกติดี ลู่เหลียนจะไปที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าแต่เช้าเพื่อปรนนิบัติและอ่านกลอนให้ฟังวันละหลายเล่ม คนชราสายตาเลอะเลือนไม่อาจอ่านเองได้ชัดเจนนัก เมื่อมีคนมีช่วยอ่านให้ฟังไม่รู้จักเบื่อก็โปรดปรานรักใคร่ราวลูกในไส้ พอลู่เหลียนจากไป ท่านก็ล้มป่วยลง ต้องโทษเจ้าบุตรชายโง่เง่า บิดาและมารดาหาได้เคยสั่งสอนให้โลเลเหละหละไม่ ไม่รู้ว่าไปเอานิสัยเช่นนี้มาจากผู้ใด แม่ทัพหนุ่มผู้มั่นคงและเด็ดขาดเช่นบุตรชายถึงได้แปรเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ไม่เพียงฮูหยินเฒ่าที่ตรอมใจ แม่แต่ตัวนางและสามีผู้เป็นอดีตแม่ทัพก็ยังคงอดอาวรณ์สะใภ้ผู้มีคุณธรรมไม่ได้ สะใภ้เช่นลู่เหลียน ตายอีกกี่ชาติถึงจะได้พบเจอ สตรีชนชั้นสูงเพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง ใบหน้างดงาม ฉลาดหลักแหลม รู้จักเข้าหาผู้อาวุโส จริงใจและซื่อตรง ทั้งยังมาจากตระกูลใหญ่ที่รับใช้ใกล้ชิดฮ่องเต้มานานหลายชั่วอายุคน สตรีเช่นนี้จะหาที่ใดได้อีก คิดแล้วก็ขัดใจนัก อยากจะเขกศรีษะเจ้าบุตรชายโง่ให้เลือดชั่วไหลออกมาให้หมด! ไม่รู้ว่าป่านนี้อดีตสะใภ้ใหญ่จะเป็นเช่นไรบ้าง ก่อนจากไปนางระแคะระคายเรื่องที่ลู่เหลียนกำลังตั้งครรภ์ ยามนี้จึงให้บ่าวที่จวนนั้นคอยจับตาดูและรายงาน หากอดีตสะใภ้ตั้งครรภ์จริงอย่างไรเสียก็ไม่อาจปกปิดต่อไปได้ ถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าบุตรชายโง่จะทำเช่นไร จูเพ่ยเพ่ยรู้สึกเหนื่อยใจยิ่งนัก นางกลับมาที่เรือนด้วยท่าทางอิดโรย วันนี้ทั้งวันนางต้องอยู่ปรนนิบัติฮูหยินเฒ่า เพราะไม่เคยใกล้ชิดจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเอาแต่ใจยิ่งนัก เมื่อนางทำสิ่งใดไม่ถูกใจก็บ่นเสียยาวยืด ยิ่งรู้ว่านางอ่านหนังสือไม่ออก ไม่สามารถอ่านหนังสือให้ฟังได้ก็เลยไล่นางกลับมา คิดแล้วก็น่าน้อยใจ นางทำสิ่งใดก็ไม่เคยดี ไม่เหมือนอดีตฮูหยิน ทำสิ่งใดทุกคนก็เห็นดีเห็นงาม มีแต่เสียงชื่นชม ทั้งยังเกิดมามีชาติตระกูลดีกว่านางยิ่งนัก เหตุใดสวรรค์ถึงได้ลำเอียง ไร้ความเมตตาต่อนางเช่นนี้ ความขุ่นเคืองระลอกเล็กเกิดขึ้นในใจหญิงสาว หากนางไม่ได้มาจากชนชั้นล่าง คนเหล่านี้จะรังเกียจนางหรือไม่ แล้วนางจะได้รับความเมตตาดังเช่นที่ฮูหยินได้รับหรือไม่ จูเพ่ยเพ่ยหยิบยาสมุนไพรหยอดใส่ปากหนึ่งเม็ดก่อนดื่มน้ำตาม นางมักรู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัวและพะอืดพะอมทุกครั้งยามที่มีเรื่องเครียด จึงต้องพกยาไว้ที่ตัวตลอดเวลา หญิงสาวนั่งมองตัวเองหน้ากระจกเงา นางเหม่อมองครุ่นคิด ความงามของนางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ใด หากนางจะใช้มันเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานจากจ้าวเยว่ฉิน คงหาใช่เรื่องผิดบาป อย่างไรเสียนางก็เป็นภรรยาเขาเช่นกัน หากเขาให้โอกาสนางได้ปรนนิบัติ นางจะทำทุกวิถีทางเพื่อมัดหัวใจเขาให้ได้ อย่างน้อย หากนางได้รับความโปรดปรานจากสามี นางคงใช้ชีวิตในจวนนี้ได้อย่างสุขสบายมากขึ้น นางไม่ควรนั่งนิ่งเฉยปล่อยให้สามีลุ่มหลงอิงหยวนแต่เพียงผู้เดียว นางควรจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพราะทั้งแม่สามี พ่อสามี หรือแม่แต่ท่านย่าของสามี หาได้มีผู้ใดโปรดปรานนางสักคนไม่ นางขอเพียงสามีเหลียวแล นางก็พอใจแล้ว คิดเช่นนั้นหญิงสาวก็ให้บ่าวเตรียมน้ำที่หอมที่สุดเพื่อแช่กาย ผิวขาวเนียนผ่องถูกลูบไล้ด้วยน้ำมันหอมทั่วทั้งร่าง อาภรณ์สีแดงเบาบางแสนยั่วยวนถูกนำมาสวมใส่ หญิงสาวนั่งอยู่หน้ากระจกที่เดิมก่อนแต่งแต้มใบหน้าให้งดงามที่สุด อย่างไรเสียวันนี้นางจะต้องมอบพรหมจรรย์ให้แก่สามีให้ได้ หากเขาได้สานสัมพันธ์ทางกายกับนาง บางทีทุกอย่างอาจจะแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดี คิดแล้วไฟแห่งความอยากเอาชนะก็ลุกโชน หากผ่านพ้นคืนนี้ไปได้อย่างราบรื่น อิงหยวนจะต้องอกแตกตายเป็นแน่ หญิงสาวร่างบางเดินออกจากเรือนในยามวิกาล นางอาศัยลัดเลาะไปตามมุมมืดมุ่งหน้าไปยังเรือนสามี เมื่อถึงที่นั่นก็พบว่าด้านหน้าประตูเรือนไร้ซึ่งทหารเวรยาม โชคดีนักที่พวกเขาออกไปเดินตรวจตราดูรอบๆ เปิดโอกาสให้นางได้เข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย หญิงสาวเดินเข้ามาในเรือนโอ่อ่าใหญ่โต จุดหมายของนางคือเตียงกว้างที่ปกคลุมด้วยม่านบาง ไฟสลัวๆทำให้ใจนางสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น คืนนี้แล้วสินะที่นางจะได้มอบกายแก่บุรุษที่นางรัก ครั้งแรกที่นางกล้ากระทำเรื่องเช่นนี้ จูเพ่ยเพ่ยแหวกม่านออกอย่างช้าๆ …แต่ทว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม