ช่วงเช้าหลังกลับจากภารกิจดูแลจัดแจงช้างซึ่งเป็นหน้าที่ของขุนช้างเสร็จสรรพ สาวใช้คนนึงก็เร่งเข้ามาบอกกับชายหนุ่มว่าพิมพิลาไลยเดินทางมารอได้ครู่หนึ่งแล้ว
เจ้าของดวงตาสีปีกกาจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะสั่งให้คนใช้นำของของเขาไปเก็บ ส่วนตัวเขาเองก็จะไปหาแขกผู้มาใหม่ในเรือน
หลังจากที่ดวงวิญญาณของเหมันต์เข้าร่างของชายผู้มีนามว่าช้าง ตอนนี้ระยะเวลาก็ผ่านมาราวๆ1ปีกว่าๆได้แล้ว แน่นอนว่าตลอดระยะเวลา1ปีที่ผ่านมาขุนช้างคนนี้ต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เป็นอยู่อย่างยากลำบาก ทั้งภาษา วัฒนธรรม และหน้าที่การงานเดิมที่ขุนช้างได้รับ
ดีหน่อยที่ขุนช้างมีบ่าวคนสนิทที่ชื่อแสงคอยช่วยเหลือ สั่งอะไรไปก็ได้อย่างใจ อีกทั้งยังพูดคุยหลายๆเรื่องได้อย่างเป็นกันเอง ตลอดที่ผ่านมาเขาจึงสามารถค่อยๆปรับตัวและกลายเป็นขุนช้างได้อย่างเต็มรูปแบบ
อีกทั้งตลอดระยะเวลา1ปี ขุนช้างคนนี้หมั่นดูแลตัวเองอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการลดน้ำหนักที่เขาไม่เคยให้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย 1ปีที่ผ่านมาร่างกายที่เคยอ้วนท้วมจึงค่อยๆคืนสภาพในแบบร่างกายของเขาในยุคปัจจุบัน แม้ความสูงจะสูงไม่เทียบเท่า แต่อายุแค่นี้มันก็ยังสูงได้มากขึ้นอีก
ส่วนเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่บ้างคงจะเป็นเรื่องผมบนหัวที่งอกช้าไม่ทันใจ แต่ก็ยังอุส่าห์งอกออกมาเป็นหย่อมๆพอปิดหัวล้านๆได้ แล้วสูตรยาบำรุงหัวล้านก็คงไม่พ้นสูตรยาของพวกคนแขกคนที่มีผมดกดำ
นับวันร่างกายภายนอกของเขาจึงค่อยๆเป็นไปแบบที่ตัวเขาต้องการ สร้างความพอใจให้เจ้าของร่างไม่น้อย
"แม่พิมจ๊ะ วันนี้มาหาข้าด้วยเหตุอันใดอีกหรือ"
พอร่างโปร่งเห็นหลังคนงามอยู่ไวๆ เขาจึงได้เอ่ยทักไปตามประสาคนรู้จัก ส่วนคนงามที่ได้ยินเสียงของเจ้าของเรือน เธอก็ไม่รอช้าที่จะหันมาแย้มยิ้มให้
"ตายจริงพ่อช้า ตัวพ่อบางลงจากก่อนที่เจอกันเยอะเลยหนา"
"ข้ายังไม่พอใจร่างกายตนเองสักเท่าใดนัก จึงคิดว่าจะปรับสภาพไปเรื่อยๆ ถึงจะหยุดจ่ะ"
ดวงตากลมโตของหญิงสาววัยแรกแย้มกวาดมองทั่วร่างสูงโปร่งของชายตรงหน้าอย่างพินิจ จะว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนไปจนนางจำภาพหนุ่มอ้วนแทบไม่ได้แล้ว
แต่ก่อนขุนช้างที่มีร่างกายที่อ้วนตันไปหมดมองไปทางไหนก็มีแต่ชั้นไขมัน ทว่าตอนนี้คนตรงหน้ากลับเปลี่ยนไปสิ้นเชิง ท่อนแขนบวมใหญ่เหลือแต่แขนเรียวที่มีเพียงกล้ามเนื้อดี อีกทั้งช่วงท้องที่มีพุงกลมโตก็กลับกลายเป็นหน้าท้องแบนราบและช่วงเอวบางคอด
นี่เองก็เป็นแบบพิมพ์นิยมนายแบบในชาติก่อนของเหมันต์ที่เจ้าตัวรู้สึกชอบพอ ไม่ได้ผิวสีแทนเรือนร่างแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ แต่ทรงสูงโปร่งขาวโบ๊ะเกาหลีโอปป้า ไม่ก็แนวๆหนุ่มจีนมากกว่า
ในยุคสมัยนี้จะนิยมพวกผู้ชายตัวใหญ่ๆกล้ามแน่นๆผิวแทนเข้มๆ แต่สำหรับขุนช้างคนนี้เขาขอเอาสบายลูกตาตัวเองมากกว่า ส่วนคนอื่นๆจะว่ายังไงก็ช่าง
"จริงสิพ่อช้าง ข้าไปหาซื้อน้ำปรุงดอกไม้ที่พ่อถามหามาให้แล้ว ตอนแรกข้าก็แปลกตากับชื่อดอกไม้ที่ใช้ยิ่งนัก แต่พอได้ลองดมดูข้าก็ว่ามันหอมดีหนา"
"น้ำปรุงดอกกุหลาบน่ะหรือ"
"ใช่จ่ะ"
พอสาวเจ้าทักขึ้นมาขุนช้างก็เหมือนจะคิดได้ว่าตัวเองวานแม่คนงามให้หาน้ำปรุงชนิดนี้ให้จริงๆ เดิมทีแล้วดอกกุหลาบไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมในไทยสมัยนี้เท่าไหร่นัก เพราะดอกไม้เหล่านี้บอบบางปลูกยาก
อีกทั้งที่พบเห็นได้มากๆก็จะมีแต่ที่ต่างประเทศ พวกคนไทยหลายๆคนจึงได้ไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก
"ข้าให้คนใช้นำไปไว้ที่ห้องพ่อช้างหมดแล้ว ตามงบที่พ่อให้มา ก็ซื้อไว้ได้ราวๆ20ขวดเลยจ่ะ"
"เท่านี้ก็เหลือเฟือแล้วแม่พิม แล้วนี่แม่ได้แบ่งไปบ้างแล้วหรือไม่"
"มันหอมดีก็จริงแต่ข้าไม่ค่อยชอบจ่ะ ข้าชอบดอกไม้ไทยมากกว่า แต่ดอกกุหลาบที่พ่อว่าข้าว่ามันเหมาะกับพ่อดีหนา ดูสูงส่งและสง่างามสมเป็นคนรวยแบบพ่อจ่ะ"
สาวเจ้าว่าด้วยรอยยิ้มบางประดับใบหน้า พิมพิลาไลยนับวันยิ่งโตยิ่งงาม แล้วยิ่งได้เครื่องประทินโฉมดีๆอีก คำว่างามที่สุดในเมืองสุพรรณไม่เกินจริงกับเจ้าหล่อนเลย
"เช่นนั้นหรือแม่ ยังไงหากแม่อยากได้อะไรก็บอกฉันได้หนา แม่ช่วยเหลือฉันไว้มากฉันอยากตอบแทน"
เจ้าของดวงตาสีปีกกาว่าด้วยน้ำเสียงนุ่มตามฉบับ ทางคนงามจึงได้แต่โบกมือปฏิเสธ
"พ่อช้างเองก็ช่วยเหลือข้าไว้มากเช่นกัน ข้าเสียอีกที่จักต้องขอบคุณพ่อ.. เห้อ.. อันที่จริงพ่อช้างเปลี่ยนไปเช่นนี้ข้าก็ว่ามันดีมากแล้ว เพียงแต่.."
พิมพิลาไลยเว้นช่วงไว้จังหวะนึง ก่อนจะมองสบร่างโปร่งของชายผู้มีใบหน้างดงามละเอียดละอออย่างหยกชั้นดี เธอลูบมือบางของตัวเองไปมาก่อนจะว่าต่อ
"ตอนที่พ่อช้างเลิกเกี้ยวข้า ตลอดมาข้าก็มีแต่บุรุษเข้ามาเกี้ยวพาไม่ขาดสาย จนแม่ข้าเริ่มคิดแล้ว ว่าจักส่งข้าให้เป็นเมียพ่อช้าง"
เดิมทีขุนช้างมักจะคอยกันซีนพวกคนอื่นๆที่มีจีบวันทองอยู่เสมอๆ การที่ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกชอบพอแม่คนงามแล้วนางจึงไม่มีใครคอยดักทางคนอื่นที่จะเข้ามา อีกทั้งนับวันๆพิมพิลาไลยเองก็งามขึ้นเรื่อยๆ ไม่แปลกเลยที่จะมีคนหมายตา
"แม่พิมไม่ต้องคิดมากดอก น้าศรีประจันคงว่าไปเรื่อยตามประสาคนเป็นแม่ ยังไงเสียสุดท้ายผู้ที่จักเลือกคู่ครองของตนเองก็คือแม่พิมอยู่ดี"
"เป็นเช่นนั้นก็ดีสิจ๊ะ แต่ข้าเปรียบเสมือนสมบัติของพ่อกับแม่ อย่างไรเสียข้าก็ขัดพวกท่านไม่ได้"
ค่านิยมในสมัยนี้ต่างกับแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง ลูกที่เกิดมาคือคนของพ่อแม่ และหากผู้ปกครองสั่งอะไรก็จะต้องเชื่อฟังไปซะทุกอย่าง โดยเฉพาะกับลูกผู้หญิงบางบ้าน ที่แทบจะไม่มีสิทธ์มีเสียงเป็นของตัวเองเลย
เจ้าของดวงตาคู่คมได้แต่ส่ายหัวถอนหายใจ ขุนช้างค่อยๆเอื้อมมือไปลูบหลังสหายของตนเบาๆ ก่อนจะปลอบโยนคนข้างกายอย่างที่เคยทำมาตลอด
"แม่พิมจ๊ะ ตอนแม่เกิดแม่เลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่เส้นทางชีวิตของแม่ และความตายของแม่ แม่ต้องเลือกเองหนา ชีวิตของคนหนึ่งคนไม่ใช่ของๆใคร หากแต่เป็นของตัวเอง หากว่าแม้แต่แม่ยังไม่เห็นคุณค่าชีวิตตัวเองและยอมให้ผู้อื่นชักจูง เช่นนั้นแล้ว..ใครจะเห็นคุณค่าของแม่ล่ะจ๊ะ?"
ขุนช้างว่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามฉบับ หากแต่ในน้ำเสียงยังคงแฝงความมั่นคงแหละหนักแน่นไว้
จากคนที่เหมือนจะรู้อนาคตกลายๆแน่นอนว่าเขาต้องสงสารวันทองจับใจ ตลอดมานางเป็นคนดีอย่างไม่มีข้อสงสัย ถึงจะปากร้ายไปบ้างในบางครั้ง แต่เนื้อแท้ของนางเป็นคนที่จิตใจดีมากๆจนตัวเขาไม่อยากให้นางมีจุดจบแย่ๆ
แม้ขุนช้างอย่างเขาจะไม่ได้มีจุดจบที่น่าอานาถมากนัก แต่กับวันทอง นอกจากนางจะถูกประหารแล้ว สิ่งที่หลงเหลือไว้ให้ผู้คนจดจำยังมีเพียงชื่อของวันทองสองใจเท่านั้น
ตัวเขาที่ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ได้มีวันทองที่เปรียบดั่งเพื่อนที่ดีและน้องสาวที่ดี เขาเองจะไม่มีวันทำลายชีวิตนางแบบที่ขุนช้างต้นฉบับ กลับกัน เขาจะขอดูแลนางในฐานะสหายและพี่ชายเท่าที่ทำได้ต่อไปก็พอ แล้วปล่อยให้นางได้มีชีวิตต่อกับผู้เป็นที่รักอย่างสดใส
ช่วงก่อนเวลายาม1 ขุนช้างและพิมพิลาไลยพากันมาหาซื้อของที่ตลาดเพื่อนำไปทำเป็นอาหารเย็นของวันนี้
สองร่างของสาวงามและหนุ่มหล่อเดินเคียงข้างกันไปตามทาง เหล่าชาวบ้านระแวกนั้นจึงได้ต่างพากันมองตามเป็นตาเดียว
ทั่วทั้งตลาดมีแต่เสียงผู้คนว่ากันว่าสองคนนี้เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก ผู้หนึ่งก็เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองสุพรรณ ส่วนอีกคนก็เป็นบุรุษรูปงามอย่างเทวดาลงมาจุติ
ขุนช้างนอกจากจะเลื่องชื่อด้านความหล่อเหลาแล้ว เจ้าตัวก็ยั่งเลื่องชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ดูดีขึ้นจนหลายคนแทบจำภาพจำเดิมไม่ได้ เจ้าของดวงตาสีปีกกาคู่คมจึงได้กลายเป็นหนึ่งในขวัญใจให้หลายๆคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
บ้างเลยมักจะมาขอคำแนะนำจากขุนช้างทุกครั้งที่เจ้าตัวผ่านทางมา ส่วนขุนช้างเองก็เป็นมิตรกับทุกคนเสมอ และมีจิตใจดีจนเป็นที่รักของใครหลายๆคน
"พ่อช้างจ๊ะๆ สนใจซื้อดอกไม้งามๆให้แม่พิมหรือไม่จ๊ะ"
"แล้วเหตุใดพ่อช้างต้องซื้อดอกไม้ให้ข้าด้วยเล่า"
หลังจากขุนช้างถูกแม่ค้าในตลาดขายตรง พิมพิลาไลยจึงได้ถามกลับอย่างฉงน แม่ค้าวัยกลางคนจึงได้อมยิ้มกริ่มตอบกลับ
"ก็แหม ไม่ใช่ว่าพ่อช้างเกี้ยวแม่พิมอยู่หรือจ๊ะ ข้าก็อยากให้พ่อมัดใจแม่พิมได้เสียที"
"โธ่น้า ข้ากับพ่อช้างเป็นเพียงสหายกันจ่ะ"
"ใช้แล้วจ่ะน้า ข้าเห็นแม่พิมเป็นแค่น้องสาว มิได้คิดเป็นอื่นไกลเลยนะจ๊ะ"
บ่อยครั้งเหลือเกินที่ทั้งคู่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนรักกันหรือกำลังจีบกันอยู่ อาจจะด้วยที่ว่าทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมาก เลยพาลทำให้ใครหลายๆคนอดอยากจะช่วยสนับสนุนให้ทั้งคู่ไปถึงฝั่งฝันไม่ได้
แต่หารู้ไม่ว่าใจของทั้งสองไม่เคยคิดกับกันและกันไปมากกว่าสหายที่เล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กหรือพี่ชายน้องสาวที่สนิทกันเลย แม้จะใกล้ชิดแต่ก็ไม่มีแม้เสี้ยวความรู้สึกที่คิดไปทางเชิงชู้สาว
"อันที่จริงข้าว่าหากพ่อช้างเป็นสตรี ก็อาจจะงามกว่าข้าไปอีกก็ได้"
"พูดกระไรของแม่พิมกัน ข้านี่หนาจักงามกว่าสตรี?"
คำถามนี้พิมพิลาไลยไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่เจ้าหล่อนกลับชายตามองชายหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นคำตอบแทน
ทั้งโครงหน้าเข้ารูปกับเครื่องหน้าพอเหมาะพอดี อีกทั้งยังมีผิวพรรณที่งดงามเนียนละเอียด แม้กายจักสูงโปร่งไปหน่อย หากแต่กล้ามเนื้อของคนผู้นี้ก็ตัดส่วนเนื้อที่ไม่จำเป็นแบบของบุรุษออกไปมากแล้ว หน้าท้องก็แบนราบ ช่วงเอวก็คอด ทั้งเรียวขาก็ขาวเนียนจนน่าบีบให้เป็นรอยมือ
ดวงตากลมสวยของพิมพิลาไลยจ้องมองร่างของเขาอย่างกับไฟที่พร้อมแผดเผา ร่างโปร่งจึงรีบเดินหนีแม่คนงามไปที่อื่น ก่อนที่ตัวเองจะถูกลวนลามทางสายตาไปมากกว่านี้
"อ่าวๆพ่อช้างจักไปที่ใดกัน หรือพ่อเขินข้า?"
"ข้าไม่ได้เขิน"
เสียงที่ตอบกลับยังคงราบเรียบ แต่สาวเจ้าก็ดูออกว่าน้ำเสียงแบบนี้ของขุนช้างมันไม่ปกติ นางจึงได้อมยิ้มกริ่ม
"โธ่คนงามจักหนีข้าไปใย ข้าไม่แซวเจ้าแล้วก็ได้"
"กระไรของแม่พิม คำพูดคำจาแปลกหูแปลกตายิ่งนัก"
ยิ่งขุนช้างเขินพิมพิลาไลยก็ยิ่งได้ใจ นับแต่นี้ไปคำว่าคนงาม จึงดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนของขุนช้างไปเสียแล้ว
อุดปากกรี๊ด
คนงามเลยเบ๋อ ไหนงามจีงป่าวคนจ๋วย!
อยากเขียนนิยายเรื่องนี้วันละสิบตอน แต่งสนุกมาก ในใจคือจบแล้วแต่ความเป็นจริงคือ...
มีเงินเป็นพันล้านก็ดึงพล็อตในหัวมาแปะไม่ได้ ฮื้อๆ
แต่หากรีทมีเงินสักสิบบาทยี่สิบบาท รีทโดเนทเป็นกำลังใจให้ไรท์ได้ค้าบ?✨️
ยังไงก็ให้อ่านฟรีจนจบ จะติดเหรียญก็หลังแต่งจบตั้งอาทิตย์นู้นเลย~
ระหว่างนั้นเองก็ซื้อนิยายของไรท์เป็นกำลังใจให้มนุษย์นักเขียนมีแรงเขียนงานต่อด้วยนะค้าบ
มนุษย์นักเขียนเดินงานด้วยของกินอร่อยๆและกาแฟ?☕️