Chapter 4 พรหมจรรย์แสนหวาน
เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว โดยเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วถูไถไปกับเมล็ดสวาทเนิบช้าจนน้ำเมือกใสไหลเยิ้มติดปลายนิ้วจนข้นเหนียว
“จะให้ข้าหยุดงั้นหรือ”
เขาหยักยิ้มที่ริมฝีปากพลางส่งเสียง ‘หึ’ ในลำคอแล้วขยับปลายนิ้วถูไถรัวเร็วจนหลี่ซืออี้ถึงกับบิดกายเร่าทุรนทุรายด้วยความเสียวซ่าน
“ว่าอย่างไรเล่า เจ้าจะให้ข้าหยุดแน่หรือ”
เขาถามย้ำอีกครั้ง พลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตา นางไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีด้วยความอาย เขาจึงโน้มหน้ากลับลงไปยังเนินบุปผาสีหวานแล้วละเลงปลายลิ้นเลียกินเกสรจากรูสวรรค์
“อะ....อะ...”
หลี่ซืออี้พยายามกลั้นเสียงคราง ทว่านางกลับทำได้ไม่ดีนัก ยิ่งเมื่อเขาละเลงลิ้น ทั้งเลีย ทั้งดูด ตวัดกดแช่แล้วดุนดันหมุนวนไปมา ยิ่งทำให้นางถึงกับยกสะโพกแอ่นเพื่อให้เขาดื่มกินนางได้อย่างถนัดถนี่
คนตัวเล็กหอบหายใจแรง รู้สึกราวกับว่าเขาได้ปล้นปลิดยางอายจากนางไปจนหมดสิ้น นางจึงได้กล้ายกสองขาขึ้นพาดที่ไหล่ของเขา อีกทั้งยังแอ่นกายไปมาราวกับนางแมวป่ายั่วสวาทก็ไม่ปาน แทบไม่รู้ตัวเลยว่าเหตุใดนางจึงแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมา รู้เพียงแต่ว่าความรู้สึกเสียวซ่านทำให้นางไม่อาจนอนนิ่งเฉย
“อาห์”
นางครางเสียงแผ่ว คนตัวโตยื่นมือข้างหนึ่งมาสัมผัสใบหน้าของนางก่อนจะล้วงนิ้วเข้าไปในริมฝีปาก หลี่ซืออี้ดูดนิ้วของเขาราวกับหิวกระหาย มันไม่ได้ช่วยให้ความเสียวลดทอนลงเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับเพิ่มความเสียวจนนางถึงกับหอบหายใจกระชั้น
“อะ...อื้อ อื้อ อื้อ”
นางดิ้นพล่านเมื่อเขาละเลงลิ้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น นิ้วที่แหย่เข้าไปในปากเล็กเลื่อนลงไปบดขยี้ปลายถันแล้วกอบกุมเต้าสวยเอาไว้เต็มมือ
ทั้งบีบ ทั้งบี้ ฟอนเฟ้นหนักเบาเพิ่มความเสียวจนท้ายที่สุดนางก็บิดตัวเกร็ง ดวงตาปรือต่ำ ความซ่านหฤหรรษ์จนถึงจุดสุดยอดโอบรัดรอบร่างบอบบางจนนางเกร็งกระตุกหลายครั้ง ภายในช่องแคบชื้นบีบตัวตอดรัดจนนางผวาตัวงอ
“อะ...อาห์”
นางครางเสียงกระเส่าทิ้งกายลงบนฟูกอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง เมื่อความเสียวค่อยจางหาย ความอายที่หายไปเมื่อครู่ก็หวนคืน นางพลิกตัวหมายจะลุกหนีทว่าเขากลับปราดเข้ากอดรัดจากทางด้านหลัง แล้วโดยที่นางไม่ทันคาดคิด คหบดีหยางก็ปลดเปลื้องผ้าของตนเองออกจนหมดสิ้น
เผยให้เห็นเอ็นอุ่นแท่งยาวที่กำลังชี้แข็งจนหลี่ซืออี้ถึงกับรู้สึกพรั่นพรึง!
หญิงสาวนิ่งอึ้งราวกับถูกตรึงไว้กับที่เมื่อเห็นขนาดท่อนเอ็นยาวใหญ่ของเขา หวาดกลัวว่านางจะไม่อาจรับเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาในร่างได้ ทว่ากว่านางจะรู้สึกตัวคหบดีหยางก็โอบกระหวัดร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอด แล้วบดริมฝีปากเล็กกลืนกินลมหายใจของนางไปจนหมดสิ้น
“อื้อ...”
กายสัมผัสกาย เนื้อหนังเบียดชิด ความนุ่มนิ่มของอิสตรี ความแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามของบุรุษเพศ สอดประสานรัดรึงกันได้อย่างลงตัว
สัมผัสที่ช่วยกระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจส่งผลให้หลี่ซืออี้รู้สึกราวกับมีผีเสื้อนับร้อยพันกระพือปีกบินวนอยู่ในท้องน้อย ราวกับนางกำลังล่องลอยอยู่ในปุยเมฆแสนหวานคล้ายอยู่ในห้วงแห่งความฝันก็ไม่ปาน
เขาจูบ เขากอด เขาจับนางกดลงบนเตียงอุ่น แล้วโลมไล้นางทั้งร่างด้วยริมฝีปากและปลายลิ้น จนไฟสวาทลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ช่องแคบหลั่งไหลน้ำใสออกมาไม่ขาดสาย
ผู้นำตระกูลหยางสอดปลายนิ้วผ่านกลีบหวานชื้นแฉะ ค่อยๆ บดขยี้เล้าโลมนางจนมั่นใจว่านางพร้อม เขาจึงจับสองขาเรียวยาวยกขึ้นสูง แล้วดุนดันท่อนเอ็นอุ่นเข้าไปที่ปากทางสวรรค์
ปลายหัวหยักถูไถปากทางและเมล็ดเสียวจนหญิงสาวระทวยอ่อน นางเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง หายใจแรงจนงอตัวหลายต่อหลายครั้งด้วยความซ่านสยิว
“อะ...อื้อ”
อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาเมื่อปลายหัวหยักถูไถไปเรื่อยๆ จนรับรู้ได้ว่าเมล็ดสวรรค์ของนางอาบไล้ไปด้วยน้ำหวานใสจนเยิ้มแฉะไปหมด
คหบดีมองใบหน้าพริ้มของลูกหนี้สาวอย่างสังเกต แล้วโดยที่นางยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็กดปลายหัวหยักให้แทรกผ่านเข้าไปในปากทางรัก ดันเข้าไปครึ่งลำจนทำให้เยื่อพรหมจารีของนางฉีกขาดจนหยดเลือดสีแดงชาดไหลเปื้อนฟูกนอน
“อ๊ะ!”
หลี่ซืออี้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก นางรู้สึกคับแน่นเมื่อเขาก้าวล่วงเข้ามาจนแทบหายใจไม่ออก ความเจ็บ ความกลัว ทำให้หยาดน้ำไหลออกจากดวงตาคู่สวยโดยที่นางไม่อาจควบคุม
แม้จะอยากผลักไส อยากด่าทอ อยากทุบถอง แต่นางไม่อาจทำ เพราะสถานะของนางคือลูกหนี้ที่ต้องนำเรือนกายมาใช้หนี้ ไม่ว่าจะต้องเจ็บจนเจียนตาย หรือจะต้องฉีกขาดจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อนางก็จะทน
ทนเพื่อครอบครัว!
นางกัดฟันกรอด มือเล็บจิกเกร็งลงบนฟูกนอน
ทว่าคนตัวโตกลับไม่ได้ล่วงล้ำหาความสุขบนเรือนร่างของนางอย่างที่คิด เขาหยุดนิ่งไม่ได้เคลื่อนกายเข้าไปแต่ค้างแช่อยู่เช่นนั้น แล้วทำในสิ่งที่ทำให้หลี่ซืออี้ถึงกับหัวใจกระตุกแรง
เขาค่อยๆ จูบซับหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนางแผ่วเบา ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มจนคนตัวเล็กถึงกับตื้อตันไปหมด
“ข้าขอโทษ เจ้าเจ็บมากหรือเปล่า”
นางไม่ได้ตอบแต่น้ำตากลับหยาดหยดออกมาเป็นสาย คนตัวโตค่อยๆ จูบซับทีละหยดอย่างเชื่องช้าก่อนจะแนบเรียวปากหนาลงบนริมฝีปากสีชาด
ขบเบาๆ ที่ริมฝีปากบน ก่อนจะสลับไปขบริมฝีปากล่าง ดูดดึงแล้วจูบคลึงก่อนจะค่อยๆ แทรกลิ้นร้อนเข้าไป แล้วเปลี่ยนจากจูบอ้อยอิ่งเป็นจูบหวานรัญจวนใจ
ลมหายใจของหลี่ซืออี้กลับมาเต้นระรัวอีกครั้ง เมื่อถูกปรนเปรอด้วยจูบหวามเร่าร้อนราวกับจะกระชากหัวใจให้หลุดลอย มือหนาโลมไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งก่อนจะวกกลับมาบีบเฟ้นเคล้นสองเต้าขาวน่าหลงใหล
ปลายนิ้วโป้งบดขยี้ปลายถันสีชมพูระเรื่อส่งผลให้นางเผลอส่งเสียงแผ่วอย่างพึงใจออกมา