Chapter 5 พรหมจรรย์แสนหวาน [2]

1240 คำ
Chapter 5 พรหมจรรย์แสนหวาน [2] “อืม” นางเบียดกายเข้าหาสัมผัสจากเขา และนั่นทำให้แก่นกายใหญ่ยาวค่อยๆ ดันเข้าไปทีละน้อย...ทีละน้อย กว่านางจะรู้ตัวเขาก็เติมเต็มเข้าไปในกายของนางจนหมดสิ้น “ยังเจ็บอยู่หรือไม่” เขาถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยที่ไรผมของนางอย่างเบามือ หลี่ซืออี้รู้สึกราวกับว่ามันคือความฝัน เหตุใดเจ้าหนี้หน้าเลือดจึงได้อ่อนโยนกับนางนัก เหตุใดเขาจึงเล้าโลมนางด้วยริมฝีปากส่งนางถึงสรวงสวรรค์อย่างไม่รังเกียจ แทนที่เขาจะรีบกอบโกยเกมสวาทจากเรือนกายของนางโดยไม่ต้องสนใจด้วยซ้ำว่านางจะรู้สึกเช่นไร เขา...กำลังทำให้นางหวั่นไหว ดวงตาของนางไหวระริกเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่สับสนจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก ทว่าเพียงครู่เดียวดวงตาคู่สวยก็พริ้มลงต่ำเมื่อเขาค่อยๆ ขยับเอวสอบช้าๆ “อื้อ...อะ...อะ...อาห์” ความเสียวแล่นปราดไปทั่วทั้งร่างเมื่อเขาเริ่มขยับเอวสอบ ความเจ็บปวดราวกับร่างจะฉีกขาดมลายหายไปสิ้น ราวกับไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นเกิดขึ้น นางอ้าแขนโอบกอดเขาเอาไว้แน่น ฟังเสียงหัวใจของคนตัวโตและสูดกลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นชาอ่อนๆ บนเรือนร่างของเขาด้วยความรู้สึกหวิวไหวจนแทบจะเรียกได้ว่าคลั่งไคล้ “อะ...อื้อ” “ไม่ต้องฝืนซืออี้ ปล่อยตัวตามสบายเถอะ ถ้าเจ้าอยากร้องก็จงส่งเสียงออกมา ข้าอยากเห็นเจ้ามีความสุข" ซืออี้งั้นหรือ เหตุใดเขาจึงเรียกชื่อนางคล้ายสนิทสนมนัก อีกทั้งเสียงทุ้มยามเอ่ยเรียกชื่อของนางส่งผลให้นางยิ่งรู้สึกเสียวซ่านจนแทบจะกระตุกเกร็งไปทั้งสรรพางค์กาย “ทะ...ท่านเรียกชื่อข้า” “ใช่...ซืออี้” ตอบพลางขยับเอวสอบเข้า ออก เข้า ออก ปลายแท่งทวนหัวหยักครูดไปตามผนังแคบชื้นจนเกิดเป็นความอุ่นร้อน “อะ...อาห์” นางรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด และนั่นทำให้นางยิ่งรู้สึกซ่านสยิวทุกจังหวะที่เขาถาโถมเข้ามาอย่างอ่อนนุ่ม แต่แล้วจังหวะที่เคยเนิบช้ากลับค่อยๆ เร็วขึ้น แรงขึ้น จนนางถึงกับหอบหายใจกระชั้น มันเสียว สะ...เสียวมากๆ เลย นางกัดริมฝีปากล่าง แอ่นยกสะโพกให้เขากระเด้าแทงเข้ามาไม่ยั้ง “อาห์ ซะ....ซี๊ด” เสียงครางกระเส่าทำให้คนตัวโตแทบคลั่ง เขากัดฟันกรอดเพื่อไม่ให้เผลอหลั่งออกไปก่อนเวลาอันควร แล้วเร่งจังหวะกระแทกท่อนทวนเข้าไปในรูชื้นแฉะอย่างไม่ออมแรง ตับ! ตับ! ตับ! “อาห์ อาห์ อะ...อาห์” คหบดีหยางก้มลงดูดเลียปลายถันในขณะที่เอวสอบยังคงอัดกระแทกจนร่างบางถึงกับสั่นคลอน จากนั้นจึงแทงแรงๆ เข้าไปจนปลายหัวหยักกระทุ้งปลายอุโมงค์ กดแช่แล้วยกท่อนเอ็นงัดขึ้น งัดลงแล้วดึงออกมาทั้งด้าม ก่อนจะสอดใส่เข้าไปใหม่เพื่อให้ปลายหัวหยักเสียดสีเมล็ดเสียวและปากทางรักให้มากที่สุด “อูวส์” นางยกมือขึ้นกอดก่ายแล้วจิกปลายเล็บลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่มราวกับว่ามันจะช่วยลดทอนความเสียวซ่านได้เสียกระนั้น ตับ! ตับ! ตับ! “อาห์ ขะ...ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว” นางส่ายหน้า หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมไหว บิดตัวเร่า ใบหน้าเหยเก ในขณะที่คนตัวโตโหมกระแทกกระเด้าท่อนเอ็นเข้าไปในรูเสียวของนางด้วยจังหวะกระชั้นจนหยาดเหงื่อเม็ดโตหยดลงจากปลายจมูก ตกลงบนหน้าผากของหลี่ซืออี้หยดแล้วหยดเล่า ก่อนที่สองร่างจะกอดก่ายกันแนบแน่น ช่องแคบชื้นตอดรัดดูดกลืนสายน้ำแห่งชาติพันธุ์สีขาวขุ่นเข้าไปในกายจนหมดสิ้นทุกหยาดหยด คหบดีหยางบรรจงจูบลงบนหน้าผาก นวลแก้ม ก่อนจะจุมพิตริมฝีปากอิ่มเนิ่นนาน จากนั้นจึงทิ้งตัวลงนอนข้างเรือนร่างอรชร มือข้างหนึ่งก่ายทับนางเอาไว้แล้วหลับตาลงเสียดื้อๆ เขาลืมไปแล้วหรือไร... ว่าเขาเป็นเจ้าหนี้ ส่วนนางนั้นเป็นลูกหนี้ ที่นำร่างกายมาไถ่ถอนหนี้สินเพื่อให้เขายอมปล่อยครอบครัวของนางคืนมา แต่แล้วอะไรๆ มันถึงดูแปลกประหลาดทั้งหมดทั้งสิ้น แปลก... หลี่ซืออี้นิ่วหน้าแต่ไม่ได้คัดค้านออกไป ทั้งที่นางควรที่จะคัดค้านเป็นที่สุด แต่นางกลับปล่อยให้เขากอดแล้วหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน หลี่ซืออี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความง่วงงุน ‘เกิดอะไรขึ้น’ คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นในห้วงสติสัมปชัญญะ ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ฉายชัดว่าที่แห่งนี้หาใช่ห้องนอนรูหนูที่บ้านของนาง เตียงกว้างและฟูกนุ่ม ผ้าห่มอุ่นมีกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ นี่อีกเล่า นะ...นี่แสดงว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน! นางผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เมื่อสำเหนียกได้ว่านางได้พลีกายให้คหบดีหยางเชยชมเพื่อเป็นการชดใช้หนี้ แล้วที่สำคัญเหนือกว่านั้นก็คือ มันเป็นการเสพสมที่นางมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน พลันใบหน้างามก็แดงระเรื่อไปด้วยเลือดฝาด หันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ยังสัมผัสได้ถึงไออุ่นของคนตัวโตที่คงเพิ่งลุกไปก่อนหน้านี้ไม่นานนัก วูบหนึ่งนางรู้สึกเสียใจและผิดหวัง บ้าไปแล้ว....นี้นางกำลังหวังสิ่งใดอยู่ หวังว่าเขาจะกอดนางไว้จนเช้างั้นหรือ ช่างน่าสมเพชสิ้นดี เขาก็แค่ตักตวงความสาวและเยื่อพรหมจรรย์ไปจากนาง ก็เท่านั้นเอง เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ต่างไม่มีพันธะผูกพันใดๆ ต่อกันอีก “ตื่นแล้วหรือเจ้าคะคุณหนูหลี่ซืออี้” สาวใช้สี่นางก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำ “ข้าต้องการพบคหบดีหยาง ต้องการพบครอบครัวของข้าแล้วออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด หวังว่าเจ้านายของพวกเจ้าจะเป็นคนยึดถือคำสัตย์ที่ตกลงกันไว้” นางเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ ขอบตาร้อนผ่าว พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นพร่า นาทีนี้นางรู้แจ้งแก่ใจแล้วว่านางไม่ใช่หญิงแกร่งแต่เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ซุกซ่อนความอ่อนแอเอาไว้ภายในใจ แล้วเวลานี้ก็ดูเหมือนว่านางจะไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไปแล้ว “แน่นอนเจ้าค่ะ นายท่านเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้คุณหนูหลี่ซืออี้แล้ว” สาวใช้คนหนึ่งตอบด้วยท่าทางนบนอบ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังก้าวขึ้นมาด้านหน้าพร้อมกับอาภรณ์สีฟ้าอ่อนงดงาม “ถ้าอย่างนั้นก็รีบพาข้าไปพบพวกเขาสิ!” นางผุดลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจ ทว่าเรือนร่างเปลือยเปล่าใต้ผืนผ้าห่มทำให้นางชะงักนิ่งจนใบหน้าแดงระเรื่อ ยิ่งเห็นรอยจูบที่คหบดีหยางฝากเอาไว้ตามเรือนร่าง เหตุการณ์เมื่อคืนก็ยิ่งฉายชัดในห้วงความทรงจำจนทำให้หญิงสาวถึงกับยืนอึ้งไปหลายอึดใจ รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกายด้วยอายสายตาของเหล่าสาวใช้ที่มองมาด้วยความสนใจใคร่รู้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม