เดิมพันด้วยผ้าถุง

1742 คำ
ตอนที่ 3 เดิมพันด้วยผ้าถุง ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้านับสิบคู่ของชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์กำลังวิ่งกันมาอย่างพร้อมเพรียงและดูตั้งอกตั้งใจ การก้าวเท้าที่สม่ำเสมอมองดูแล้วช่างเป็นภาพชวนกร้าวใจสาวๆ ยิ่งนัก คนพวกนี้คือนักมวยค่ายไกรสรสิงห์ ค่ายมวยที่มาเปิดใหม่ "ขยันซ้อมกันตั้งแต่เช้าจริงๆ" แว่วเสียงป้าข้างบ้านที่มองภาพเดียวกับเมรัยเอ่ยขึ้น สาวน้อยกับวันหยุดนั่งจิบกาแฟอย่างอารมณ์ดี ปลายนิ้วหยิบยกถ้วยแก้วเครื่องดื่มโปรดขึ้นจิบสายตากลมโตเกินใบหน้า ยังคงมองไปยังหนุ่มๆ ที่กำลังวิ่งกันชนิดไม่รู้เหนื่อย เหงื่อไหลอาบกายท่อนบนเปลือยเปล่าทำเอาใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ หญิงสาวไม่คิดปฏิเสธหรอกว่าตัวเองมักชอบมองผู้ชายแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายในซีรีส์หรือผู้ชายเป็นๆ เพียงแค่ได้มองก็ทำเอาเธอเลือดลมสูบฉีดได้อย่างประหลาด แต่ถ้าถามถึงประสบการณ์ละก็ เป็นศูนย์ค่ะ และใช่ ทั้งประสบการณ์เรื่องความรัก หรือกระทั่งเรื่องบนเตียงสาวน้อยก็ไม่เคยได้สัมผัสมันจริงๆ สักครั้ง ทุกครั้งที่เธอปิ๊งใคร สาวเจ้าจะรุกไล่และวิ่งเข้าชนจนผู้ชายแต่ละคนขยาดกลัว ด้วยความเป็นสาวผู้ชื่นชอบเรื่องโรแมนติกเป็นชีวิตจิตใจ เมรัยจึงจินตนาการถึงพระเอกในฝันบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้แอ้มใครสักคน อาจเพราะความซื่อของเธอและความไม่วางตัว ทำเอาผู้ชายหวาดหวั่น สาวน้อยหน้าตาดีจำต้องอดมีแฟนไปในคราเดียวกัน ขณะที่ตาคู่สวยกำลังจ้องมองเครื่องมือสื่อสารสี่เหลี่ยมขนาดหลายนิ้วซึ่งกำลังฉายซีรีส์เกาหลีเรื่องโปรดของเธอจนมักเก็บไปมโนเสมอนั้น เสียงรถยนต์คันหนึ่งที่มันหรูเกินกว่าจะมาขับในหมู่บ้านย่านค่อนข้างเรียกว่าชนบทแห่งนี้ ก็พลันดึงเอาสายตาคู่งามถึงกับต้องชำเลืองมอง ทันทีที่เจ้าของรถลดกระจกลงเพื่อตะโกนถามไถ่เด็กในค่ายมวย เมรัยเห็นใบหน้าคมที่โผล่พ้นกระจกก็ดึงเอาสติแม่สาวน้อยช่างฝันให้ล่องลอยราวกับได้ขึ้นสรวงสวรรค์ นักรบ มาพร้อมกับแว่นตาสีดำแบรนด์หรู มือที่จับพวงมาลัยข้างเดียว กับท่าทางที่เอ่ยคุยกับลูกน้องช่างดูเท่นักในสายตาของสาวน้อย ชนิดว่าทำเอาต้องจ้องมองตาไม่กะพริบ ปากก็พร่ำเพ้อบอกว่าเจอเนื้อคู่แล้วซ้ำๆ แบบนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มงคล พ่อของเธอเดินตรงมาพอดี เมรัยคนน้องจึงรีบเอ่ยปากถามพลางชี้ไปยังรถคันหรูดึงดูดสายตานั่น "พะ พ่อ พ่อจ๋า พ่อรู้จักพี่คนนั้นมั้ย" เมรัยพูดตะกุกตะกักเพราะความตื่นเต้น "อ้อ นายหัวนักรบไง เป็นเจ้าของค่ายมวยที่มาเปิดใหม่" ชายสูงอายุบอกเสียงเรียบ แต่ท่าทางตื่นเต้นของเด็กสาวก็ทำเอาเขากังวลใจอยู่ไม่น้อยจึงเอ่ยออกไปอีกครั้ง "เขาคือ นักรบ เจ้าของค่ายมวยไกรสรสีห์ เป็นราชาเงินกู้ แล้วเขาก็โหดมาก เอ็งอย่าไปกวนโมโหเขาล่ะ" คนพ่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ชายสูงวัยรู้นิสัยลูกสาวคนเล็กดี ว่าเวลาเธอชอบใครก็มักจะวิ่งเข้าหาแบบสุดโต่ง และที่เอ่ยกังวลนี่ไม่ได้ห่วงลูกสาวเท่าไหร่นักหรอก เพียงแต่ห่วงทางนายหัวมากกว่า ว่ายัยลูกคนเล็กของเขาจะไปสร้างความรำคาญใจอะไรให้เขามั้ย และก็คงไม่ผิดจากคนเป็นพ่อกังวลนัก เพราะภายในใจของเมรัยตอนนี้คิดแต่อย่างเดียวว่า จะเข้าหานักรบยังไง ด้านนายหัวค่ายมวยผู้กำลังขับรถอยู่ พลันจู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในขณะที่คนน้องกำลังวาดแผนการในใจ คนพี่ก็เริ่มแผนการไปก่อนแล้วโดยตกเย็นในวันนั้นสาวน้อยท่าทางทะมัดทะแมงแต่เมาแอ๋ ร้องสั่งลูกน้องผู้ชายให้ยกถังเหล้าขึ้นรถเสียงดังเฉกเช่นทุกวัน "พี่โป่ง พี่ชล พี่อ้วน มาช่วยหนู อึก...อื้ม มาช่วยหนูยกเหล้าขึ้นรถหน่อย จะขับไปส่งค่ายมวย" เมรัยหน้าแดงก่ำพูดไปสะอึกไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำเอาชายหนุ่มในฐานะลูกน้องพากันส่ายหัวให้อย่างระอา "เมาขนาดนี้จะขับรถไหวมั้ยไอ้เมรีขี้เมา" หนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางยกถึงเหล้าขึ้นรถตามคำสั่ง "นั่นสิ เมาทุกวันเลย เอ็งไม่เบื่อบ้างหรือไงวะ" ชายหนุ่มอีกคนก็ยกถังเหล้ามาพร้อมกับส่ายหัวสมทบให้กับคนก่อนหน้า "หน้าตาก็ดี เมาปลิ้นทุกวันขนาดนี้ระวังจะหาผัวไม่ได้" และอย่างที่คิดลูกน้องคนที่สามก็ตามมาค่อนขอดทั้งที่มือก็ยกเหล้าขึ้นหลังรถกระบะตามคำสั่ง เล่นเอาคิ้วสวยของคนขี้เมาขมวดเข้าหากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถูกรุมค่อนขอดอย่างพร้อมเพรียงจากชายสถานะลูกน้องผู้สนิทสนม "วันหยุดนี้พวกพี่ไปคลินิกกันหน่อยมั้ย ไปผ่าหมาออกจากปากอ่ะ" คนงามตอกกลับเบาๆ พลางพาตัวเองขึ้นรถไปอย่างเชื่องช้า กระนั้นคนโตสุดก็ยังเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี "เออๆ พวกข้าก็แค่หวังดีเท่านั้นแหละ ระวังหาผัวไม่ได้นะเมรี เพลาๆ ลงบ้าง" "จ้า ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะตอนนี้ฉันกำลังไปตามหาลูกเขยให้พ่ออยู่ คอยดูนะ ฉันจะจับนายหัวค่ายมวยทำผัวให้ดู" พูดแล้วบึ่งรถออกไปทิ้งความงุนงงให้กับคนข้างหลังอย่างไร้การอธิบายต่อ และเป็นอีกครั้งที่นักรบแม้จะนั่งทำงานอยู่หน้าคอม แต่ก็ต้องเสียวสันหลังวูบขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะดันกลายเป็นเป้าหมายของสองพี่น้องที่รับมือยากสุดๆ นั่นโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่มาถึงค่ายมวย คนงามกวาดสายตาเห็นคนงานหลายคนกำลังฉลองกันอย่างสนุกสนาน 'อ้อพักผ่อนหลังจากสร้างอาคารเสร็จสินะ' คนงามคิดในใจพลันสายตาที่กวาดมองไปเรื่อยๆ ก็ไปปะทะเข้ากับดวงตาคมของผู้ชายที่เธอหมายจะจับทำผัว นักรบตกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอ เพราะไม่คิดว่าลูกสาวโรงกลั่นจะขับรถมาส่งเหล้าเองแบบนี้ "เอ้า ลูกสาวคุณลุงมงคล มาเองเลยรึ สวัสดีครับ" ชายหนุ่มผละจากลูกน้องเดินเข้ามาหาเธอแค่เพียงทำตามมารยาท แต่คนที่ถูกเอาใจใส่นี่สิ คิดไกลไปนอกจักรวาลแล้วว่าเขาสนใจเธอ "กรี๊ด นายหัว หนูมาส่งเหล้าค่ะ นอกจากเหล้าหนูก็ยังมีหัวใจดวงน้อยๆ มาส่ง ไม่ทราบว่า..." จากที่เคยแทนตัวเองว่าฉันก็อยากจะทำให้มันดูน่ารักน่าเอ็นดูด้วยการแทนตัวเองว่าหนู สาวเจ้าคิดแบบนั้น ทำเอานักรบถึงกับอึกอักทำตัวไม่ถูก "อะ เอ่อ คือว่าเชิญข้างในเถอะครับ" นักรบรีบขัดขึ้นมาก่อนที่คนงามจะพูดจบ ทำเอาเธอต้องมุ่ยหน้าลง แต่มีหรือคนอย่างเมรีจะยอมแพ้ "นายหัวคะ ค่ายมวยสวยมากดูอินเตอร์สุดๆ แถมคนงานมีความสุขกันใหญ่ เพราะเจ้าของค่ายเลี้ยงแต่ของดีๆ แน่ๆ" เมรีเลือกเปิดประเด็นคุยก่อน และได้ผลสิ่งที่เธอพูดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจนั่นทำเอานักรบยิ้มกว้างและอดภูมิใจไม่ได้ที่คนนอกมองว่าเขาดูแลลูกน้องดีแถมยังค่ายมวยที่ดูทันสมัยนี่อีก "ครับ ขอบคุณที่ชม ว่าแต่ยกเหล้าลงหมดแล้วหรือยังเอ่ย" นักรบเองก็ไม่สะดวกใจจะใกล้ผู้หญิงมากนัก จึงได้เอ่ยไล่เธอแบบอ้อมๆ คนฉลาดอย่างเมรีรู้ดี แต่มีหรือจะยอม ก็ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะจับเขาทำผัวให้ได้ก็ต้องหน้าด้านให้ถึงที่สุด "เอ่อ นายหัวคะ นายหัวดื่มเหล้ามั้ย" "หื้ม ดื่มบางเป็นบางครั้งครับ อย่างเช่นวันนี้ วันฉลอง" "งั้นหรือคะ" แม้คนงามจะแค่พยักหน้ารับน้อยๆ แต่ในใจคือมีแผนการชั่วร้ายในระดับที่สูงกว่าปริมาณ PM2.5 เสียอีก เธอเลือกที่จะโพล่งออกไปแบบไร้เดียงสาเพื่อกลบเกลื่อนความคิดร้ายๆ "นายหัวมาดื่มกับหนูมั้ย มาแข่งกัน" ทันทีที่ได้ยินคำว่าแข่ง เลือดในตัวของชายหนุ่มก็สูบฉีดทันที แต่มันก็ไม่ได้มากกว่าการที่ช่วงนี้เขากลัวผู้หญิงและต้องอยู่ให้ห่าง นั่นทำเอานักรบเลือกที่จะบอกปัดเธอ "ไม่ดีกว่าครับ คือ..." "กลัวแพ้สินะ" "ฮะ?" "กะอีแค่ดื่มกับผู้หญิงแต่ต้องปฏิเสธแบบนี้ หนูว่าคออ่อนแหงๆ เห็นหน้าโหดๆ แบบนี้ที่แท้ก็..." สันกรามของคนตัวสูงกว่ามากขบเข้าหากันแน่น และใช่วิถีนักเลงแบบเขามันฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว จะเหตุผลอะไรก็ช่างแต่มาโดนยัยตัวเล็กที่มีดีแค่นมโตมาสบประมาทแบบนี้ ใครจะยอมกันล่ะ "เหอะ แพ้แล้วอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งนะยัยเด็กขี้เมา" "หึ นายหัวนั่นแหละ อย่ามาร้องโยเยทีหลัง" "เหอะ ถ้าผมแพ้ผมจะแก้ผ้าโชว์เลยเอ้า" ปากที่โพล่งพูดออกไปเพราะความไม่ยอมแพ้แต่มันดันกลายเป็นเข้าทางหญิงสาวอย่างจัง เมรียกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยิน พลันแผนการชั่วก็ผุดขึ้นในสมองราวกับดอกเห็ด "ก็ดีนะ งั้นถ้าหนูแพ้ หนูจะถอดผ้าถุงนี่เลย" ดวงตาคมดุจเหยี่ยวของนายหัวค่ายมวยเบิกโพลง เขาลืมไปว่าเมรีเป็นผู้หญิงห้าวที่ทำอะไรสุดโต่งแต่ไม่คิดว่าเธอจะกล้าเอาผ้าถุงเป็นเดิมพัน แต่เขาก็ถอยไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าไม่อยากจะเห็นผ้าถุงเธอหลุดออกมาแต่ก็ต้องเดินหน้ากับเกมเดิมพันนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ "แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" พวกเขาพูดขึ้นมาพร้อมกันและสายตาของทั้งคู่จ้องกันอย่างไม่ลดละราวกับกำลังจะฟาดฟันกันลงให้ได้ "...."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม