ตอนที่ 4
ฝนตกใส่หน้า
สองหนุ่มสาวผลัดกันดื่มสุรารสปร่าลงคอชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมกันเลยทีเดียว จนกระทั่งรอบตัวเต็มไปด้วยขวดแก้วสีน้ำตาลแดงจำนวนหนึ่ง ทำเอานักรบออกจะทึ่งขึ้นมาอยู่ไม่น้อยกับหญิงสาวตรงหน้า ที่เรียกได้ว่าคอทองแดงครอบแพททรินั่มก็ว่าได้
"อะไรคะ มองแบบนี้กำลังคิดใช่มั้ยล่ะ ว่าฉันน่ะเก่งจริง ไม่ใช่แค่กล่าวอ้างเท่านั้น" ลูกสาวแบรนด์เหล้าขาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับกระดกของเหลวในมือลงคออีกครั้ง
"ก็สมชื่อดีนี่ เมรีขี้เมา" นักรบที่เริ่มพอกรึ่มๆ หากแต่ยังพอมีสติอยู่เอ่ยออกไปตามความคิด ทำเอาหญิงสาวตรงหน้าที่แทนจะโกรธกับหัวเราะร่าอย่างชอบอกชอบใจ
"คุณเองก็ดื่มเก่งใช่ย่อยนะคะ ฮึ แต่โทษทีที่ฉันมันของแข็งกว่า" นักรบส่ายหน้าไปมาพลางสาดน้ำรสปร่าลงคออีกแก้ว
"นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว เอาไงต่อผมว่าคุณควรกลับได้แล้วนะ"
"เออจริง ดูท่างานนี้จะไม่มีทางรู้แพ้รู้ชนะแน่ งั้นเอาแบบนี้!" นักรบออกอาการตกใจออกมาไม่น้อยที่จู่ๆ สาวเจ้าก็ลุกขึ้นจังก้าแม้ว่าจะโอนเอนจะล้มแหล่มิล้มแหล่ก็ตาม
"ในเมื่อหาผู้ชนะไม่ได้ งั้นก็ถอดมันพร้อมกันไปเลย"
เธอว่าพร้อมกับเร็วเท่าความคิด เสื้อตัวเล็กของเธอถูกถอดออกอย่างรวดเร็วคงเหลือไว้เพียงบราเซียสีดำและผ้าถุงขมวดปมเท่านั้น
นักรบผู้เป็นชายแท้ทั้งตัวและหัวใจรอบกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัวเมื่อเห็นเต้าอกขาวอวบกำลังเด่นหราตรงชนิดที่ว่าใหญ่จนบราแทบห่อหุ้มไม่มิดก็ว่าได้
'เฮ้ย! สตินักรบ สติ! อย่าไปมอง อย่าไปอยาก แกห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง จำไว้ให้ขึ้นใจ' เขาร้องเตือนตัวเองอย่างเรียกสติ ก่อนที่นักรบน้อยด้านล่างจะตื่นตัวไปมากกว่านี้
"นี่เธอ เป็นผู้หญิงยิงเรือเสียเปล่า ทำไมถึงทำตัวหน้าไม่อายมาแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ล่ะครับ"
"เอ้า! คุณหนวดทำไมพูดแบบนั้นละคะ ก็เราตกลงกันไว้แล้วนี่ ต้องทำตามสัญญาสิ"
เมรีเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะอึกจนกลิ่นเหล้าคละคลุ้งออกมา พลางเริ่มสังเกตเห็นว่าคนตัวโตเอาแต่หันหน้าหนีเธอราวกับนึกกลัวเสียอย่างนั้น ทำเอาสาวน้อยสติไม่ถึงร้อยเพราะสุรารสเข้ม บวกกับประสงค์อยากได้เขาเป็นผัวและนึกหมั่นไส้เล็กๆ นึกอยากแกล้งขึ้นไปอีก
"ใส่เสื้อผ้าเถอะคุณ เดี๋ยวผมไปส่ง"
นายหัวผู้เข้มดุหันหลังเอ่ยบอกกับสาวเจ้า เพราะตอนนี้แม้เขาจะยังไม่ได้เมาจนควบคุมสติไม่ได้ ทว่าเพื่อป้องกันอะไรหลายอย่างจากเพศต้องข้ามนั่นเอง และเหมือนความเบาใจจะเกิดขึ้นกับไม่ชายหนุ่มไม่น้อย เพราะสาวเจ้าไม่ได้ส่งเสียงใดตอบโต้กลับมา คนตัวโตจึงคิดเอาว่า สาวเจ้าคงจะยอมเชื่อฟังกว่าที่คิดสินะ
"เสร็จแล้วค่ะ หันมาเลย"
เสียงอ้อแอ้ของฝ่ายหญิงดังขึ้น ความเข้าใจของนักรบคือเธอสวมใส่เสื้อผ้ากลับไปดังเก่าแล้ว
ทว่าพอร่างสูงหมุนกายกลับมาเท่านั้นแหละ ดวงตาดุดันก็พลันเบิกกว้างออกมาอย่างตกใจ เฉกเช่นเดียวกับเจ้าท่อนล่างที่มันพองกระดกตัวเต็มที่ กับภาพตรงหน้า
ภาพของสาวน้อยที่หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา กำลังยืนอวดกายขาวโพลนของตัวเองอย่างไม่นึกอาย ทรวงอกอวบใหญ่ดูท่าจะล้นฝ่ามือรับกับยอดถันระเรื่อน่าสัมผัส ไหนจะส่วนล่างที่แม้จะยังไม่ได้แย้มขาออกดูก็เล่นเอาใจของพ่อหนุ่มนักรบเต้นระส่ำอยากจะผลักเธอลงนอนกับพื้นแล้วจับท่อนขาแยกออกเสียให้คนรู้แล้วรู้รอด
'ไม่ได้ๆ เดี๋ยวก็ได้ตายห่าพอดี' นักรบพยายามสะบัดหัวเรียกสติ แล้วหันรีหันขวางหาอะไรพอจะมาปิดบังสาวเจ้าได้ แต่ยังไม่ทันทำได้ดั่งใจคุณ สาวเจ้าก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
"ฉันถอดจนหมดตัวแล้ว นายหัวจะเอาเปรียบกันหรือคะ เอ๊ะหรือว่าเมาจนถอดไม่ได้ มาค่ะ ฉันช่วย"
ไม่พูดเปล่าทั้งสาวเจ้ายังเดินโซซัดโซเซพุ่งเข้ามาหาเขา จนเจ้าของค่ายมวยผู้บึกบึนต้องถอยหลังอย่างนึกกลัว จนกระทั่งไปถูกไปจนมุมกับผนังของห้องอย่างช่วยไม่ได้
"นี่! ออกไปห่างๆ หน่อยสิยัยผู้หญิงประหลาด" เขาว่าพลางดันศีรษะเล็กของสาวผู้เปลือยเปล่าให้ออกห่างตัว แม้ว่าสาวเจ้าจะไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิดก็ตาม
เหตุการณ์ชุลมุนยื้อยุดยังคงเกิดขึ้นอีกหลายนาที จนกระทั่งทั้งคู่เสียหลักล้มไปด้วยกันกับพื้น นักรบนั้นนึกดีใจว่าตนจะสลัดสาวเจ้าออกได้ ทว่าเป็นอีกคราที่เขาคิดผิด เมื่อแทนที่จะได้กลิ้งตัวหลบตามใจนึกกลับต้องมาถูกทั้งขาและมือกอดรัดอยู่แน่นกว่าเดิมอีก
"โธ่คุณขา จะดิ้นอะไรนักหนามันเหนื่อยนะ ไม่รู้เหรอ"
"ถ้าเหนื่อยก็เลิกมายุ่งวุ่นวายกับผมสิ! ผู้หญิงอะไรมาแก้ผ้าปลุกปล้ำผู้ชายที่เพิ่งเห็นหน้าแค่วันเดียว น่าขนลุกชะมัด"
"วันเดียวแล้วไง ปีหนึ่งแล้วไง ก็ฉันชอบคุณนี่คะ ชอบตั้งแต่แรกเห็นเลย แค่เห็นสายตาความคิดอยากจับทำผัวก็ผุดขึ้นมาในหัวแล้วล่ะค่ะ คุณคือสเปคฉันเลยนะคะ"
วินาทีที่ได้ยินแบบนั้น หัวใจของชายหนุ่มก็พลันเต้นตึกตักขึ้นทันที หากแต่ไม่ใช่เต้นเพราะดีใจแต่อย่างไร ทว่าน่าจะเป็นความตื่นกลัวเสียมากกว่า
คนตัวโตขยับหนีอย่างอึดอัดพลางผลักตัวสาวน้อยใจกล้าเบาๆ แต่ทว่าวงแขนของเธอก็ช่างเหนียวยิ่งกว่าตีนตุ๊กแกนัก ถึงได้ไม่ยอมหลุดเสียที
เขาทั้งไล่ทั้งผลักสาวเจ้าอยู่แบบนั้นอยู่นานจนในที่สุดก็สัมฤทธิผล เมื่อสามารถจัดการตัวเธอไปให้พ้นได้ หากแต่ไม่ใช่เป็นเพราะหญิงสาวยอมแพ้แต่อย่างไร
"เอ้า! หลับเฉย แก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายแล้วก็หลับใส่แบบนี้เนี่ยนะ"
นักรบบ่นอย่างหัวเสียพลางพลิกตัวสาวเจ้าให้พ้นจากตัวเพื่อจะได้หลุดพ้นการความอึดอัดเสียที โดยที่เขาคงจะลืมนึกถึงข้อสำคัญบางอย่างไป
อึก หนุ่มใหญ่กลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื๊อกกับภาพยั่วเย้าตรงหน้า ทั้งส่วนบนและส่วนล่างตอนนี้กำลังอล่างฉ่างท้าสายตาของเขาอยู่ แล้วไอ้เจ้าหนูนักรบผู้ใหญ่โตหลายนิ้วนี่ก็ไม่รักดีเอาเสียเลย ถึงได้ผงาดตื่นตัวหงึกหงักกับความสาวยั่วยวนตาตรงหน้า
'เชี่ย ขาวอมชมพูชะมัด น่า...เฮ้ย! ไม่ได้ๆ ห้ามยุ่งกับผู้หญิง ท่องไว้นักรบ อื้ม ท่องไว้'
แม้เขาจะบอกกับตัวเองแบบนั้นแต่สุดท้ายความปวดหนึบของร่างกายก็เริ่มประท้วงอยากระบายออกมาอยู่ดี ความคิดในหัวตีกันไปมาอย่างน่าสับสน
อยากจะสานฝันให้เธอสมปรารถนาโดยการจับกระแทกเสียให้สมใจ ทว่าก็ต้องหยุดตัวเองไว้เมื่อคำเตือนของอาจารย์ปรัชญ์ดังก้องในหัว
'เฮ้อเอาว่ะ ทำเองก็ได้ว่ะ แค่ดูเฉยๆ คงไม่ซวยหรอกใช่ไหมอาจารย์'
เขาว่ากับตัวเองพลางทำให้ความปรารถนาในตัวเริ่มหยุดลง มือหนาปลดเปลื้องท่อนล่างปล่อยงูเนื้อตัวเขื่องออกมาสูดอากาศ ความแข็งตึงตื่นตัวเต็มที่จนเห็นเส้นเลือดปูดโปนบนนั้น แถมยังมีน้ำเยิ้มออกมาตรงปลายรอยแยกบ่งบอกว่าเขาอยากแค่ไหน
"ซีดส์ แม่ง นมน่าดูดจังว่ะ"
เขาสบถออกมาอย่างหยาบคายพร้อมกับพาตัวเองไปคุกเข่าอยู่ใกล้กับใบหน้าของเธอ สายตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองทรวงอกไหวขึ้นลงเล็กน้อยตามจังหวะการหายใจแล้วเริ่มสาวท่อนกายเข้าออกช้าๆ จินตนาการในหัวคือยอดถันแดงระเรื่อนั่นกำลังถูกเขาดูดดันคลึงขยำอย่างเมามัน
ยิ่งสายตาเลื่อนลงไปตามหน้าท้องราบและเนินสาวที่เห็นอะไรมากกว่าเดิม เพราะเรียวขาของสาวเจ้าแยกออกจากกัน ร่องปิดสนิทสีชมพูระเรื่อเชิญชวนให้ชายหนุ่มคิดอยากจะจับเจ้าแกนกายที่ใช้มือสาวอยู่นั้น แทรกเข้าไปแล้วขยับถี่ๆ
ทว่าเพราะความกลัวเรื่องดวง และอะไรหลายอย่างทำให้เขาได้แค่มองแล้วจัดการเนื้อเอ็นของตนต่อไป แม้ว่าตอนนี้กลีบปากจะถูกกัดแล้วกัดอีกเพราะต้องห้ามใจไหว หนักเข้าก็ถึงกับต้องเอามือของตัวเองมากัดไว้ สะกดกลั้นไม่ให้เผลอเอื้อมมือไปคลึงเคล้าเรือนร่างยั่วเย้านั้น
"อึก ใกล้แล้วๆ ซีดส์ อื้ม ปล่อยใส่หน้าจะถือว่าฝืนดวงเปล่าว่ะ"
เขาว่าอย่างทรมานก่อนสุดท้ายจะทำตามความต้องการของตัวเองจนได้ กายสูงเคลื่อนตัวไปคุกเข่าตรงหน้าสาวเจ้า พลางเร่งข้อมือใหญ่ที่กำลังกำแกนกายสาวขึ้นลงให้ทำงานเร็วขึ้น จนกระทั่ง....
"อื้ม อ่าส์"
เสียงครางสุขสมของนักรบดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะสาวมือหนักๆ ปล่อยน้ำขาวค่อนไปทางขุ่นพุ่งใส่ใบหน้าของสาวงามอย่างสุดจะกลั้น เอ็นกายอันเริ่มอ่อนตัวถูกสะบัดสามสี่ครั้งก่อนเจ้าของร่างจะล้มตัวลงนอนข้างกายสาวน้อยแล้วผล็อยหลับไป
แสงตะวันเริ่มสาดส่องเข้ามาจนเรียกได้ว่าแยงตา ปลุกให้เมรีในสภาพมีผ้าคลุมกายค่อยๆ ขยับตัวลุกนั่ง สายตามองไปรอบๆ เห็นเพียงตัวเองนั่งอยู่คนเดียวเท่านั้น จึงพยายามลำดับเหตุการณ์เท่าที่จะนึกได้
และใช่เธอจำได้ว่าตัวเองพยายามจะจับนักรบทำผัวอยู่แต่ยังไม่ทันจะไปถึงไหน สติทุกอย่างก็วูบดับไปเสียก่อน และหากจะถามว่า เธอละอายไหมที่ทำตัวแบบนี้ สาวน้อยคงตอบเสียงมั่นใจว่า 'ไม่เลย'
"เอ๊ะ! กลิ่นอะไรวะ" สาวน้อยผู้กำลังโงนเงนคว้านหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ รำพึงรำพันออกมาพลางทำจมูกฟุดฟิดหาอะไรสักอย่าง
"กลิ่นคาวๆ มาจากไหนวะ เหมือนจะอยู่แถวนี้ แต่ก็ไม่เห็นแฮะ"
คนงามงุนงงกับตัวเองก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดราวกับหมาน้อยตามหาต้นตอของกลิ่นที่ว่านั้น ก่อนเสียงของใครคนหนึ่งจะดังลอยมาให้ได้ยิน
"นี่เธอ แต่งตัวเสร็จรึยัง" เสียงนักรบดังขึ้น สาวเจ้าที่ยังเมาค้างและงงกับกลิ่นปริศนาเลยเอ่ยตอบกลับไป
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ไง คงมึนน่าดูล่ะสิ เล่นซดซะขนาดนั้น" นักรบค่อนขอดอย่างอดไม่ได้ พลางยื่นน้ำขวดหนึ่งไปให้แล้วกระโดดถอยห่างออกไปอีกสองช่วงตัว
"นี่ คุณได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ไหมคะ มันตุๆ ยังไงไม่รู้ มันคาวๆ เหมือนปลาหมึกหมักเค็มอ่ะ"
"กลิ่นอะไร! มั่วนะเธออ่ะ สงสัยจะเมาค้าง" คนงามทำคิ้วขมวดออกมาโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตัวโตกำลังมีพิรุธออกมาอย่างหนัก
"เออ แล้วเมื่อคืนฝนตกรึเปล่าคุณ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่ามีน้ำฝนตกใส่ตัวเลย ไม่สิ ต้องบอกว่าตกใส่หน้าต่างหาก"
"เพ้อเจ้อ ฝนเฝินอะไร ไปๆ กลับบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวให้คนไปส่ง"
นักรบที่ได้ยินก็ยิ่งเหงื่อตกจึงรีบตัดบทออกมาแล้วเดินหนีไปทันที ทิ้งสาวเจ้าให้งุนงงอยู่แบบนั้น
"ต้องเรียกว่าฝนน้ำว่าวสินะ" ชายหนุ่มคิดในใจพลางเกาท้ายทอยแก้เขินทั้งที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้วสักคน