EP.6 งานเต้นรำ

1001 คำ
EP.6 งานเต้นรำ เมื่อเข็มนาฬิกาบอกเวลา 18.00 น. รถยุโรปหรูก็แล่นมาจอดหน้าบ้านทรงไทยที่ปิดเงียบมีเพียงแสงไฟสีเหลืองนวลหน้าประตูรั้วส่องสว่างท่ามกลางแสงสลัวเมื่ออาทิตย์บ่ายหน้าจากผืนฟ้า คนขับรถลงจากรถมากดออดหน้าบ้าน เพียงครู่เดียวหญิงสาวในชุดราตรีสีฟ้าน้ำทะเลก็ปรากฏตัวขึ้น เธอยิ้มให้เขาน้อยๆ อย่างถ่อมตนเมื่อจำได้ว่าเขาคือนายมั่นคนขับรถที่ชีคมุซตาฮ์ซานให้มาส่งเธอที่บ้านเมื่อวาน “สวัสดีครับคุณเพชรไพลิน ท่านชีคให้ผมมารับคุณ” คนขับรถค่อมตัวเล็กน้อย แล้วเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาว ที่เดาว่าคงจะอายุแค่ยี่สิบต้นๆ เพราะผิวพรรณผุดผาดราวกับดรุณีแรกรุ่น “ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณ รวบชายกระโปรงที่ยาวระพื้นแล้วก้าวขึ้นรถ นายมั่นปิดประตูรถให้แล้วเดินอ้อมไปนั่งประจำที่นั่งคนขับ รถยุโรปหรูแล่นทะยานออกไปยังท้องถนนเบื้องหน้า สองข้างทางกอปรไปด้วยแสงไฟสีส้มอ่อนทอแสงลงมายังท้องถนนเบื้องล่าง เพชรไพลินผสานมือเข้าหากันด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร เนื่องจากไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไหนสักครั้ง ปกติแล้วเธอมักอยู่หลังเวทีออกมารำประเดี๋ยวประด๋าวก็กลับเข้าไป “ถึงแล้วครับคุณเพชรไพลิน เชิญเข้าไปในงานได้เลยครับ ท่านชีครอคุณอยู่” คนขับรถอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ หญิงสาวตื่นจากภวังค์แล้วเดินลงจากรถ “ขอบคุณค่ะ” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงก้าวเดินเข้าไปภายในโรงแรม ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ดูเล็กไปถนัดตาเมื่อภายในงานเต็มไปด้วยแขกเหรื่อที่ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์งดงาม ประดับประดาด้วยอัญมณีเลอค่าส่องประกายสะท้อนแสงไฟวูบวาบจนตาพร่า หญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะเดินเลี่ยงไปยืนยังมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านนัก ประจวบเหมาะกับที่บริกรเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่ม หญิงสาวจึงหยิบแก้วเครื่องดื่มสีหวานน่ารับประทานมาดื่มแก้เก้อ “ท่านชีคคงไม่เห็นเราหรอก” หญิงสาวมองไปยังกลางห้องโถง แค่เพียงเดินเข้ามาสายตาของเธอก็สะดุดกับร่างสูงในชุดสูทสากลทว่าสวมผ้าฆุตเราะห์สีขาวที่ศีรษะเอาไว้ เขายืนเป็นจุดเด่นได้รับความสนใจจากสาวๆ และนักข่าวที่พากันกดชัตเตอร์รัวเร็วเพื่อบันทึกภาพชายหนุ่มเอาไว้ให้มากที่สุด “เฮ้อ คนล่ะโลกกันแท้ๆ เลยเชียว” หญิงสาวบ่นแล้วยกแก้วเครื่องดื่มสีสวยขึ้นจิบ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับพบว่าผู้ที่เป็นจุดสนใจของคนทั้งงานมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แน่นอนว่าหลายๆ คนในงานต่างก็มองมาที่เธออย่างสนใจ แล้วซุบซิบพูดคุยกันด้วยไม่รู้ว่าหญิงสาวคือใคร เพราะไม่เคยเห็นหน้าค่าตาในแวดวงไฮโซมาก่อน ทว่าหน้าตา ผิวพรรณ และการแต่งตัว กลับทำให้คนเหล่านั้นมิอาจเดาเป็นอื่นได้เพราะคิดว่าเธอคือไฮโซที่ไม่ใคร่ออกงานสังคมบ่อยนัก หรือเพราะเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อที่เมืองนอก... “ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาเสียแล้ว” เขาไขว้สองมือไปยังด้านหลัง แล้วโน้มตัวลงมาใกล้ๆ กระซิบบอกกับเธอเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน เพชรไพลินก้มหน้างุดด้วยความเขินอายแก้มซีกซ้ายร้อนวูบวาบเมื่อลมร้อนจากลมหายใจของชีคหนุ่มเป่าลดลงมา “ท่านชีคให้เกียรติเอ่ยเชิญดิฉัน ไม่ว่าอย่างไรดิฉันก็ต้องมาค่ะ” เธอตอบกลับไปแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบไม่ต่างกัน แล้วก้มหน้าอยู่อย่างนั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาอย่างที่ควรจะเป็น จึงไม่เห็นว่าชีคหนุ่มได้สังเกตเธอด้วยประกายตาหวามไหว ผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นเป็นคนที่สวยจนหาตัวจับได้ยากทีเดียว ก้าวแรกที่รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นในชุดราตรีเกาะอกสีฟ้าน้ำทะเลลากยาวระพื้น ช่วงบนเปิดเปลือยไหล่ขาวนวลเนียนที่เห็นเพียงวับแวม เพราะผมหนาสีนิลสลวยยาวปิดลงไปจดเอวบางเยื้องย่างเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง สายตาของชายหนุ่มแทบทุกคู่เหลียวมองเธอเป็นตาเดียว จนเขารู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพชรไพลินงดงามเหลือเกินในความรู้สึกของเขา เธอดูสวยน่ารัก ไม่ว่าจะอยู่ในชุดไทยหรือชุดราตรีสีฟ้าน้ำทะเลเช่นนี้ ดวงหน้าที่ตกแต่งเครื่องสำอางไว้อย่างบางเบาทำให้เธอดูอ่อนวัยสดใส หญิงสาวคนอื่นๆ ในงานแทบจะหมองลงไปถนัดตาเมื่อเธอก้าวเข้ามา และเขาคงทนยืนเฉยอยู่อีกไม่ได้หากไม่รีบเข้ามาทักทาย ด้วยกลัวชายหนุ่มคนอื่นจะคว้าตัวเธอไปเสียก่อน “ถ้าวันนี้เธอไม่มา ฉันคงต้องไปรับด้วยตัวเอง” “อย่าเลยค่ะดิฉันเกรงใจ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาคมเพียงเสี้ยววินาทีแล้วจึงแสร้งหันไปทางอื่น ด้วยรู้สึกว่าใบหน้าของเธอนั้นร้อนวูบวาบเมื่อสบสายตาคู่นั้น “หิวหรือยัง ทานอะไรไหม มาสิฉันจะพาไป งานนี้จัดเลี้ยงแบบค็อกเทล อาหารส่วนใหญ่เป็นฝีมือของเชฟระดับห้าดาวของทางโรงแรม” ชีคหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่จูงมือหญิงสาวให้เดินตาม ดูเหมือนว่าคนจูงจะไม่คิดอะไร แต่เจ้าของมือบางกลับหน้าแดงก่ำมองมือหนาที่จับมือของเธอไว้ด้วยหัวใจเต้นระรัว เกิดมาไม่เคยจับมือถือแขนกับชายหนุ่มคนไหน ชีคมุซตาฮ์ซานเป็นคนแรกที่จับมือเธอ ทั้งยังจับราวกับเป็นเรื่องปกติเสียด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม