EP.5 ตามนางรจนา

1113 คำ
EP.5 ตามนางรจนา หญิงสาวในชุดนักศึกษาสีขาวสวมกระโปรงอัดพลีทความยาวเสมอเข่า หอบหนังสือไว้แนบอก แล้วออกวิ่งด้วยรองเท้าส้นสูงหุ้มส้นสีขาว เพื่อขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดภาคเรียน นักศึกษาชั้นปีที่สองนั้นส่วนใหญ่จะเรียนวิชาทั่วไป และเริ่มเรียนวิชาที่ลงลึกเฉพาะเจาะจงลงไปทางใดทางหนึ่งบ้างแล้ว เพชรไพลินเลือกเรียนคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานาฏศิลป์และการละคร ด้วยใจรักการร่ายรำมาตั้งแต่เด็กๆ จึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขานี้โดยไม่ลังเล “เสร็จสักที สอบอะไรก็ไม่รู้ข้อสอบยากมากๆ เอาอะไรมาออกสอบเนี่ย ฉันไม่เห็นว่าจะมีในหนังสือเลย” นักศึกษาร่างท้วมบ่นอุบ ขณะหยิบลิปกรอสสีส้มมาทาริมฝีปากอย่างบรรจง “มันก็มีในหนังสือกับชีตคำบรรยายที่อาจารย์แจกนั่นล่ะ ถ้าอ่านก็ต้องทำได้อยู่แล้ว” เพชรไพลินยิ้มขำ ขณะเดินลงบันไดไปพร้อมกับเพื่อนๆ “จ้ะแม่คนเก่ง ใครจะไปเรียนเก่งเหมือนเธอล่ะ เทอมแรกก็ฟาดเอเรียบ นี่ไม่คิดจะแบ่งให้เพื่อนสักตัวเลยหรือไง เทอมสองนี่ก็คงฟาดเอเรียบอีกตามเคย เห็นแล้วอิจฉา ทั้งสวยทั้งเก่ง จะเลิศเลอไปไหนยะยายเพชร” เพื่อนสาวมิได้อิจฉาจริงอย่างที่พูด ออกจะรักและหวงเพชรไพลินเสียด้วยซ้ำ หากมีหนุ่มๆ เข้ามาเมียงมอง เป็นต้องไล่กระเจิงไปเสียทุกราย “เออนี่ วันนี้ไปกินไอศกรีมกันไหมฉลองสอบเสร็จ ฉันได้คูปองลดครึ่งราคามาตั้งหลายใบ” เพื่อนอีกคนเอ่ยขึ้น ไอศกรีมหวานเย็นทำให้สาวๆ ในกลุ่มยิ้มกว้างอย่างเห็นพ้อง มีแต่เพชรไพลินที่ส่ายหน้าช้าๆ “ฉันคงไปไม่ได้ ต้องรีบกลับไปช่วยงานคุณแม่” เพชรไพลินเอ่ยขอตัวเช่นเคย ในช่วงบ่ายเมื่อไม่มีเรียนแล้ว หญิงสาวจะตรงกลับบ้านทันที แทบไม่เคยไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง “เว้นสักวันไม่ได้เลยเหรอเพชร” “ไม่ได้หรอกวันนี้มีนักเรียนหลายคน ฉันต้องกลับไปช่วยคุณแม่ กลัวท่านจะเหนื่อย สอนเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ การสอนเด็กรำนั้นไม่ใช่จะสอนไปเรื่อยคิดแต่จะเก็บค่าเล่าเรียนอย่างเดียว แต่ต้องเคี่ยวเข็ญให้เด็กสามารถรำได้ ผู้ปกครองจะได้พอใจจนทำให้บอกต่อกันไปปากต่อปาก “เพชรนี่ตลอดเลย ไม่เคยไปไหนกับเพื่อนๆ สักที ตามใจๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ” “จ้า ทานให้อร่อยนะ ทานเผื่อด้วย” หญิงสาวโบกมือลาเพื่อนสาวกลุ่มใหญ่ ที่เดินพูดคุยส่งเสียงเจื้อยแจ้วไปตลอดทาง เพชรไพลินรอรถเมล์สายเดิมใช้ชีวิตเดิมๆ เฉกเช่นทุกวัน เมื่อกลับไปถึงบ้านจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาวนุ่งโจงกระเบนสีแดงสดเหมือนเด็กนักเรียนที่มาเรียนรำ คลาสนี้ไม่ยากนักเพราะเด็กที่มาเรียนนั้นอายุแปดเก้าขวบแล้ว เธอจึงให้มารดาเลี้ยงไปพักผ่อน แล้วจึงสอนแทนเสียเอง “เอาล่ะคะคราวที่แล้วครูสอนท่าออกของรำศรีวิชัยไปแล้ว วันนี้เรามาลองทบทวนดูสิว่ายังจำกันได้หรือเปล่า” หญิงสาวเดินไปเปิดเพลงแล้วสั่งให้นักเรียนทั้งสามคนตั้งแถว เมื่อเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นเด็กก็พากันรำ ถูกบ้างผิดบ้างหญิงสาวยืนดูสักพักจึงปิดเพลงลง “เอาล่ะคะถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว คราวนี้มารำพร้อมกับครูนะคะ” หญิงสาวเปิดเพลงอีกครั้งแล้วยืนอยู่ข้างหน้านักเรียน โดยหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่ที่กินพื้นที่ผนังห้องด้านหนึ่ง “เรามารำท่าออกกันนะคะ หันตัวไปทางซ้ายค่ะ มือทั้งสองจีบคว่ำระดับชายพกเอียงซ้ายนิดๆ แล้วประเท้าขวาวิ่งมาด้านหน้า” หญิงสาวสอนรำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย เป็นที่รู้กันในหมู่เด็กนักเรียนว่าครูเพชรนั้นใจดี เวลาสอนรำไม่เคยดุด่า แต่จะค่อยๆ อธิบายจนกว่านักเรียนจะเข้าใจ แตกต่างกับครูรุจินภาที่ค่อนข้างดุ จนนักเรียนกลัว พาลทำให้รำออกมาแล้วเกร็งไม่เป็นธรรมชาติ “เอาล่ะคะ ดีมาก ถ้าคราวนี้ทั้งสามคนรำพร้อมกันไม่ผิดเลย ครูจะให้พักทานขนมดีไหมคะ” “ดีค่ะคุณครู” นักเรียนตัวน้อยตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง เพราะชักจะเมื่อยมือเมื่อยเท้าเสียแล้ว “ถ้าอย่างนั้นรำรอบนี้ต้องตั้งใจนะคะ” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วหันไปเปิดเพลง จังหวะนั้นแม่บ้านนำขนมและน้ำหวานใส่น้ำแข็งดูท่าจะเย็นชื่นใจเข้ามาพอดี เด็กนักเรียนจึงตั้งใจรำโดยไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นเหตุให้คุณครูคนสวยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ “เอาล่ะจ๊ะพักได้ ทุกคนเก่งมาก” เพชรไพลินเดินแยกออกมาจากห้องสอนรำ หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เหน็บไว้ที่ชายพกโจงกระเบนขึ้นมาซับเหงื่อที่ปลายจมูก “คุณเพชรคะ มีคนส่งของมาให้คุณค่ะ” แม่บ้านส่งกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้หญิงสาว “ขอบคุณค่ะพี่ออย” เพชรไพลินรับกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีฟ้าผูกด้วยริบบิ้นสีเงินมาถือไว้ด้วยความแปลกใจ หยิบการ์ดใบเล็กออกเปิดอ่าน เจอกันที่งานเลี้ยงคืนนี้นะรจนา คนขับรถจะไปรับเธอตอนหกโมงเย็น ชีคมุซตาฮ์ซาน พลันแก้มนวลก็แดงระเรื่อขึ้น หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าเท้ายืนไม่ติดพื้น เธอคิดว่าเขาลืมเธอไปเสียแล้ว แต่เขายังจำได้ ทั้งยังส่งกล่องของขวัญมาให้ เธอเดินกลับเข้าไปในห้องพักส่วนตัว แล้วลงมือแกะกล่องของขวัญอย่างบรรจง ภายในกล่องคือชุดราตรียาวหรูหรา หญิงสาวไล้มือไปยังเนื้อผ้า ดูก็รู้ว่าราคาแพงเกินกว่าที่เธอจะหาซื้อมาสวมใส่เองได้ “ท่านชีครู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป” หญิงสาวกอดชุดราตรีเอาไว้ เธอช่างฝัน ชอบอ่านนิยายพาฝันแล้วคิดเคลิ้มไปไกลว่าอยากมีคนรักเป็นหนุ่มต่างชาติผู้มาจากแดนไกล ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเสี้ยวหนึ่งของนิยายที่เคยอ่านจะบังเกิดขึ้นกับตัวเอง หรือว่าความจริงแล้วเธอยังหลับฝันอยู่กันแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม