ตอนที่ 3 กลับบ้าน 1

1549 คำ
ณ สนามบินแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด กัลยาโผเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ เมื่อเช้าเธอบอกเพื่อนที่พักอยู่ห้องเดียวกันว่าต้องรีบกลับบ้านด่วน “ไหนบอกว่าจะให้หนุ่ยมารับไง” “หนุ่ยติดสอบน่ะค่ะขิมไม่อยากรบกวนเขา” ความจริงเธอไม่ได้บอกคู่หมั้นว่าเธอกลับมาวันนี้ด้วยซ้ำ เพราะจิตใจเธอยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใคร ตั้งแต่ออกจากบ้านหลังนั้นมาสมองเธอมันก็คิดฟุ้งซ่านตลอด เธอตัดสินใจกลับบ้านด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย “เหนื่อยไหม?” “ไม่เหนื่อยค่ะพ่อ” พูดเสียงสั่นเครือ เพราะเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวอีกแล้ว เธอเจ็บและอัดอั้นตันใจกับเรื่องที่ไม่สามารถบอกกับใครได้ จับไหล่ลูกสาวผละห่างออก เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ คิ้วเข้มขมวดมุ่น “ขิมร้องไห้ทำไม ฮึ” ถามลูกสาวด้วยความตกใจ กัลยาไม่ใช่คนที่จะร้องไห้กับอะไรง่ายๆ แต่เจอหน้าพ่อแค่นี้ทำไมถึงร้องได้ “เปล่าค่ะพ่อ ขิมแค่ดีใจที่ได้เจอพ่อค่ะ” กัลยากล่าวคำเท็จออกมา ดีใจที่ได้เจอพ่อก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่มีมากกว่านั้นคือเธอต้องการกำลังใจ การสอบเสร็จและเรียนจบมันคือความยินดีที่สุดสำหรับเธอในคราแรก แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันกลับกลายเป็นตราบาปและแผลในใจเธอจนมันกลบความสุขของเธอไปเสียทุกเรื่อง “โธ่ ขิมลูกพ่อ” หรรษธรเข้าใจตามคำที่ลูกสาวพูด เพราะเธอเข้าไปเรียนกรุงเทพฯเพียงลำพังตั้งแต่เรียนจบชั้นมัธยมปลายและไม่ค่อยได้กลับบ้าน จึงเข้าใจว่าคำพูดของลูกคือความจริงทั้งหมด “ไม่เป็นไรแล้วนะ พ่ออยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ร้องนะ” ปลอบลูกสาวด้วยความรักใคร่ มารดาของเธอจากไปตั้งแต่ยังแบเบาะกัลยาก็อยู่กับพ่อมาโดยตลอด หรรษธรจึงเป็นเหมือนทั้งพ่อและแม่ในคนเดียวกัน อีกทั้งยังเคยมีม่านหมอกและมธุสรที่เป็นเหมือนพ่อและแม่อีกคน แต่ตอนนี้ความรู้สึกเธอที่มีต่อม่านหมอกมันคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป “กลับบ้านเราเถอะค่ะพ่อ ขิมอยากพักผ่อนแล้วค่ะ” “โอเคจ้ะ ดูหน้าซีดๆ นะเราอะ” “ค่ะพ่อ ขิมอ่านหนังสือหนักติดต่อกันหลายคืนน่ะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยได้พักผ่อน” กัลยาเป็นคนที่ตั้งใจเรียนมากและเป็นเด็กเรียนดีมาโดยตลอด แต่ต้นเหตุของความหน้าซีดไม่ได้มาจากการอ่านหนังสือสักนิด “พ่อแวะร้านขายยาให้ขิมแป๊บนึงนะคะ” บอกพ่อตอนที่เข้ามานั่งในรถเรียบร้อย “ไม่สบายเหรอ” “มึนหัวนิดหน่อยค่ะ” “ยาแก้ปวดที่บ้านเราก็มีนะ” “เอ่อ ขิมจะซื้อยาบำรุงด้วยค่ะ” ไม่ใช่แค่ยาบำรุง เธอต้องซื้อยาอย่างอื่นเพื่อไม่ให้เธอเกิดการตั้งครรภ์กับคนที่ไม่สามารถจะมาเป็นพ่อของลูกเธอได้ด้วย เธอไม่ได้นับว่าเมื่อคืนเขาปลดปล่อยธารร้อนเข้าในกายเธอกี่ครั้ง มันอาจจะเกินจริงไปหน่อยแต่เขาไม่ได้ปล่อยให้เธอพักเลย “โอเคจ้า” เอามือยีผมลูกสาวด้วยความรัก หรรษธรสังเกตเห็นว่าลูกสาวกลับบ้านรอบนี้ทำไมเธอถึงดูไม่มีความสุขเท่าที่ควร ภายในบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่ที่ตกแต่งไว้อย่างทันสมัย “สวัสดีค่ะน้าสร้อย” ยกมือไหว้แฟนใหม่ของพ่อ ซึ่งทั้งสองเพิ่งคบกันได้ไม่ถึงปีแต่สร้อยสุดาก็ย้ายเข้ามาอยู่กับพ่อของเธอหลายเดือนแล้ว เธอเป็นทั้งผู้ช่วยผู้จัดการร้านทองของพ่อและเป็นทั้งคนรักของเขาด้วย “หวัดดีจ้ะ” สร้อยสุดารับไหว้ ถึงกัลยาจะยังไม่ค่อยยอมรับนักแต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพ่อ เธอไม่ค่อยพอใจที่สร้อยสุดาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กที่โตมากับพ่อเพียงสองคนย่อมทำใจยอมรับได้ยากหากวันหนึ่งจะมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาแย่งความรักจากพ่อของเธอไป กัลยาวางกระเป๋า เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบนมและขนมปังเสร็จแล้วก็เดินเข้าห้องตัวเอง “ขิมไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก” “ไม่ค่ะพ่อ ขิมไม่ค่อยหิวค่ะ ขอนอนพักก่อนนะคะ” ในใจของเธอตอนนี้มันร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เธอตื่นนอนออกจากบ้านม่านหมอกมาแล้ว ความรู้สึกมันมากกว่าคำว่าเสียใจ “อย่าลืมกินยานะขิม” “ค่ะพ่อ” เข้าไปในห้องหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง เธอเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เปลี่ยนชุดไปร้องไห้ไปแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ มองเห็นรอยจ้ำตามตัวโดยเฉพาะขาอ่อนด้านในทั้งสองข้างนั้น มันมีรอยดูดรอยเขี้ยวเต็มไปหมด เนินอกอวบขาวของเธอก็เช่นกัน ยิ่งเห็นน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด กัลยาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง ใช้น้ำจากฝักบัวล้างน้ำตาที่มันรินไหลออกมาเป็นทาง ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงได้มาเกิดขึ้นกับเธอ ชีวิตเธอดีมาตลอดทำไมเธอต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย เมื่อคืนม่านหมอกเมาจนไม่ได้สติ เขาคงจำอะไรไม่ได้ แต่เธอนี่สิ สติยังอยู่ครบทุกอย่างและจดจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความรู้สึกตอนที่เขาโอบกอดเธอ ถาโถมใส่กายเธอและพร่ำบอกเธอ แต่คำพูดเหล่านั้นม่านหมอกไม่ได้พูดกับเธอ เขาพูดกับมธุสร ‘อื้อ สร พี่รักสรมาก’ ปากพร่ำบอกสะโพกก็กระแทกกระทั้นเข้าใส่เธออย่างหนักหน่วง นี่เธอกำลังเป็นอะไรไป เธอเสียใจอะไรกันแน่ เสียใจที่เขาไม่ได้คิดว่าเป็นเธออย่างนั้นหรือ “ขิมเกลียดพ่อเลี้ยง ฮือ ฮือ” ร่างเล็กทรุดลงนั่งยองในห้องน้ำ ผมยาวสลวยเปียกน้ำลู่ลงมาจนลีบ กัลยาไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่หื่นขนาดนี้ มือบางขยี้ริมฝีปากตัวเองแรงๆ เพื่อให้รอยจูบของคนใจร้ายมันจางหายไป ยิ่งขยี้ก็ยิ่งคิดถึง ขนาดเธอกับคู่หมั้นก็ยังไม่เคยจูบกันเลยสักครั้ง แต่ม่านหมอกกลับได้ทุกอย่างในตัวเธอไปครอบครองทั้งหมด แล้วแบบนี้เธอยังจะมีหน้าไปแต่งงานกับนวพัฒน์ได้อีกอย่างนั้นหรือ อาบน้ำเสร็จกัลยาเหนื่อยกับการร้องไห้ แถมเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอน เธอหลับไปจนถึงช่วงเย็น ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ขิม เปิดประตูให้พ่อเข้าไปหน่อย” กัลยางัวเงียตื่นอย่างลำบาก ร่างเล็กเมื่อยขบไปหมด กลางหว่างขายังรู้สึกเจ็บนิดๆ แล้วเดินไปเปิดประตู “ขิม ตื่นมาทานข้าวก่อนลูกเดี๋ยวค่อยนอนต่อ” “ค่ะพ่อ” ถึงไม่รู้สึกหิว แต่เธอก็ต้องกินอะไรสักหน่อย เพื่อจะได้ทานยา ตอนนี้รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ ร่างบางเดินออกมานั่งที่โต๊ะอาหาร “ร้อนจะตาย ทำไมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวด้วย” หรรษธรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวแต่งตัวมิดชิด ปกติต้องกางเกงขาสั้นหรือไม่ก็เสื้อแขนกุด “ขิมรู้สึกหนาวค่ะพ่อ เหมือนจะเป็นไข้” ทั้งจะเป็นไข้ ทั้งเพื่อปกปิดรอยช้ำ ถ้าจะให้ลงรองพื้นปกปิดก็คงไม่ไหว “ให้น้าทำข้าวต้มให้ไหมคะ” สร้อยสุดาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างใจจริง “ไม่เป็นไรค่ะ ขิมกินที่มีอยู่ก็ได้ค่ะ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” กัลยาไม่ได้สนใจความห่วงใยที่สร้อยสุดามีให้นัก อีกอย่างเธอก็ไม่ได้หิวจริงๆ สร้อยสุดาจึงไม่บังคับเธอ บ้านพักข้างโรงงานน้ำตาลประกายฤกษ์ในภาคอีสาน ม่านหมอกมาถึงประมาณสองทุ่ม “ผมให้รุ่งทำอาหารไว้ให้คุณหมอกแล้วครับ” สุชินเอ่ยขึ้นเมื่อขับรถเข้ามาจอดภายในบ้าน บ้านหลังนี้ม่านหมอกและมธุสรเคยมาพักตลอดเมื่อตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่พักที่บ้านหลังนี้ก็ไปพักที่บ้านของหรรษธร ตอนนี้จิตใจเขาไม่ได้จดจ่ออยู่ที่มธุสรอีก “ขอบใจนะ เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องให้ฉันที” “ครับผม” ม่านหมอกเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกหลายอย่าง เขาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ รู้แต่ว่ารู้สึกผิดกับผู้หญิงทั้งสองคนที่เขารัก กัลยานั่งมองโทศัพท์ตัวเอง เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าจะรอให้ผู้ชายคนนั้นโทรมาทำไม ในเมื่อเขาก็ไม่เคยมีเบอร์เธอ เขาคงไม่ได้สนใจอะไร ขนาดผ่านมาแล้วทั้งวัน เขาก็ยังไม่คิดจะถามไถ่เธอสักคำ เธอรู้เพราะวันนี้พ่อของเธอไม่ได้พูดถึงเพื่อนรักของเขาเลยแม้แต่คำเดียว เธอไม่เคยคิดว่าม่านหมอกก็เหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ เสียแรงที่เธอรักและเคารพนับถือเหมือนเป็นพ่อแท้ ๆ แต่เขาก็ยังมาย่ำยีเธอได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม