ความเงียบในรถพาให้ทั้งสองคนอึดอัด เดิมทีกวินนาจะมานั่งด้วยอีกคน แต่เขากลับออกรถหนี ทำให้เขากับเธอต้องอยู่กับบรรยากาศอย่างนี้
“ถามจริงๆ ทำไมถึงชอบอ่อยไปทั่ววะ” คำพูดของคนที่ทำหน้าที่ขับรถทำให้หญิงสาวหันมองเขาขวับ เมื่อเห็นว่าเขาก็มองมาที่เธออยู่ก็แน่ใจทันที่ว่าเขาถามเธอ
“เราไปอ่อยใครตอนไหน”
“ไม่รู้จริงดิ? หรือว่าทำเป็นสันดานเลยแยกไม่ออกว่าคนไหนอ่อยคนไหนคุยด้วยเฉยๆ” ดวงตากลมโตจ้องเขาเขม็ง เพราะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ร่ำรวยเหมือนพวกเขาเหรอถึงคิดว่าเธอเป็นคนอย่างนั้น
ในขณะที่ต่างคนต่างไม่พูดมือถือของหญิงสาวก็มีสายเรียกเข้า
“ว่าไงแก้ม”
“บอกโชนให้แวะที่ปั๊มหน้าเลยนะ พวกฉันหิวข้าวแล้วอ่ะ” หลังจากที่กวินนาวางสายไปหญิงสาวก็ต้องกำมือถือไว้แน่น เธอไม่อยากจะพูดกับเขา
“แก้มบอกให้แวะปั๊มหน้าด้วย” ชายหนุ่มมองคนที่พูดกับเขาเสียงแข็งเพียงนิดก่อนจะเลี้ยวเข้าปั๊มตามที่เธอบอก และทันทีที่รถจอดสนิทณิชาก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที
.....
“เอากระเพราหมูสับเผ็ดมากห้าจานค่ะ”
“ได้จ้า หนูไปนั่งรอกันก่อนนะ อีกจานเดียวป้าจะเสร็จละ” กวินนาสั่งเมนูเดียวกันทั้งหมดเพราะจะได้เร็วมากขึ้น และเป็นเมนูที่ทุกคนเคยโหวตกันแล้วว่าชอบตรงกัน
“ได้แล้วจ้ากระเพราเผ็ดนรกแตก”
“อ้ะ!/ซี๊ดดด” ทั้งห้าคนเหลือบมองโชนกับณิชาสลับกันไปมาเมื่อจู่ๆ เขาก็ร้องขึ้นพร้อมกัน
“เป็นอะไรกันอ่ะ” มินตราถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“เอ่อ ที่เราล้มเมื่อคืนเราปากแตกด้วยน่ะ”
“โชนอ่ะ” กวินนาถามเพื่อนอีกคนคงไม่บังเอิญล้มเหมือนกันหรอกมั้ง
“ฉันก็ปากแตกเหมือนกัน อย่าถามมากกินๆ เข้าไปเหอะหิวไม่ใช่หรอ
“ณิชามานั่งกับเราก็ได้นะ เดี๋ยวแก้มไปนั่งกับโชนเอง” คนถูกเปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถมองพี่ชายสายตาแข็งกร้าวชั่วแวบหนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในเวลาต่อมา
หลังจากที่กินข้าวเสร็จณิชาได้นั่งรถไปกับเชนทร์โดยความร่วมมือของมินตราและกวินนาที่หวังว่าเพื่อนทั้งสองจะมีใจให้กัน
“ไอ้โชนมันพูดอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก เราแค่ทำตัวไม่ถูกตัวอยู่กับโชนน่ะ”
“ไอ้โชนมันนิสัยเสีย ถ้ามันรู้ว่าใครกลัวมันๆ ยิ่งชอบใจ ณิชาอย่ายอมให้มันทำตัวแย่ๆ ใส่สิ”
“ไม่มีอะไรหรอก” เรื่องคำพูดของเขาที่ทำให้เสียความรู้สึกเธอจะไม่พูดมันกับใคร ไม่อยากให้พวกเขาที่เป็นเพื่อนกันมานานกว่าเธอต้องมีปัญหากัน
.....
“ฉันว่าสองคนนั้นมีใจให้กันแหละ แต่กลัวเสียเพื่อนไง”
“ฉันคิดว่าไม่นะ เมื่อคืนสองคนนั้นก็พูดแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกัน”
“อาจจะพูดไปอย่างงั้นแหละ เชนทร์ดีณิชามากเป็นพิเศษจะไม่คิดอะไรจริงๆ หรอ”
บทสนทนาของสองสาวอยู่ในความสนใจของชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าที่เป็นสารถี ทำเป็นพูดว่าไม่ได้คิดอะไรกันทั้งที่เอากันไปแล้วน่ะหรอ คงกลัวเสียภาพลักษณ์ผู้หญิงใสซื่อล่ะสิ
.....
“ทำไมถึงแวะกันมาที่นี่ล่ะ ไม่กลับกันเลยหรอ”
“ณิชา เราจะกลางเต็นท์นอนที่นี่กันคืนนึง พรุ่งนี้ค่อยกลับนะ” มินตราพูดเสียงออดอ้อนเพราะรู้ว่าการกระทำของพวกเธอมันเป็นการบังคับเพื่อนทางอ้อม
“เราลางานไว้แค่วันเดียวเองมิลค์ ผู้จัดการบ่นเราแย่เลยแบบนี้”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เชนทร์จัดการให้เธอแล้ว พักผ่อนอย่างสบายใจได้เลย”
“เชนทร์ทำยังไงหรอ”
“ไม่ต้องรู้หรอกน่า พวกเราเช่าเต็นท์ไว้เผื่อเธอแล้วด้วย”
“ค่าเช่าเท่าไหร่หรอแก้มเราจ่ายคืนให้นะ”
“ไม่ต้องๆ พวกเราบังคับเธอมาอ่ะ เดี๋ยวพวกเราจ่ายให้เอง”
“เท่าไหร่แก้ม”
“แปดร้อยเองณิชาเธอไม่ต้องจ่ายหรอก” หญิงสาวหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ส่งให้กวินนาแปดร้อยบาท เธอพยายามไม่ให้เพื่อนเห็นเศษเงินที่เหลือติดกระเป๋าไม่น่าเกินห้าร้อยบาท
“อย่าอยากจ่ายอะไรให้เราอีก เข้าใจมั้ย” กวินนากับมินตรามองหน้ากันพร้อมกับยิ้มเจื่อน ณิชาไม่ยอมรับอะไรจากพวกเธอเลย ทั้งที่พวกเธอไม่เคยคิดว่าณิชาจะมาหาผลประโยชน์ พวกเธอเป็นคนดึงณิชาเข้ามาในกลุ่มด้วยซ้ำ
“เรานอนเต็นท์ไหนหรอ”
“เลือกเอาเลยณิชา เราไปถ่ายรูปกันดีกว่า” หญิงสาวเลือกโยนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในเต็นท์หลังหนึ่งเมื่อกวินนาเร่งเร้าๆ จะให้ไปถ่ายรูปด้วยกันก่อนแสงอาทิตย์จะตกดิน
เริ่มแรกณิชาอาสาถ่ายรูปให้เพื่อนทั้งสอง พอได้รูปจนพอใจพวกเธอก็ผลัดกันถ่ายรูปกับณิชา
“อยากได้รูปพวกเราทุกคนเลยอ่ะ ไหนๆ ก็มาด้วยกันแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปตามสองคนนั้นก่อนนะ”
มินตราเดินกลับมาพร้อมเพื่อชายอีกสองคน ที่มีคนหนึ่งใบหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไร
“อะไรวะมิลค์คนกำลังนอนอยู่ดีๆ”
“ถ่ายรูปด้วยกันไง”
“ไร้สาระ”
“อะไรวะโชน ฉันแค่อยากให้เราถ่ายรูปเก็บไว้ดูตอนที่เราต้องแยกย้ายเองนะ ถ้านายไม่อยากถ่ายนายก็กลับไปนอนเลยไป” มินตราว่าให้เขาน้ำตาคลอ น้อยใจเพื่อนที่ขอความร่วมมืออะไรก็เหมือนว่าโชนจะปัดมันทิ้งซะหมด
“อ่ะๆ ไปถ่ายกันเลยไป เดี๋ยวฉันถ่ายให้เอง”
“ไม่เอา ถ่ายด้วยกันหมดนี่แหละ ฉันเอาขาตั้งกล้องมาด้วยนายไม่เห็นหรอ” มินตราดึงโชนเข้ามายืนรวมกับเพื่อนที่เหลือทำให้ณิชาทำตัวไม่ถูกเพราะเขามายืนอยู่ติดกับเธอ ความใกล้จนแขนชิดกันทำให้ณิชาได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของเขา
“มองกล้องนะ สาม สอง หนึ่ง” ในขณะที่กล้องจับภาพณิชาก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของโชนด้วยความรู้สึกบางอย่าง เมื่อคืนเธอได้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดียวกันนี้จากใครก็ไม่รู้ที่ลากเธอไปปล้นจูบในความมืด
“ก็แค่นี้แหละ ขอบใจนะที่ไม่ดื้อ” มินตราตบเบาๆ ที่ต้นแขนของคนหน้านิ่ง
“โชนนายใช้น้ำหอมอะไรอ่ะ เปลี่ยนกลิ่นใช่ปะ?”
“อือ ทำไมเหม็นหรอ”
“เปล่า กลิ่นมันใหม่อ่ะ หอมดีนะนายซื้อมาจากที่ไหนฉันจะไปซื้อตามบ้าง” กวินนาทำท่าสูดกลิ่นหอมจากเสื้อของเขาแต่ก็ถูกเจ้าตัวดันศีรษะให้ถอยออกห่าง