ตอนที่ 9 เปราะบาง

1116 คำ
เพียะ! ใบหน้าอรนิสาหันตามแรงฝ่ามือ มันขึ้นเป็นรอยนิ้ว พิรามปล่อยมือเป็นอิสระ แล้วรั้งเนตรดาวให้ถอยห่าง “เราหายกันแล้วอร!” เนตรดาวบอกเสียงกร้าว “นังเนตรดาว!” อรนิสาร้องลั่น แล้วปรี่เข้าหา ทว่าประมุขของบ้านกลับเดินเข้ามาด้านใน เห็นเพื่อนลูกสาวง้างมือหมายทำร้าย ทินกรรีบตรงเข้าไปขวาง นันทวัฒน์สาวเท้ามาร่วมวง “มันเกิดอะไรขึ้น อรทำเนตรทำไม สองคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง!” นันทวัฒน์ถามเสียงเย็น แววตาน่ากลัว อรนิสาลดมือลง เนตรดาวมองเพื่อนแล้วหันมองพี่ชายคนสนิท “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อ” “อย่าบอกว่าไม่มีอะไรเลยเนตร พ่อเห็นอรง้างมือจะตบลูกอยู่” “เราเข้าใจผิดกันน่ะค่ะพ่อ” เนตรดาวอธิบาย นันทวัฒน์หันมาสบตาเพื่อนลูกสาว อรนิสาเข้านอกออกในบ้านหลังนี้มาหลายปี เขานึกเอ็นดูว่าเป็นเด็กขยัน แต่คราวนี้กลับกลายเป็นการลงไม้ลงมือทำร้ายลูกสาวมันเรื่องอะไรกัน “มีปัญหาอะไรกับยัยเนตรหรืออร” ชายชราถามเสียงหนัก “เปล่าค่ะไม่มี” อรนิสาหลบเลี่ยงสายตา “บ้านหลังนี้เป็นของพ่อ พ่อจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายลูกสาวพ่อถึงในบ้าน เพราะมันเหมือนหยามกัน!” คนฟังชะงักเหลือบมอง แล้วรีบหลุบมองพื้น พิรามรีบยกมือไหว้เพื่อขอโทษ “ผมขอโทษด้วยครับคุณอา” “ไม่เป็นไรหรอกพิราม ยังไงดูแลแฟนให้ดีอย่าให้ทำแบบนี้อีก” พิรามยิ้มบางๆ “อรกับผมเลิกกันแล้วครับ” นันทวัฒน์นิ่งงัน ก่อนปรับสีหน้าตนเองเป็นปกติ หรือสองคนอาจเข้าใจผิดกัน เรื่องนี้คงต้องถามบุตรสาวดูอีกที “แล้วงานแต่งล่ะราม กำลังจะจัดแล้วไม่ใช่หรือไง” “ผมกำลังจะไปยกเลิกครับ” เขาพยักหน้ารับรู้ แล้วถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็พาอรกลับไปเลยเถอะ อย่าให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้เลย” “ได้ครับคุณอา” เขารับคำแล้วไหว้ลา อรนิสาก้าวตามมาเงียบๆ พิรามสบตาอดีตคนรัก แล้วรั้งให้ก้าวตาม มาถึงรถของเธอเปิดประตูให้แล้วดันตัวเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ ก่อนปิดประตูลง อรนิสาน้ำตานองหน้า กัดฟันแน่น ราวทะยานรถออกจากรั้วบ้านไป เช่นเดียวกับรถอีกคัน ประตูห้องทำงานเปิดออก เนตรดาววางกระเป๋าสะพายบนโต๊ะแล้วระบายลมหายใจ เลขาหน้าห้องเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารให้เซ็น เธอทำงานจนเวลาล่วงเลยไปเกือบบ่ายโมง เสียงโทรศัพท์มือถือดังแว่วเข้ามา เนตรดาวหยิบแล้วหลุบตามองเบอร์หน้าจอ ก่อนกดรับสาย “ค่ะพี่ราม” เธอตอบรับเสียงเบา “เนตรทำอะไรอยู่เหรอ” “เนตรเพิ่งทำงานเสร็จค่ะ” พิรามอึกอักเล็กน้อย ตอนนี้ต้องการใครสักคน พูดคุยเพื่อลดทอนความรู้สึกเงียบเหงาจากหัวใจ เนตรดาวเป็นรุ่นน้องที่เขาสนิทสนมที่สุด การได้พูดคุยกับเนตรดาวมันทำให้เขารู้สึกสงบ ราวกับท้องฟ้ายามเข้า “พอมีเวลาว่างไหม วันนี้พี่ไม่มีคนไข้แล้ว อยากคุยกับเนตรสักหน่อย” เนตรดาวชะงัก เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายรู้สึกเช่นไร และเธอพร้อมยืนเคียงข้างพี่ชายคนนี้เสมอ เพราะตนเองนั้นก็เคยมีช่วงเวลาท้อแท้ พี่รามคือคนที่ช่วยปลอบใจให้เธอก้าวผ่านด้วยดี “เนตรว่างพอดีเลยค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นเจอกันที่ไหนดีครับ” “ออฟฟิศเนตรได้ไหมคะ พอดีเนตรสั่งอาหารเที่ยงไว้แล้วด้วย” “ได้ครับ” ไม่นานนักพิรามเดินทางมาถึง พร้อมอาหารอร่อยในมือ เนตรดาวรีบจัดโต๊ะเพื่อเตรียมทานอาหารด้วยกัน เธอตักยำวุ้นเส้นเข้าปาก พิรามมองแล้วอมยิ้ม เขารู้ว่าน้องคนนี้กินจุแค่ไหน “อร่อยไหมเนตร” พิรามถาม แล้วยิ้มกว้าง “อร่อยค่ะ เจ้าโปรดเนตรแบบนี้ เนตรไม่ผิดหวังหรอกค่ะพี่ราม” “อร่อยก็ทานเยอะๆ นะ” “รับรองค่ะพี่ราม เนตรไม่เคยทานน้อยได้สักที” สองคนหัวเราะ แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ จบมื้ออาหาร พนักงานเข้ามาช่วยเก็บโต๊ะให้ เนตรดาวสบตาเห็นความหม่นเศร้าในนั้น นึกสงสารขึ้นมา ถ้านับวันเวลา สองวันก็ใกล้แต่งแล้ว แต่ทุกอย่างกลับพังทลายในพริบตา “พี่รามมีอะไรอยากปรึกษาเนตรหรือเปล่าคะ” เขาส่ายหน้า แล้วระบายลมหายใจ “เรื่องที่ควรให้เนตรรู้ เนตรก็รู้หมดแล้ว พี่เองก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังเนตร เพียงแต่... พี่รู้สึกสับสน ไม่รู้ควรทำอะไรดี” เนตรดาวยิ้มปลอบโยน “เนตรอาจไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้มากนัก แต่เนตรก็พูดได้เต็มปากเหมือนกันค่ะว่า ถ้าเนตรเจอแบบพี่ราม เนตรเองคงเลือกเหมือนพี่ค่ะ เพราะเนตรทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กับคนที่ทรยศเรา” เธอบอกตามตรง เพื่อนเธอคือคนผิด เขาหัวเราะในลำคอ “แต่อรไม่เข้าใจ ถ้าอรรักพี่ อรคงไม่ทำกับพี่แบบนี้” “เนตรเองก็ไม่เข้าใจอรเหมือนกันค่ะ เนตรพยายามเตือนอรแล้ว”  พิรามสบตา ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาสบายใจด้วยทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้ ยิ่งได้พูดคุยด้วยแล้ว ยิ่งมีความสุข ถ้าหากคนเคียงข้างเขาเป็นเนตรดาว คงดีไม่น้อยเลย “ขอบคุณเนตรมากนะ ที่คอยให้กำลังใจพี่” เธอยิ้มกว้าง “เวลาเนตรมีปัญหาพี่รามก็คอยช่วยเนตรเหมือนกันนี่คะ เรื่องแค่นี้ เนตรสบายมาก” พิรามสูดลมหายใจเข้าปอด เหมือนตนเองเข้ามาสู่พื้นที่ธรรมชาติ มันช่วยสร้างพลังแข็งแกร่งให้ เขาเองไม่ใช่คนมีเพื่อนเยอะ เนตรดาวเป็นน้องที่สนิทสนมที่สุดที่เคยมี “พี่คงต้องไปบอกแม่อรถึงเรื่องยกเลิกงานแต่ง พ่อกับแม่พี่ท่านเข้าใจแล้ว เสร็จแล้วต้องไปจัดการเรื่องโรมแรมกับออแกไนซ์ที่จ้างไว้อีก” “แล้วพี่รามไม่ต้องดูแลคนไข้เหรอคะ” “พี่ฝากเพื่อนไว้แล้วล่ะ ลางานไว้สามวัน กลับไปทำคงยุ่งน่าดู” “พี่รามมีอะไรให้เนตรช่วยไหมคะ” เขาส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่อยากให้เนตรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกรงอรนิสาอาละวาดจนเกิดเรื่องทะเลาะกันอย่างคราวก่อน “อย่าดีกว่าเนตร เป็นที่ปรึกษาพี่ก็พอแล้ว” “ค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นพี่กลับก่อนนะ ต้องไปทำธุระอีก” “เนตรไปส่งนะคะ” เนตรดาวบอก แล้วสาวเท้าไปยังประตู 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม