แต่ภูสิงห์ก็มาทำให้เสียเรื่อง พี่ชายเธอต้องหนีไปอีก เขายังจะตามไปทำไม ไปทำร้ายราเชนหรือเปล่า เธอไม่ยอมหรอกรู้ว่าคนโหดร้ายแบบภูสิงห์ไม่ยอมปล่อยพี่ชายของเธอไปแน่ จึงเลือกที่จะหยุดเขาไว้
ภูสิงห์ผลักหญิงสาวออกให้พ้นทาง แต่เธอกอดเอวเขาจากด้านหลังจนแน่น ไม่ยอมปล่อยถึงแม้เขาจะพยายามสลัดเธอออกก็ตาม
“ปล่อย ฉันบอกให้เธอปล่อย” ภูสิงห์ขู่ตะคอกเธอเสียงดัง แต่หญิงสาวก็ไม่ยอม เขาจะใช้กำลังสะบัดเธอออกไปก็ได้ แต่ครั้งนี้ไม่กล้าทำรุนแรง เพราะเหตุการณ์ในอดีตเขาเคยผลักเธอกระแทกกับ กระถางปูน ปลูกดอกไม้จนสลบ ยังเป็นเรื่องที่เขาเคยรู้สึกผิดกับเธอมาก่อน ... บ้าจริงคนอย่างภูสิงห์ไม่เคยใจอ่อนกับใคร
“ไม่ค่ะ นายสิงห์จะตามไปฆ่าพี่เชนใช่ไหม” หญิงสาวยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม
ภูสิงห์มองตามไปรู้ว่าไม่ทันแน่แล้ว จึงหันมาจัดการกับคนที่ขวางทาง กระชากแขนเธอออกจากตัวเขา และจับแขนเธอบีบแน่น
“โอ๊ย..เจ็บนะ” เธอเจ็บจนต้องร้องออกมา เขาบีบแขนเธอแรงอย่างไม่ปราณี
“เธอพูดอะไรกับไอ้เชน”
“... เปล่า...”
“ยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเธอติดต่อมันได้ต้องบอกฉัน เธอกล้าขัดคำสั่งเหรอ” ชายหนุ่มโมโห กำลังจะได้เบาะแส อยู่แล้วเชียว แต่เธอก็มาทำเสียเรื่อง มาขวางทางเขา ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายขวางจนทำให้ราเชนหนีไป
ถ้าเขาไม่เห็นหลังเธอไวๆ และเดินตามเข้ามา เชื่อได้เลยว่านรีรินไม่มีทางบอกเขาแน่นอนว่าเจอกับราเชน แสดงว่าพวกมันแอบติดต่อกัน แต่ไม่ให้เขารู้
คนที่มันกล้าขัดคำสั่งเขา ต้องถูกลงโทษ
ภูสิงห์ลากแขนหญิงสาวออกจากซอยมาที่รถ โดยไม่สนใจเสียง โอดครวญใด ๆ เปิดประตูรถได้ก็โยนเธอเข้าไปในรถ
“ถ้าเธอกล้าลงจากรถ เราจะได้เห็นดีกัน” เขาปิดประตูใส่หน้าเธอ นรีรินได้แต่บีบนวดแขนที่ยังเจ็บแปลบ ไม่กล้าลงจากรถ เพราะตอนนี้ภูสิงห์ดูน่ากลัวมาก เธอจึงไม่กล้าไปแหย่ให้อารมณ์เขาขึ้นอีก
ภูสิงห์ขับรถด้วยความเร็ว สีหน้าทะมึนดูบึ้งตึง ไม่พูดอะไรออกมา กดดันให้นรีรินรู้สึกกลัวเขาจริงๆ เหมือนวันนั้น วันที่เขาเหวี่ยงเธอกระแทกกระถางดอกไม้จนสลบไปเมื่อสิบปีก่อน เขาหันกลับมามอง และเอ่ยถามเธอขึ้นมา
“เธอนัดเจอกับไอ้เชนใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ”
“คุยอะไรกับมัน”
“ยังไม่ได้พูดอะไรค่ะ”
ภูสิงห์หันมามองหน้าเธอ ก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อโดยไม่พูดอะไรกับเธออีก นรีรินจึงหันหน้าออกไปมองนอกรถ เห็นรถกำลังวิ่งไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
“นาย..นายสิงห์จะไปไหน..เรา.ไม่ได้กลับไร่เหรอ??” หญิงสาวเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติจึงเอ่ยถามเจ้านายออกไป
“ในเมื่อเธอไม่พูด ฉันก็จะทำให้เธอพูด” บอกเสร็จเขาก็เลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เข้าไปจอดรถในช่องจอด
มีเด็กวิ่งมาปิดม่านให้ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูลงไปและเดินอ้อมมาฝั่งที่นั่งของเธอ นรีรินขัดขืนไม่ยอมลง แต่สู้แรงเขาไม่ได้ ภูสิงห์ลากเธอเข้าไปในห้องและโยนเธอขึ้นไปบนเตียง ก่อนจะเดินไปพูดบางอย่างและยื่นเงินให้ เด็กคนที่มาปิดม่านยืนโค้งคำนับและเดินจากไป เขาจึงปิดประตูและล็อคห้อง
มือเท้าของเธอเย็นเฉียบ ใจเต้นแรง ด้วยความกลัว และตื่นตกใจ เมื่อเห็นภูสิงห์สาวเท้าเข้ามาใกล้ เธอจึงขยับตัวถอยไปจนชนกับหัวเตียง ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเขายื่นมือมาจับข้อเท้าเธอ และดึงกระชากอย่างแรงไปที่ปลายเตียง
“นายสิงห์จะทำอะไรริน”
“ฉันถามเธออีกครั้งว่าไอ้เชนมันอยู่ไหน คุยอะไรกับเธอ”
“รินไม่รู้จริงๆ และยังไม่ได้คุยอะไรกัน”
“ฉันเห็น!! เธอกำลังคุยกับมัน” ชายหนุ่มไม่เชื่อ
ภูสิงห์ล้มตัวลงมาทับเธอไว้ นรีรินจะดิ้นหนีแต่ไม่ทันแล้ว เขาจับข้อมือเธอทั้งสองข้างกดไว้ตรงศีรษะด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างของเขาเอื้อมมาปลดกระดุมชุดของเธอทีละเม็ดๆ อย่างกดดัน
“อย่านะ...นายสิงห์ รินไม่รู้จริงๆ ขอร้องอย่าทำอะไรรินเลยนะ” นรีรินได้แต่ส่ายหน้าร้องห้าม พร้อมกับขอร้องด้วยความหวาดกลัว
ชายหนุ่มไม่ฟังเสียงห้ามหรือขอร้องใด ๆ ตอนนี้ต้องการเพียงความจริงเท่านั้น มือหนาค่อยๆ ล้วงเข้าไปในชุดทำงานของเธอ ก่อนจะกระชากชุดเธอออกจนเหลือแต่ซับใน นรีรินอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เมื่อรู้ตัวก็ ออกแรงดิ้นรนขัดขืน แต่แค่ขยับตัวก็ทำไม่ได้
“เธอจะบอกหรือไม่บอก” ภูสิงห์ก้มลงไปใช้ปากงับลงไปตรง หน้าอกเธอดูดดึงสัมผัสภายนอกทั้งที่ยังมีซับใน แต่กลับสร้างความรู้สึกแปลก ๆ ให้เธอ
“ริน..ไม่รู้จริง ๆ”
“ได้...ถ้าเธอไม่พูด ฉันก็จะทำตามวิธีของฉัน”
ชายหนุ่มต้องการบีบบังคับหญิงสาวให้เธอหวาดกลัวจะได้ยอมเปิดเผยความจริงออกมา แต่พอได้สัมผัสเนื้อเนียนนุ่ม หน้าอกอวบใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า กลับกระตุ้นให้ความต้องการของเขาพุ่งทะยานขึ้นมา
เข้าก้มลงไปประกบปากจูบเธอ หญิงสาวเม้มปากแน่น ส่ายหน้าหนีขัดขืนการกระทำของภูสิงห์ ทำให้เขาจูบลงตรงใบหูเธอแทน เขาเป่าลมเบาๆ เข้าไปในรูหูเธอ นรีรินขนลุกเกรียว ชายหนุ่มไม่สนใจอาการขัดขืนแต่ก้มลง ดูดเลียจากติ่งหูไล่ลงมาจนถึงริมฝีปากเธออีกครั้ง เหมือนหยอกเอินและกลั่นแกล้งเธอให้หวาดกลัว
“อย่า...ปล่อยรินไปเถอะ รินไม่รู้...” หญิงสาวอ้าปากพูดเพื่อขอร้อง ชายหนุ่มจึงอาศัยจังหวะนี้ประกบจูบ มือหนาบีบเคล้นหน้าอกจนเธอเผลอร้องออกมา เขาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ดูดดึงจนลิ้นพันกัน ก่อนจะเพิ่มระดับขึ้นเป็นจูบดูดดื่ม ดูดกลืนวิญญาณของเธอจนตัวอ่อนระทวย
ในเมื่อเธอมันก็แค่ลูกคนงาน และลูกน้อง ส่วนเขามีทั้งเงินและอำนาจอยู่ในมือ อยู่เหนือทุกคน ภายใต้อาณาเขตไร่ส้มภูลม เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ ทำไมเขาต้องอดทน
อยากได้เธอ เขาก็ต้องได้