“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ” อดิศักดิ์ผายมือให้นรีรินเดินนำไปก่อน
นรีรินรู้สึกเย็นวูบวาบที่แผ่นหลัง เชื่อได้เลยว่าดุจฟ้าที่เมื่อกี้ยังส่งยิ้มหวานหยดให้กับชายหนุ่ม ตอนนี้คงจ้องจะกินเลือดกินเนื้อเธออยู่ข้างหลังแน่นอน
นาน ๆ จะได้เอาคืนสาวสวยมันก็ดีแบบนี้แหละ
ช่วงบ่ายนรีรินเข้ามานั่งทำงานปกติหลังจากไปกินข้าวกับอดิศักดิ์มา ไม่ใช่ร้านอาหารหรูหรา แต่เป็นโรงอาหารไร่ส้มภูลม ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพียงแค่อยากแกล้งดุจฟ้าจึงออกไปกินข้าวกับเขา ตอนนี้มานั่งคิดแล้วได้แต่บอกตัวเองว่า... ไม่น่าเลย
เพราะเธอเองเลือกจะกินที่โรงอาหารของไร่ไม่ได้ไปไหน ตอนนั้นไม่ทันคิด หรือจะบอกว่าคิดน้อยไปหน่อยก็ได้ แต่พอเดินเข้าไปมีคนหลายกลุ่มที่มองมายังพวกเธอ ป่านนี้คงเกิดเสียงลือใหม่อีกแล้ว
เฮ้ยยยย...
ที่นี่สังคมค่อนข้างแคบ รู้จักกันเกือบทุกคน ใครทำอะไรที่ไหนรู้หมด ก็ไม่รู้ว่าการที่เธอเผลอสร้างข่าวลือใหม่ มันจะกลบข่าวลือของภูสิงห์กับเธอไปหรือยัง ดีไม่ดีอาจจะเป็นสองข่าวตีคู่กันมาเลยมั้ง
“เป็นไรเปล่าน้องริน พี่เห็นเรานั่งถอนหายใจหลายสิบรอบแล้วนะ”
“เฮ้!! พี่ตะวันตกใจหมดเลยค่ะ” นรีรินนั่งหันหลังให้ประตู กำลังเก็บเอกสารเข้าแฟ้ม แต่ยังไม่เสร็จเพราะมัวแต่นั่งเหม่อ พอได้ยินเสียงทักจากข้างหลังเธอจึงสะดุ้ง รีบหันหลังไปมองไม่ใช่ตะวันคนเดียวที่ยืนส่งยิ้มมาให้ แต่ยังมีเจ้านายยืนส่งสายตาดุไม่พอใจอยู่ข้างๆ กัน
“ถ้าคิดจะหาผัวรวยแล้วไม่ต้องทำงาน ปัญญาอ่อนแบบนี้ก็ออกไปเลย เปลืองข้าวที่ไร่” มาถึงยังไม่ทันทักทายกัน เธอก็โดนกัดแล้ว ข่าวลืออะไรจะไวขนาดนั้น
“ก็อยากได้เหมือนกันแหละผัวรวย” นรีรินบ่นเบา ๆ มีเพียงตะวันที่หัวเราะออกมาเบา ๆ ส่วนอีกคนถลึงตาใส่ เธอพูดผิดตรงไหนไม่ทราบ
“วันนี้น้องรินพาไปเปิดตัวมาเหรอ เห็นคนพูดถึงกันเยอะ จะช่วยนายแก้ข่าวลือด้วยวิธีนี้ก็ไม่กระซิบบอกกันให้รู้ก่อนเลยนะ หึ หึ” ตะวันเอ่ยแซวหญิงสาวรุ่นน้อง
“ก็นะ...เห็นคนลือข่าวไม่จริง เราก็ต้องเอาเรื่องจริงไปบอก แบบนี้แหละดีสุดแล้วค่ะพี่ตะวัน” เธอรับมุขชายหนุ่มรุ่นพี่ทันที
“ฉลาดน้อยแบบเธอก็แก้ได้แค่นี้แหละ” คำพูดของเจ้านาย นรีรินต้องคอยท่องไว้ อย่า อย่า อย่านะ อย่าไปเถียง!!
นรีรินมีธุระต้องไปธนาคาร และก็ทำธุระหลายอย่างที่ตะวันฝาก พอเดินลงออฟฟิศมากำลังมองหาคนขับรถ ก็เจอกับเจ้านายที่เดินไปโรงจอดรถ เธอจึงชะงักเท้า รอให้เขาขับรถออกไปก่อน
“จะไปไหน??” ภูสิงห์ขับรถออกมาจอดเทียบตรงที่เธอยืนอยู่
“รินจะไปในเมืองค่ะ” เธอบอกกล่าวเขาเสร็จทำท่าจะก้าวถอยหลังออกห่างจากรถของเจ้านาย
“ขึ้นรถมาสิ”
เกิดจะมาใจดีอะไรตอนนี้ นรีรินร้องอยู่ในใจ “เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะรินนัดคนขับรถแล้ว” เธอรีบบอกอย่างเร็ว ใครจะไปอยากนั่งรถด้วย แค่ครั้งเดียวก็เข็ดเกินพอแล้ว
“ชอบผลาญเงินของไร่ฉันจริงๆ จะใช้ทำไมรถหลายคัน ขึ้นมาอย่าพูดมาก” เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ
ถามเธอบ้างหรือเปล่าว่าอยากไปด้วยไหม
“ค่ะ” เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งอย่างจำยอม มือยังไม่ทันปิดประตูให้เรียบร้อย รถก็กระชากตัวพุ่งออกไปทันที เธอต้องรีบดึงประตูปิดอย่างเร็ว หัวใจจะวาย เกือบแล้ว เกือบลงไปนอนเอาหน้าแนบกับพื้นปูนซีเมนท์
เคยทำอะไรที่เป็นปกติเหมือนชาวบ้านเขาบ้างไหม ไอ้!!! เจ้านาย
หญิงสาวเดินออกมาจากธนาคาร เมื่อเวลาใกล้เที่ยง เธอตัดสินใจเดินเข้าไปในตลาด เผื่อจะซื้ออะไรกินแล้วก็ไปทำธุระต่อ นรีรินยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาเจ้านาย บอกเขาเลยว่าเธอจะกลับเอง ไม่มีทางนั่งรถไปกับเขาอีกเป็นอันขาด
“เอ๊ะ!!” เสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจของนรีริน
พอตั้งสติได้เธอก็รีบวิ่งเข้าไปในซอยข้างตลาด เห็นด้านหลังผู้ชาย ใส่เสื้อสีดำไกลๆ กำลังจะเลี้ยวขวาตรงหัวมุม เธอรีบวิ่งตามไป จนสุดทางแล้วเลี้ยวตามไป แต่ไม่เจอใคร
เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อจากตรงนี้ไปเป็นทางตรง และเธอมั่นใจว่าตาไม่ฝาดแน่นอน จึงลองเดินลึกเข้าไปอีก เผื่อจะเจอกับคนที่เธอเห็น และคิดว่าน่าจะใช่
“ว้ายยย!!” นรีรินตกใจ เมื่อมีมือยื่นมาจับแขนเธอ และกระชากเข้าไปหลบตรงเสาไฟส่องสว่างของถนน พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากเธอเอาไว้
“พี่เอง” ราเชนเอ่ยกับน้องสาว เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งเงียบแล้ว
“พี่เชน!! รินว่าแล้วเห็นด้านหลังคุ้นมาก” นรีรินอุทานออกมาด้วยความดีใจ แต่พอมองหน้าซีดเซียวของราเชนเหมือนคนไม่สบายก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“พี่ไม่สบายเหรอ หน้าซีดมาก”
“เปล่า ไม่เป็นไร แล้วนี่ตามพี่มาทำไม”
“เอ้า...เห็นว่าคุ้นๆ ก็จะตามมาดูว่าใช่เปล่า ดีใจนะที่เจอพี่ กลับมาแล้วทำไมไม่ยอมแวะไปที่บ้าน นี่ถ้าพ่อรู้ว่าพี่กลับมาคงดีใจมากแน่ๆ เราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า รินมีเรื่องจะถามเยอะแยะเลย ไปกิน...” นรีรินพูดยังไม่ทันจบ ราเชนก็กระตุกแขนจนหลุดจากมือเธอ และออกตัววิ่งเข้าไปในซอยลึก
นรีรินตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้ยินเสียงคนวิ่งมาทางนี้จึงหันกลับไปมองด้านหลัง ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังจะถึงตัวเธอคือ ภูสิงห์
“นายสิงห์!!”
ภูสิงห์วิ่งมากำลังจะผ่านหน้าเธอ นรีรินตัดสินใจยื่นมือและเอาตัวไปขวางทางไว้ ด้วยกลัวว่าเจ้านายจะตามไปทันและลงมือทำร้ายราเชน ทั้งที่เมื่อครู่เธอกำลังจะชวนเขาไปกินข้าวและถามความจริงเรื่องแอบเข้าไปในไร่ส้มภูลม อยากรู้ว่าเข้าไปหาพวกเธอแค่นั้นใช่ไหม หรือมีอะไร ทำไมภูสิงห์ถึงใส่ร้ายว่าเป็นขโมย