หลายวันต่อมา
โรงแรม ณ ภูเก็ต
วันนี้เป็นวันที่ฉันบินลัดฟ้าจากกรุงเทพมาที่ภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของพี่พิมพี่สาวของฉันเอง มาที่นี่ฉันก็ไม่ได้ออกไปไหนเอาแต่เก็บตัวอยู่ที่ห้องในโรงแรมที่พี่พิมจองไว้ให้ ส่วนเรื่องของพี่บัส...ฉันทำใจได้แล้วเขาส่งข้อความหรือโทรมาบ้างแต่ฉันก็บล็อกไป แล้วก็เรื่อง...คุณสิงฉันจัดการตัวเองด้วยการกินยาคุมเรียบร้อยและโชคดีที่ฉันไม่ได้แพ้ยาคุมเลยไปผ่านไปด้วยดี ฉันต้องรู้จักป้องกันตัวเองเพราะเรื่องคืนนั้นฉันไม่รู้ว่าเขาป้องกันหรือเปล่า... ฉันยังไม่อยากท้องป่องก่อนเรียนจบหรอกนะ แล้วก็มันเป็นแค่คืนเดียวเขาคงไม่ได้จดจำมันเองฉันก็จะพยายามลืมมันเช่นกัน...
“เฮ้อออ เจ้าขาเลิกนึกถึงเขาและโฟกัสเรื่องเรียนอย่างเดียวพอ!” ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะค่อย ๆหลับตาลงงานของพี่พิมฉันมาเป็นแค่แขกรับเชิญเท่านั้นไม่ได้มีบทบาทอะไร...
ฉัมีความฝัน... นอกจากเรื่องความรักแล้วฉันมีความฝันที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือการเป็นดีไซเนอร์ฉันชอบออกแบบเสื้อผ้าและตัดเองบ่อยครั้งจึงเลือกเรียนแม้ว่าค่าเทอมมันจะแพงฉันก็พยายามทำงานหาเงินเพื่อเรียนมัน จะให้ขอแต่ครอบครัวของพี่พิมไม่ได้สิ ฉันต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเองและแน่นอนว่าไอดอลในวงการแฟชั่นนั้นก็คือคุณสิง เขาเป็นผู้ชายแต่กลับออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงสวย ๆ ออกมากมาย แต่ขอผู้ชายก็มีนะทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับชายหญิงเขาทำเองทั้งหมด
“เก่งจังนะ” แต่ใครคิดละว่าจะเผลอไปนอนกับไอดอลของตัวเองแบบนั้นและเหมือนเขาจะชอบแกล้งซะด้วยสิที่ทำ ที่พูดแบบนั้นก็คงแกล้งฉันเท่านั้นแหละใครมันจะมาจริงจังกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกันละ
“อีกแล้วคิดถึงเขาอีกแล้ว!!!” พรึ่บ!! ฉันพลิกตัวเอาหน้ามุดหมอนดิ้นไปมาเมื่อนึกถึงเขา...คนที่เอาครั้งแรกของฉันไป...
ก๊อก ๆ
พรึ่บ!
เสียงเคาะประตูทำให้ฉันที่นอนอยู่เด้งอยู่ขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่ประตูส่องดูนิดหน่อยว่าใครมา..
แกร๊ด! ฉันเปิดประตูเมื่อมองแล้วเป็นพนักงานของโรงแรม
“มีอะไรเหรอคะ?” ฉันถามอย่างสงสัย
“คุณพิมให้มาตามคุณเจ้าขาค่ะให้ไปที่ห้องแต่งตัว” เรียกทำไมฉันอยากนอนนะ -_- ต่อให้นั่งเครื่องบินมาแต่ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
“อ่อค่ะ” ฉันไม่ได้ถามอะไรมากมายเพราะพี่พิมเรียกนิปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วย
“ฉันจะนำทางไปนะคะ” และฉันก็เดินตามพนักงานนของโรงแรมฉันบอกหรือไงว่าที่นี่เป็นโรงแรมของสามีพี่พิมรวยเกิ้น!
แต่ว่า...ถ้าแต่งงานแล้วพี่เขาต้องไปเมืองนอกฉันต้องเหงาแน่ ๆ เลย
“ถึงแล้วค่ะ” พนักงานยืนอยู่ที่หน้าห้อง ๆ หนึ่งมันเขียนว่า ‘ห้องแต่งตัวบ่าวสาว’
“ห่างกันไม่ได้เลยหรือไงนะ...ขอบคุณมากนะคะ^^” ฉันบ่นเบา ๆ นิดหน่อยก่อนจะขอบคุณพนักงานที่บ่นเพราะอิจฉาขนาดจะแต่งตัวยังต้องใช้ห้องเดียวกันอีก
ก๊อก ๆ
“เข้ามาเลยยยยยย” เสียงของพี่พิมตอบกลับมาฉันก็เปิดประตูเข้าทันที
“พี่พิมมมม เรียกเจ้าทำไมเนี่เจ้าจะนอนนะรีบ ๆ พูดมาเลยเพราะเหนื่อยยยยจากการเดินทางมากมาย..” กึก! เมื่อเข้ามาแล้วฉันก็พูดอย่างไม่ลืมหูลืมตา พูดไฟแลบก่อนจะพบว่าในห้องนี้ไม่ได้มีพี่พิมคนเดียว...
แต่มีเพื่อน ๆ เขาอีกหลายคน...
“แหะ ๆ ขอโทษค่ะ สวัสดีพวกพี่ ๆ ด้วยนะคะ” ฉันกล่าวขอโทษก่อนจะทักทายพวกเขาที่น่าจะเป็นเพื่อนของพี่พิมกับพี่เตเพราะบางคนฉันก็เคยเห็นหน้ามาบ้างแล้ว
“ไม่เป็นไรจ้า^^” เพื่อนของพี่พิมส่งยิ้มให้ฉัน
“ค่ะ แหะ ๆ”
“มาแล้วก็เร็วเลยยัยตัวแสบ~” หมับ! พี่พิมเข้ามาก่อนจะหมุนตัวของฉันไปมาจนฉันเริ่มเวียนหัวตาลายแล้วเนี่ย @_@
“พี่พิมมมม~เลิกหมุนตัวเจ้าก่อนนนนน” ฉันบอกพี่พิมก่อนที่ตัวเองจะล้มไปกองที่พื้นซะก่อน
“แกนี่แหละเหมาะ! ปรับไซต์นิดหน่อยใช้ได้” เธอพูดเองเออเองฉันงงนะ!
“อะไรกันเหรอ?” ฉันเอียงคอถาม
“พอดีเพื่อนพี่อะดิมันจะไม่ทันงานแต่งพรุ่งนี้เพราะฉะนั้นแกช่วยเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พี่ทีนะ” ฮะ?!
“ตะแต่เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ?”
“ไม่เป็นไรเจ้าขาแค่เดินตามพี่ ๆ มาก็พอ” เสียงเพื่อนพี่พิมพูดขึ้น
“แกช่วยพี่หน่อยไม่ได้เหรอ...พี่ไม่รู้จะไปพึ่งแล้วเนี่ย”
“กะก็ยังไม่บอกเลยว่าจะไม่ช่วย...” ฉันพูดเสียงเบาพี่พิมเป็นญาติฉันนะแถมเหมือนพี่สาวแท้ ๆ เลยด้วยเรื่องแค่นี้ทำไมจะช่วยไม่ได้ละ
“ดีจังขอบคุณน้า~~ จิมมี่ช่วยเอาตัวของเจ้าขาไปวัดหน่อย”
“ได้ครับคุณพิม” เสียงของผู้ชายดังขึ้นน่าจะเป็นคนจัดการเรื่องชุดแต่งงานของพี่พิม
“ละแล้วชุดมันจะเข้ากับเจ้าเหรอ?” ฉันถามอย่างไม่มั่นใจเพราะชุดของเพื่อนเจ้าสาวก็ถูดออกแบบมาเป็นพิเศษและเพื่อนของพี่พิมก็สวย ๆ ทั้งนั้นด้วย
“แกสวยใส่อะไรก็สวยแค่มั่นใจเท่านั้นและอีกอย่างจะตัดใหม่ก็ไม่ทันแล้วด้วยคงทำได้แค่ปรับขนาดของเพื่อนพี่ให้เท่าของเจ้าเท่านั้นแหละ”
“อะอ๋อ ค่ะ” ฉันพยักหน้าเข้าใจเพราะเรียนเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าถึงรู้ว่าการจะทำแต่งละชุดนั้นมันยากและต้องใช้เวลาขนาดไหน
“เชิญครับคุณ...”
“เจ้าขาค่ะ^^” ฉันบอกกับคุณจิมมี่ที่จะเป็นคนวัดตัวให้ฉัน...
“ขออนุญาตนะครับ” ฉันยืนนิ่งให้คุณจิมมี่วัดตัว...
“กูวัดเอง!” และแล้วเสียงที่ไม่คาดคิดก็ดังขึ้นมา
“คุณสิง..” ฉันพึมพำเบา ๆ ขนาดไม่เห็นตัวก็ยังรู้เลยว่าเป็นเขา ฉันลืมไปเลยว่างานนี้ใช้ชุดต่าง ๆ จากแบรนด์ราชสีห์..
“ผมจัดการเองครับ...”
“กูว่ากูพูดแล้วนะว่าจะวัดเอง!” เสียงดุ ๆ ของเขาทำเอาฉันสะดุ้งไปด้วย
“คะครับ” เสียงฝีเท้าของคุณจิมมี่เดินออกไปตรงนี้เป็นเหมือนผ้าม่านเบา ๆ กลั้นอยู่เท่านั้น
ตึก...ตึก..ตึก...
เสียงฝีเท้าที่เดินมาใกล้ฉันทำเอาตัวฉันสั่นไปหมด...
“คิดถึงผัวไหมครับกวางน้อย?” พรึ่บ!! ฉันรีบหันไปหาเขาทันทีเมื่อเขาพูดแบบนั้นออกมา
“ฉันไม่ชะ อื้อออออ~” ยังไม่ได้พูดอะไรคุณสิงก็กดจูบลงอย่างแรง
ปึก! ปึก! ฉันทุบอกของเขาอย่างแรงเพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นที่นี่ไม่ได้มีแค่เรานะ!
“บอกแล้วว่าถ้าแทนตัวเองว่าฉันจะโดนอะไร?” ฉันทำหน้างงนิดหน่อยก่อนนึกขึ้นมาได้...
“ถ้าแทนตัวเองว่าฉันเมื่อไหร่ฉันจะบดปากเธอให้ดู”
“0x0” ฉันตกใจมากและรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที
“หึ ทำตัวน่ารัก ๆ หน่อยเจ้าขา...” เขาพูดก่อนจะเดินวนรอบตัวของฉันหนึ่งรอบและ...เริ่มวัดตัวของฉัน
“อ๊ะ!” ฉันร้องตกใจเมื่อคุณสิงวัดที่หน้าอกของฉันโดนไม่บอก
“กางแขนสิ” ฉันทำตามที่เขาบอกแต่ก็แอบตาขว้างใส่เขาไป ชิ!
“วะวัดหน้าอกนานแล้วนะคะ” ฉันพูดขึ้นเมื่อเขาไม่ยอมเปลี่ยนที่สักที
“เหรอ?”
“ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย....ต่อไปก็เอวสินะ” พรึ่บ!
“คุณสิง!” ฉันเรียกเขาอย่างดุ ๆ แม้มันจะไม่เหมือนดุก็ตามก็เขาวัดเอวแต่ไม่วัดเปล่าเขาใช้รัดวัดตัวดันฉันให้เข้าไปหาเขา
“ดุเหรอนั่นเหมือนแมวเลย หึ”
“วัดดี ๆ ได้ไหมคะ!?” ฉันพยายามดันอกของคุณสิงออก
“ฉันเป็นมืออาชีพมากพอเธอก็รู้นิ..” แต่ที่ทำไม่เห็นมืออาชีพตรงไหนเลย!
“จะจะทำอะไรคะ0-0!” ฉันร้องถามอย่างตกใจเมื่อเขาทรุดลงกับพื้น
“เจ้าขา!!เป็นอะไรหรือเปล่า???” เสียงพี่พิมกระโกนถาม
“มะไม่มีอะไรค่ะ!!”
“วัดขาไง?” เขาตอบนิ่งและวันนี้ฉันดันใส่กระโปรงขาสั้นมาไง!!
“ไม่เห็นจำเป็นต้องวัดเลยนะคะ”
“มันเป็นกระโปรงเลยต้องวัดไง?” เขายังเฉไฉอยู่
“เจ้าเรียนออกแบบนะคะตัดเดรสวัดแค่สะโพกก็พอแล้วค่ะคุณสิง...”
“เอ้าเหรอ? ฉันมันพวกงานละเอียดน่ะสิแม้แต่...ก็ต้องวัด”
“0/////0” ฉันรู้สึกหน้าร้อนผาวทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเว้นก่อนพูดจบสมองฉันมันคิดไปไกลแล้วไง -//-
“หึ ฉันหมายถึงต้นแขนนะเธอคิดไปไหนหน้าแดงเชียว?”
“กะกะกะก็ต้นแขนนั้นแหละ!!”
อย่าสั่นเสียงอย่าสั่น!!!