“เมื่อผมโดนยัดเยียดตำแหน่งเพื่อนที่ดีที่สุดให้ ทั้งที่ใจผมคิดกับเธอมากกว่าเพื่อนตั้งแต่แรก วันนี้ผมต้องการจะข้ามเส้นจากเพื่อนไปเป็นคนรัก”
เรย์ & วิริน นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ
ก้าวแรกที่เธอก้าวเท้าเข้าเขตมหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษาปีหนึ่ง รถยนต์คันหรูหักเลี้ยวเข้ามาในมหาวิทยาลัยและขับด้วยความเร็วจนเกือบชนเข้ากับ วาริน หญิงสาวที่กำลังเดินข้ามถนนมาฝั่งที่มีฟุตบาท คู่กรณีคนขับรถไม่แม้แต่จะลงมากล่าวขอโทษเธอเลยสักนิด
เรย์ เอาแต่มองใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวจนรถที่ขับตามหลังมาจอดติดยาวหลายสิบคัน และก่อนที่เขาจะถูกสาปแช่งไปมากกว่านี้ควรต้องรีบขับรถออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด
เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวออกพร้อมกับเหยียบคันเร่งเร่งเครื่องขับออกไปด้วยความเร็วทิ้งไว้เพียงกลุ่มควันและกลิ่นน้ำมันเหม็นคลุ้ง
ลานกิจกรรมเป็นที่ที่ให้เรย์และวารินมาเจอหน้ากันเป็นครั้งที่สอง ชายหนุ่มเริ่มวางแผนให้เธอมาอยู่ใกล้ตัวมากที่สุดนั่นก็คือ สถานะเพื่อน เพื่อนที่เขาไม่เคยคิดกับเธอแค่เพื่อนตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงตอนนี้
“เราสองคนมาช้า เดินมาด้านหน้าเลยค่ะ” เท้าเล็กเดินไปด้านหน้าตามคำสั่งของรุ่นพี่ มือสองข้างประสานกันแน่นอยู่หน้าขาเกิดอาการประหม่า
“วันนี้เปิดเทอมวันแรกทำไมถึงมาสายคะ”
“เอ่อคือ..คือหนูพึ่งเคยเดินทางในกรุงเทพฯ วันแรกค่ะเลยกะเวลาเดินทางไม่ถูก” วารินตอบกลับไปตามความจริงเพราะวันนี้มหาลัยต่าง ๆ ก็เริ่มเปิดเทอมรถจึงติดมากกว่าปกติ ขนาดวันนี้เธอเผื่อเวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงยังมาสาย
“โอเคค่ะพี่เข้าใจ พวกเราหลายคนอาจจะเป็นเด็กต่างจังหวัดยังไม่คุ้นชินกับการเดินทางในกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่ วันหลังก็เผื่อเวลาเดินทางกันด้วยนะคะ เข้าไปนั่งรวมแถวกับเพื่อนได้ค่ะ” เมื่อได้รับคำอนุญาตจากรุ่นพี่วารินและเพื่อนอีกคนก็ไม่รอช้ารีบเดินดุ่ม ๆ มานั่งลงต่อจากเรย์ที่นั่งอยู่ท้ายแถว
“เธอเราชื่อไนร่านะ เธอชื่ออะไรเหรอ” หญิงสาวที่นั่งถัดจากวารินสะกิดด้านหลัง
“เราชื่อวารินน่ะ” วารินตอบกลับน้ำเสียงเป็นมิตร
“นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่อไนร่าส่วนนี่ชื่อวาริน” ไนร่าเอื้อมมือไปสะกิดแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าวาริน จนเจ้าของแผ่นหลังกว้างเอี้ยวตัวหันมา
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม
“อืม” ใบหน้าเรียบนิ่งตอบกลับสั้น ๆ สายตาคมเหลือบมองหน้าวารินแวบหนึ่ง สายตาทั้งสองประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนที่เรย์จะหันหน้ากลับไปทันที
ทุกคนนั่งฟังรุ่นพี่ชี้แจงกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถูกปล่อยแยกย้ายไปตามสาขาของแต่ละคน
“วารินเธอเรียนสาขาไหนเหรอ ฉันเรียนสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business)” ไนร่าเอ่ยถามวารินขณะที่ทั้งสองเดินแยกแถวออกมา
“สองสาวเรียนคณะเดียวกันกับพวกเราเลย สนใจมาเป็นเพื่อนกับพวกเราไหมครับ” ยังไม่ทันที่วารินจะตอบคำถามของไนร่า เทมป์ที่เดินอยู่ด้านหลังก็พูดแทรกเข้ามาดื้อ ๆ
“ได้สิ พวกเราก็ยังไม่มีเพื่อนเหมือนกัน” ไนร่าตอบกลับพร้อมจูงมือวารินเดินไปทางสามหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“ถ้างั้นขอแนะนำตัวก่อนเลย ฉันชื่อเทมป์ คนนี้ชื่อโซน ส่วนไอ้นั่นชื่อเรย์”
“ฉันชื่อไนร่า ส่วนนี่วาริน” สายตาเรียบนิ่งมองหน้าวาริน ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นานและเป็นวารินที่ต้องเบนหน้าหลบสายตาไปทางอื่น
“อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้าคลาสแรก พวกเราไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันดีกว่า”
นี่คือความสัมพันธ์ที่ชายหนุ่มตั้งใจสร้างมันขึ้นมา คือความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ มากกว่าเพื่อน
"นายทำแบบนี้ ฉันถามนายจริงๆ เถอะ นายเคยเห็นฉันเป็นเพื่อนนายไหม"
"ก็ไม่คิดอยากเป็นเพื่อนตั้งแต่แรก"
"นายหมายความว่าไง"
"หายโง่เมื่อไหร่ก็จะรู้เองแหละ"
ระยะห่างที่พยายามรักษามานานหลายปีกำลังจะพังลงเพียงเพราะความหึงหวงที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน กำแพงที่สร้างไว้กำลังพังลง กำแพงคำว่าเพื่อนและจะกลายเป็นมากกว่าเพื่อน