ขโมย

1411 คำ
“โบ้แก้มมาเล่นด้วย คิดถึงกันไหม?” ฉันเรียกไอ้โบ้ที่มันกำลังหลับอยู่ แต่ก็ไม่มีวี่แววที่มันจะตื่นง่ายๆ ไอ้หมาตัวนี้ขี้เซาชะมัด “โบ้…” “ไอ้โบ้!” ฉันตะโกนเรียกมันจนสุดเสียง และในที่สุดมันก็ลืมตาตื่นมาจนได้ ถ้ามันไม่ตื่นฉันคิดว่ามันตายแล้วล่ะฉันเสียงดังขนาดนั้น เหอะ!ป้าวิเก็บมันมาเฝ้าบ้านจริงๆใช่ไหมเนี่ย? บ๊อก! บ๊อก! บ๊อก! ไอ้หมาบ้านี่มันลืมตาขึ้นมาได้ มันก็บิดขี้เกียจและก็ส่งเสียงทักทายฉัน รู้หรอกน๊าว่าไม่มีเพื่อนเล่นน่ะ “เดี๋ยวแก้มเปิดประตูให้นะโบ้ แล้วเดี๋ยวเราไปเล่นกัน” ฉันบอกกับเจ้าหมาเด็กอย่างไอ้โบ้ แต่ถึงมันจะเป็นหมาเด็กมันก็ตัวโตไม่เบาเลยล่ะแรงมันเยอะมาก และทันทีที่ฉันเปิดประตูกรงของมันออกมา มันก็กระโจนเข้าใส่ฉันจนล้มลงแล้วมันก็ส่งเสียงหงิงๆ พร้อมกับเลียหน้าฉันจนชุ่มไปด้วยน้ำลายของมัน “พอก่อนโบ้เดี๋ยวแก้มไปเอาสายคล้องก่อนนะ แล้วเราค่อยออกไปเล่นกัน” ฉันดันตัวไอ้โบ้ออกแล้วยันตัวลุกขึ้นยืนปัดเศษหญ้าที่ติดตามตัวออก แล้วหมุนตัวไปหยิบสายคล้องสีน้ำเงินของไอ้โบ้ “โบ้มาให้แก้มใส่สายคล้องก่อนเร็ว” ฉันหยิบสายคล้องพร้อมกับเดินไปหาไอ้โบ้ ที่มันยืนกระดิกหางรออยู่ก่อนแล้ว แต่มันเป็นอะไรของมันไม่รู้ อยู่ดีๆมันก็วิ่งหนีฉันไปเฉยเลย “ไอ้โบ้หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าวิ่งหนีนะเว้ย” “ไอ้หมาบ้า อย่าให้ฉันจับแกได้นะ” “โอ๊ย! เหนื่อย…” ฉันวิ่งตามไอ้โบ้จากหลังบ้าน มาหยุดหอบหายใจหนักๆอยู่บริเวณหน้าบ้าน เด็กอ้วนน้ำหนักเกินอย่างฉันวิ่งตามหมาอย่างไอ้โบ้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่โชคยังดีที่ไอ้โบ้มันคงจะสงสารฉันอยู่บ้าง เพราะว่ามันวิ่งมาหยุดยืนพร้อมกระดิกหางอยู่ตรงรั้วบ้าน “หยุดอยู่ตรงนั้นนะโบ้เดี๋ยวแก้มเดินไปหา แล้วอย่าวิ่งล่ะแก” ฉันพูดกับไอ้โบ้พร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหามัน หวังจะเอาสายคล้องในมือไปใส่ให้มัน ไอ้โบ้ยอมนิ่งอยู่กับที่ ขณะที่ฉันก็เดินเข้าไปประชิดตัวมันเรื่อยๆ แต่พอมันเห็นฉันยกสายคล้องเท่านั้นแหละ มันรีบมุดออกจากรั้วบ้านทันที “ซวยแล้วไอ้แก้ม ไอ้โบ้ไอ้หมานรกคอยดูนะ ฉันจับแกได้เมื่อไหร่แกตายแน่” ฉันพูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วหน้าบ้านแล้ววิ่งตามไอ้โบ้ จนมันมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก “ไอ้โบ้หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าเข้าไปนะเว้ย ถ้าแกเข้าไปฉันจะไม่มาเล่นกับแกอีก” ฉันพูดขู่ไอ้โบ้ไปทั้งที่รู้ดีว่ามันฟังไม่รู้เรื่อง และก็เป็นไปตามคาด มันมุดเข้าไปในบ้านหลังนั้นเรียบร้อยแล้ว อยากจะร้องไห้มันไม่ฟังฉันสักนิด...ไอ้หมาบ้า “ไอ้โบ้ออกมานะ...ออกมา...เรากลับบ้านกันได้แล้ว ถ้าแกออกมาตอนนี้ฉันสัญญา จะซื้อกระดูกปลอมให้แกเยอะเลย ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ฉันเค้นเสียงพูดกับไอ้โบ้ด้วยความใจเย็น ขณะที่ตัวเองต้องมายืนกระทืบเท้าเกาะรั้วสแตนเลส บริเวณหลังบ้านใครก็ไม่รู้ ที่ไอ้โบ้มันแอบมุดรั้วเข้าไปในบ้านของเขา แต่มีเหรอหมาบ้ายังไอ้โบ้มันจะยอมฟังฉัน เพราะถ้ามันยอมฟังฉันจริงๆล่ะก็ มันคงไม่วิ่งเข้าไปในบ้านเขาแบบนี้หรอก “เอาไงดีว่ะไอ้แก้มจะปีนรั้วเข้าไปจับไอ้โบ้ดีไหมว่ะ?” “แต่ถ้าเจ้าของบ้านเขามาเห็นเข้า เขาจะคิดว่า...ฉันเป็นขโมยหรือเปล่าหว่า?” ฉันเดินวนไปวนมาเถียงกับตัวเองอยู่แบบนั้น พรึบ! ตุ๊บ! และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าฉันจะต้องปีนรั้ว เอาตัวไอ้โบ้กลับไปให้ได้ และตอนนี้ฉันก็ได้ปีนรั้วบ้านหลังใหญ่ เข้ามาได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว แต่มันก็ต้องแลกกับรอยถลอกของแผลเดิม ซึ่งเลือดก็ไหลซึมมาจากแผลที่ป้าวิเอาผ้าก๊อตปิดแผลไว้ให้ วันนี้คงเป็นวันซวยของฉันกระมัง...ถึงได้ แต่ก็ชั่งเถอะรีบเข้าไปจับไอ้โบ้ออกจากบ้านหลังนี้ดีกว่า เดี๋ยวเจ้าของบ้านเกิดเห็นฉันขึ้นมาจะซวยเอา ฉันมองซ้ายมองขวาปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ จึงเดินไปตามกำแพงบ้านของเขาจนเห็นไอ้โบ้ ไอ้หมานรกของป้าวิที่ตอนนี้มันนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นหญ้าอย่างสบาย “สบายเลยนะมึงไอ้โบ้ ปล่อยให้กูต้องลำบากปีนรั้วมาเนี่ย” ฉันพูดกับตัวเองในใจพร้อมกับค่อยๆ ย่องไปหามันเพื่อไม่ให้มันรู้ตัว หมับ! เฮือก! “ขโมย…” “ปล่อยหนูนะ หนูไม่ใช่ขโมย” ฉันสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม ของผู้ชายตัวใหญ่ที่เขาจับแขนฉันไว้แน่น แต่มันก็ไม่ออกเพราะเขาจับแขนฉันซะแน่นเลย “ไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นขโมยหรอกน้อง ไปหาเจ้านายพี่ซะดีๆ อย่าต้องให้ใช้กำลัง” พี่คนตัวใหญ่พูดจบแกก็ลากแขนฉันให้เดินตามไป ถึงฉันจะเป็นเด็กอ้วนตัวใหญ่ก็เถอะ แต่ฉันสู้แรงของพี่เขาไม่ไหวหรอก แต่คนอย่างไอ้แก้มไม่ได้ให้จับง่ายๆ หรอกนะ เพราะฉันคิดวิธีที่จะให้พี่เขาปล่อยแขนฉันได้แล้วล่ะ งับ! ฉันกัดแขนพี่คนที่กำลังฉุดกระชากลากถูฉันเต็มแรง จนพี่เขาสะดุ้งแล้วปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ “โอ๊ย!เจ็บนะเว้ย อีเด็กบ้า” เมื่อแขนของฉันถูกปล่อยฉันก็รีบวิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งไปด้วยแล้วก็หันมองพี่คนนั้น ที่วิ่งตามฉันมาและสุดท้ายก็… โครม! แค๊ก! แค๊ก! แค๊ก! “ช่วยหนูด้วย หนูว่ายน้ำไม่เป็น” อีกด้าน “หิวข้าวหรือยังลูก ถ้าหิวเดี๋ยวแม่จะได้ให้เด็กตั้งโต๊ะให้เลยเอาไหม? เสร็จแล้วจะได้ขึ้นไปนอนพัก ดูสิใต้ตาดำหมดแล้วลูก” แม่พูดด้วยสายตาที่ทำให้รู้ว่าแม่เป็นห่วงผมขนาดไหน “ผมยังไงก็ได้ครับแม่ แล้วแต่แม่เลยครับ แล้วลุงหมอออกไปโรงพยาบาลแล้วหรือครับ?” ผมตอบออกไปพร้อมกับถามถึงลุงหมอที่เขามีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของผม ซึ่งตัวผมเองก็รักและเคารพลุงหมออยู่มาก เขาคือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับผม “ใช่ลูก รายนั้นออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ เห็นว่ามีเคสด่วน” แม่ของผมพูดออกมาแบบยิ้มๆ “ครับ” “ท๊อปรอแม่อยู่นี่ก่อนนะ แม่จะเข้าไปดูในครัวสักหน่อยไม่รู้ทำเสร็จกันหรือยัง? ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่ให้เด็กมาตามนะลูก” แม่พูดเสร็จก็ยันตัวลุกจากโซฟา เปิดประตูแล้วเดินตรงไปยังห้องครัว ส่วนตัวผมเองก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ภายในบ้านคนเดียวแบบเงียบๆ พร้อมกับเอนหลังพิงไปกับโซฟา แล้วหลับตาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่จะได้ยินเสียงเคาะประตู ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “นายครับ...ผมขออนุญาตเข้าไปครับ” ผมลืมตามองไอ้เอกที่มันพึ่งเปิดประตูเข้ามา มันมีท่าทีประหม่าเมื่อเห็นผมมองไปที่มัน “มึงมีอะไร?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ “คนของเราแจ้งว่ามีขโมยปีนเข้ามาทางด้านหลังบ้านครับ” “แล้วพวกมันจับตัวมันได้ไหมว่ะ? ” ผมหัวเราะในลำคอ ไม่รู้ไอ้ขโมยมันคิดยังไงถึงเข้ามาขโมยของ ในบ้านแม่ของผมแบบนี้ สงสัยจะอยากตายเต็มแก่ “เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้พวกมันกำลังเฝ้าอยู่ครับ นายจะไปจัดการด้วยตัวเองหรือเปล่าครับ? ” “อืม…กูจะไปดูหน้ามันสักหน่อย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม