ไอ้โบ้

1340 คำ
“ป๊าหนูจะไปส่งอาหารบ้านป้าวิแล้วนะ” ฉันปั่นเจ้าหมูน้อยจักรยานคันเก่งมาจอดอยู่หน้าร้าน พร้อมกับส่งเสียงเรียกป๊าที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารให้ลูกค้า ป๊าปรายตามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปล้างมือแล้วหยิบถุงอาหารของป้าวิ เดินตรงมาใส่ไว้ที่ตะกร้าหน้ารถจักรยานของฉัน “ให้หนูช่วยเสริฟ์อาหารก่อนไหม? ดูเหมือนป๊ากับพี่กิตจะทำกันไม่ทันนะ” ฉันมองเข้าไปในร้านพร้อมกับจะอาสาช่วยงานที่ร้านก่อน ลำพังแค่ป๊ากับพี่กิตที่เป็นลูกจ้าง สองคนจะทำทันหรือเปล่าคนแน่นร้านขนาดนั้น “ไม่ต้องหรอกแค่นี้เองป๊ากับเจ้ากิตทำได้สบาย ว่าแต่เราเถอะไปบ้านป้าวิเขาก็อย่าไปซนล่ะ ถ้าป้าเขาบอกกับป๊าอีกว่าเราพาไอ้โบ้ไปซนเหมือนครั้งที่แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องไปเล่นกับมันอีก อยู่แต่บ้านนี่แหละ” ป๊าพูดเตือนฉันด้วนน้ำเสียงติดดุ ฉันได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไปเท่านั้นแหละ เพราะก็รู้ดีว่าครั้งที่แล้วที่ไปเล่นกับไอ้โบ้ ก็ทำให้ป๊าวิปวดหัวไม่น้อยเพราะความซนของฉัน “รับทราบ..ค่า หนูจะไม่ดื้อแน่นอน แต่ป๊าขา…หนูขอเงินหน่อยได้ไหม” ฉันทำท่าตะเบ๊ะ ก่อนจะฉีกยิ้มแล้วกระพริบตาถี่ๆ พร้อมกับแบมือขอเงินจากป๊า ฉันว่า...ฉันก็พยายามทำท่าให้มันน่ารักแล้วนะ แต่ทำไมป๊าถึงยังเขกหัวฉันอีกล่ะ มันไม่น่ารักเหรอ? โป๊ก!... “โอ๊ยเจ็บ! ป๊าเขกซะแรงเลย ถ้าหนูความจำเสื่อมทำไงเนี่ย?” ฉันมุ่ยหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบ ตรงที่ป๊าเขกหัวเหมือนกับว่าเจ็บซะเต็มประดา “ไม่ขนาดนั้นไหมแก้ม? เรานี่เวอร์จริงๆ อ่ะนี่รับเงินไปป๊าจะกลับเข้าไปในร้านแล้ว อ้อ…แล้วอย่ากลับให้มันเย็นนักล่ะ ป๊าเป็นห่วง” ป๊าพูดพร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วดึงแบงค์ร้อยจากกระเป๋าสตางค์ มาส่งให้กับฉันหนึ่งใบ ไม่รอช้า...ฉันรีบหยิบแบงค์ร้อยจากมือป๊ามาอย่างไว พร้อมกับไหว้ย่อแล้วเก็บเงินใส่กระเป๋ากางเกงไว้ ถ้าขืนชักช้ามีหวังป๊าเปลี่ยนใจ ฉันก็อดกินชาไข่มุกอันแสนอร่อยน่ะสิ “ค่า…หนูไปก่อนนะป๊า” พูดจบฉันก็ปั่นเจ้าหมูน้อยของฉัน ออกจากหน้าร้านข้าวขาหมูของตัวเอง ตรงไปยังบ้านป้าวิทันที แต่ก่อนจะถึงบ้านของป้าวิมันก็ต้องผ่านร้านชานมไข่มุก ร้านโปรดของฉันก่อนนะสิ แล้วแน่นอนวิถีเด็กอ้วนน้ำหนักเกินอย่างฉัน ก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งชานมไข่มุกอย่างแน่นอน “พี่โอ๋สวัสดีค่ะ หนูเอาชาเขียวนมใส่ไข่มุกเยอะๆ แก้วนึง” “ได้จ้าน้องแก้ม เอาหวานปกติเหมือนเดิมหรือเปล่าจ๊ะ? ” “เหมือนเดิมเลยพี่โอ๋” ฉันตอบกลับพี่โอ๋เรียบร้อยแล้ว ก็ละสายตาจากพี่เขาแล้วหันไปมองอีกฝั่งของถนน แต่ก็ต้องสะดุดตากับรถสปอร์ตสีดำมันวาว ที่จอดติดไฟแดงอยู่ดูเหมือนว่า เขาจะตรงไปกลับรถด้านหน้าสินะ เพราะเขาเปิดไฟเลี้ยวไว้ด้วย ฉันแทบจะไม่ละสายตาจากรถคันนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่นานฉันก็เห็นเจ้าของรถคันนั้น เปิดกระจกรถลงมาจนสุด ภาพที่ฉันเห็นก็คือผู้ชายหน้าตาหล่อออกไปทางแบดๆ ผมของเขาสีควันบุหรี่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท มือซ้ายของเขากำพวงมาลัยรถยนต์ ส่วนมือขวาของเขากำลังคีบบุหรี่สูบ ก่อนจะพ่นควันออกมานอกรถ “โคตรเท่” ฉันพูดกับตัวเองในใจ หลังจากมองเขาอยู่นาน จนกระทั่งได้ยินเสียงของพี่โอ๋เรียกฉัน ทำให้ต้องละสายตาจากการมองเขา “น้องแก้ม...ชาเขียวนมไข่มุกได้แล้วค่า” “ขอบคุณค่ะพี่โอ๋...นี่ค่ะเงิน หนูไปแล้วนะคะ ไว้มาอุดหนุนใหม่ค่ะ” “ขอบใจจ้า” สิ้นเสียงของพี่โอ๋ฉันก็ปั่นจักรยาน เข้าไปในซอยบ้านของป้าวิ มือหนึ่งของฉันจับแฮนด์จักรยาน ส่วนอีกมือหนึ่งของฉันก็ถือแก้วชาเขียวนมไข่มุก พร้อมกับดูดกินมันไปด้วย แต่ในขณะที่ฉันปั่นจักรยาน เข้าไปในซอยบ้านของป้าวิ อยู่ๆก็มีรถยนต์วิ่งผ่านฉันไปด้วยความเร็วประมาณหนึ่ง และฉันก็จำได้ดีว่ารถนี้เป็นคันเดียวกันกับ ที่ฉันมองอยู่ตอนซื้อชานมไข่มุก พรึบ! โอ๊ย! เอี๊ยด! “เจ็บชะมัด” ฉันพูดออกมาอย่างนึกโมโหตัวเอง ที่มั่วแต่มองรถคันนั้นจนไม่ทันมองว่า ข้างหน้าถนนเป็นหลุมขนาดใหญ่ทำให้ต้องมานอนกลิ้งอยู่บนถนนแบบนี้ แต่..เอ๊ะ แล้วรถคันเมื่อกี้เขาจอดอยู่กับที่ทำไม? แต่ก็ชั่งเถอะอย่าไปสนใจเขาเลย เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า ฉันพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกับสำรวจตัวเอง ก็พบว่าแขนมีแผลถลอก แต่ที่หนักสุดน่าจะเป็นตรงหัวเข่า เพราะมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นทาง ไม่รอช้าฉันรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกง มาซับเลือดที่หัวเข่าจนมันหยุดไหล ก่อนที่จะจับจักรยานที่มันนอนแอ้งแม้งกับพื้นขึ้นมา โชคดีที่อาหารของป้าวิยังอยู่ดีไม่บุบสลาย แต่กับน้องชาเขียวนมของฉันนะสิมันได้จากฉันไปแล้ว งื้อ…พึ่งกินไปได้ครึ่งแก้วเอง หลังจากที่ฉันเลิกอาลัยอาวรณ์กับน้องชาเขียวนม แล้วก็หันกลับมาเตรียมที่จะปั่นจักรยานไปบ้านป้าวิต่อ แต่พอฉันเริ่มปั่นจักรยานออกมาได้สักระยะ ก็พึ่งจะสังเกตว่ารถคันนั้นจอดอยู่ที่เดิม สงสัยจอดรถคุยโทรศัพท์มั้ง “ตายแล้ว! แก้มหนูไปทำอะไรมา ทำไมสภาพเป็นแบบนี้?” ป้าวิพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ ก่อนจะจับตัวฉันหมุนรอบๆ เหมือนกับว่าจะสำรวจร่างกายฉันว่า เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า “เอ่อ…หนูปั่นจักรยานแล้วล้มก่อนถึงบ้านป้าวิเนี่ยแหละค่ะ แต่หนูไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ ป้าวิอย่าบอกป๊าได้หรือเปล่า? ถ้าป๊ารู้หนูต้องอดมาเล่นกับไอ้โบ้แน่เลยนะคะ” ฉันพูดประโยคขอร้องพร้อมกับทำตาปริบๆ เพื่อเรียกคะแนนสงสาร “ป้าไม่บอกก็ได้ แต่ถึงยังไงป๊าเราก็ต้องรู้อยู่ดีนั้นแหละ ก็แผลที่หัวเข่าเราชัดซะขนาดนั้น ไปเดี๋ยวป้าทำแผลให้ เสร็จแล้วป้าจะออกไปทำธุระข้างนอก เราจะกลับเลยหรือว่าจะอยู่เล่นกับไอ้โบ้มันก่อน?” “หนูขออยู่เล่นกับไอ้โบ้ก่อนได้ไหมค่ะ? ยังไม่ได้เจอมันเลย คิดถึงมันจะแย่” ฉันตอบกับผู้เป็นป้าแท้ๆออกไป ที่ฉันอยากมาบ้านป้าวิก็เพราะคิดถึงไอ้โบ้นี่แหละ “ก็ได้จ๊ะ...แต่แก้มต้องระวังหน่อยนะ เจ้านี่มันชอบวิ่งเข้าไปในบ้านคนอื่น ครั้งที่แล้วมันก็วิ่งเข้าไปบ้านหลังใหญ่ๆ ที่ถัดจากบ้านป้าไปหนูเห็นไหม?” หงึกๆ “นั่นแหละป้าต้องไปขอโทษเขา แต่ดีว่า...เจ้าของบ้านนั้นเขาใจดีน่ะ ถ้าเป็นบ้านอื่นป้าไม่รู้จะโดนด่าหรือเปล่า” “ค่ะๆ หนูจะระวัง งั้นหนูขอไปเล่นกับไอ้โบ้ก่อนนะคะ ป้าจะออกไปเลยไหม?” “กำลังจะไปแล้วจ๊ะ อย่าลืมที่ป้าบอกล่ะ” ฉันพยักหน้าหงึกๆ พร้อมกับหันหลังเดินไปหลังบ้านของป้า ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงรถยนต์ของป้าขับออกจากบ้านไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม