“อย่ามาทำสายตาอุบาทว์แบบนั้นกับฉัน ไสหัวไปซะ! เห็นแล้วฉันจะอ้วก” ทนไม่ไหวฉันจึงทำลายความเงียบนี้ซะเอง “ไอ้สวะ...อื้อ”
ฉันไม่เคยพูดจาดี ๆ กับมัน ไม่เคยมีใครทำให้ฉันหยาบคายขนาดนี้มาก่อน และนั่นเองทำให้เตโชยั๊วะจนต้องใช้ฝ่ามือบีบปลายคางของฉันไว้และบังคับให้มองสบตาในระยะประชิด
“พูดจาเพราะ ๆ กับผัวเก่าหน่อยสิคะ...” ถ้อยคำอาบยาพิษนั่น...
“ฉันไม่เคยมี...!”
ฉันกำลังจะแย้ง แต่เตโชกลับเพิ่มแรงบีบตรงปลายคางและเบ้หน้าเบ้ตาเหมือนเด็กน้อยถูกหักค่าขนม...
“ว้า เสียใจแย่เลย ลีลาฉันเด็ดดวงออกขนาดนั้นทำไมถึงลืมล่ะ สงสัยแบบนี้ต้องทวนความจำซะแล้ว :(”
Techo Describe
ไม่เจอกันตั้งนาน...ยัยเด็กคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลย
ผมหมายถึงสายตาคู่นั้นที่ใช้มองผม มันยังเต็มไปด้วยความเกลียด เกลียดแบบสุด ๆ
“ทวนความจำบ้าอะไรของนาย!”
เอื้องขวัญตวาดกลับมาอย่างกราดเกรี้ยวและเดือดดาล น้ำเสียงที่สั่นพร่าแต่แข็งกระด้างสะท้อนไปทั่วบริเวณจนหมาจรจัดที่กำลังคุ้ยขยะอยู่ไม่ไกลสะดุ้ง ก่อนวิ่งหนีไปอย่างหวาดกลัว...
และสงสัยว่าคงใช้พลังงานมากเกินไปมั้ง เพราะหลังจากนั้นเอื้องขวัญก็หอบหายใจเหมือนเหน็ดเหนื่อย แววตาแดงก่ำ แก้มแดง...ริมฝีปากที่เผยอจากการหายใจอย่างรุนแรงทำให้ผมยกยิ้มอีกครั้ง
ดูก็รู้ว่ายัยนี่ไม่สบาย
น่าสงสารจังเลย...
“ถามแบบนี้แสดงว่าอยากให้สาธิต...”
ผมหลุบตามองริมฝีปากยัยเด็กนิสัยเสียอีกครั้ง เรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่ทำให้ปลายลิ้นของผมจดจำรสชาติได้ถึงขั้นฝังใจ
ไม่เคยรู้สึกว่ามันหวาน ความขมปร่าเหมือนยาพิษนี่แหละคือสิ่งที่ผมต้องการ...
เพียะ!!
เอ่ยจบเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เอื้องขวัญก็ตวัดฝ่ามือเล็กเต็มแก้มข้างซ้ายผมซะแล้ว เพราะมัวแต่จ้องริมฝีปากที่ตัวเองเคยลิ้มลองเมื่อครั้งนั้นจึงไม่ทันได้ตั้งรับ ผลสุดท้ายใบหน้าของผมจึงหันไปตามแรงตบอย่างช่วยไม่ได้
ตายแล้ว...ตัวเท่าลูกหมาแต่ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา เจ็บถึงทรวงเลยนะเนี่ย
“หยุดพูดจาหมา ๆ แล้วถอยไป...ถ้าแกไม่อยากเข้าคุกก็ช่วยไสหัวไปให้พ้น!” สรรพนามถูกเปลี่ยนให้ดูก้าวร้าวจนผมรู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้สิ ผมชอบที่ยัยนั่นพยศใส่ ถึงจะน่าหงุดหงิดแต่ก็โคตรเร้าใจ
ว่าแล้วผมก็ตวัดปลายลิ้นเพื่อเช็ดหยาดเลือดที่ซึมออกมาจากบาดแผลบริเวณมุมปาก รสชาติขมคาวไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกยี๋แต่อย่างใด
กลับกัน...ทุกครั้งที่ร่างกายของผมมีแผล มันมักจะมีอะไรสักอย่างตามมาเสมอ
ถ้าไอ้เวรที่ทำร้ายผมคือผู้ชาย...ผมจะเลาะฟันมัน ทำให้เดี้ยงอยู่ใต้ตีนและลุกไปไหนไม่ได้สักเดือนสองเดือน
แล้วถ้าเป็นผู้หญิงล่ะ?...
อิ ๆ ลองเดาดูดีไหมว่าเอื้องขวัญจะเจออะไรต่อจากนี้
“เลือดฉันนี่รสชาติไม่เลวเลยแฮะ”
ผมหัวเราะพลางยกมือถูริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ขณะนั้นก็ไม่ลืมจ้องหน้ายัยเด็กเอื้องขวัญที่โมโหตัวสั่นอย่างน่าเวทนา ทำท่าจะร้องไห้...แต่ก็เกร็งนัยน์ตาเอาไว้ แสร้งว่าเข้มแข็ง
ไม่เนียนเลยสักนิด อ่อนหัด...
“ไอ้โรคจิต แกสมควรตายไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ...”
เอื้องขวัญขบกรามแน่นขณะพูด คงแค้นมาก ๆ ที่ผมลงมือ ‘ขืนใจ’ ยัยนั่นเมื่อหลายปีก่อนหลายครั้งติดจนมีสภาพไร้วิญญาณไปหลายวัน พอหนำใจผมก็ปล่อยยัยนั่นทิ้งไว้หน้าบ้าน ให้คนมาเห็นและช่วยเหลือเอง
เลวจัง เลวสุดจะบรรยาย เลวแบบนี้คิดว่าจะสำนึกไหม...
คิดนะ...แต่คิดเฉย ๆ
“อ่าฮะ” ผมพยักหน้า...สายตาของเด็กนั่นที่ใช้มองผมเหมือนกำลังมองเศษขยะอยู่มากกว่า
“แกทำลายชีวิตฉัน แกทำให้ฉันต้องมีสภาพอย่างนี้!”
หือ...
ผมเอียงคอ ขมวดคิ้ว ทำตาปริบ ๆ
สภาพอย่างนี้คืออย่างไหน ก็เห็นสวยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหน้าอกใหญ่ขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น กลิ่นก็หอมขึ้นด้วย...
“ขนาดนั้นเชียวเหรอ เซ็กซ์ของฉันมีพลังการทำลายล้างขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ยักรู้แฮะ”
เพียะ!!
เสี้ยววินาทีที่ผมเอ่ยจบ แก้มอีกข้างก็ถูกฟาดด้วยฝ่ามือเล็ก ๆ แต่ทรงอานุภาพ ซึ่งคราวนี้ความรุนแรงทำเอาผมโคลงไปทั้งตัว แสบร้อนตรงส่วนที่ถูกกระทำจนต้องแค่นหัวเราะออกมา
หมดกันหน้าหล่อ ๆ ที่ดูแลมาอย่างดี
เพียะ!!
เพียะ!
หมับ! ผมคว้าข้อมือบางเอาไว้เมื่อยัยนั่นทำท่าจะตบผมอีกครั้ง พร้อมทั้งออกแรงบีบจนฝ่ามือน้อย ๆ สั่นระริกเพราะเจ็บปวด
“ตบเยอะจัง เจ็บจะแย่อยู่แล้ว...” เสียงของผมเยียบเย็น และรอยยิ้มยังประดับอยู่บนริมฝีปากเปรอะเลือด “อยากเจ็บคืนไหม”
พลั่ก
เอื้องขวัญดิ้น พยายามหนี หรืออยากจะทำร้ายผมอีกครั้งให้สาแก่ใจก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่แน่ ๆ ผมไม่ปล่อยให้ยัยนั่นทำในสิ่งที่ต้องการ
“อึก...” ผมเพิ่มแรงบีบจนฝ่ามือเล็กเปลี่ยนมากำแน่นเป็นกำปั้น ท่าทางที่แสดงออกถึงความดื้อด้านและหวาดกลัวไปพร้อม ๆ กันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นจนสั่นไปถึงช่วงล่าง “แค่นี้ฉันก็เจ็บจนเหมือนตายทั้งเป็นแล้ว...แกยังจะเอาอะไรอีก!”
“อ๋อ...” ผมคราง “ฉันไม่เอาอะไรหรอก...นอกจากเธอ”
“...”
“เพราะนอกจากเธอแล้ว...” ผมเลื่อนไปกระซิบข้างหูเอื้องขวัญในประโยคที่เหลือ...
และนั่นเป็น ‘หนึ่งในอีกหลายเหตุผล’ ที่ผมกลับมา