เรื่อง : Untouchable love…รัก สัมผัสไม่ได้
ตอนที่ 3 #การเปรียบเทียบ (มี E-Book และหนังสือเสียง)
โดย : Kwitch (เขียนเป็นภาษาไทยว่า กวิชญ์ (อ่านว่า กะ-วิช (ออกเสียง “เฉอะ”)))
สองปีต่อมา
เมลานีได้ประสูติโอรสองค์ที่สอง พระนามว่า “มาเวอริค” เนื่องด้วยมาเวอริคได้สายเลือดความเป็นมนุษย์จากเมลานีมากกว่าความเป็นเทพของอีไลแอส มาเวอริคจึงมีพลังเทพไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเทพองค์อื่น ๆ
แม้ว่าจะมีวัยอันใกล้เคียงกับมาเทโอ แต่มาเวอริคถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ หรือไปเล่นกับมาเทโอเด็ดขาด โดยหามีผู้ใดบอกเหตุผลอันแท้จริงเกี่ยวกับพลังอันร้ายแรงของมาเทโอนั้น เป็นเหตุให้มาเวอริคต้องไปเล่นกับเทพองค์อื่นแทน ซึ่งเทพองค์อื่นมักจะกลั่นแกล้งมาเวอริคเพราะมีระดับพลังเทพไม่สูงนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะเปรียบเทียบพลังของมาเวอริคกับมาเทโอ โดยตอกย้ำมาเวอริคอยู่เสมอว่ามาเวอริคอ่อนแอไม่สมกับเป็นน้องชายของมาเทโอผู้มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพองค์ใด ซึ่งนั่นยิ่งเพิ่มความอัดอั้นและน้อยเนื้อต่ำใจให้มาเวอริคเป็นอย่างมาก
ส่วนมาเทโอมักจะคอยใช้พลังแกรนด์รอยเอิล (Grand royal power) อันเป็นพลังเทพซึ่งไม่ได้มีพลังทำลายล้างรุนแรงมากนักปกป้องมาเวอริคอยู่ห่าง ๆ โดยมาเวอริคไม่รู้ตัว เพราะมาเทโอเกรงว่าจะพลาดไปแตะต้องหรือสัมผัสตัวเทพองค์อื่นหรือแม้กระทั่งมาเวอริคเอง
.....
เหตุการณ์ในวันหนึ่ง
เนื่องเพราะต้องการหนีให้พ้นภัยจากการกลั่นแกล้งของเหล่าบรรดาเทพรุ่นราวคราวเดียวกัน เทพองค์น้อยจึงวิ่งหน้าตั้งมาหาผู้เป็นพี่ซึ่งกำลังยืนอยู่ริมขอบพระบัญชรในห้องบรรทมโดยสังเกตการณ์ความเป็นไปของน้องชายอยู่
“ท่านพี่...ช่วยข้าด้วย...ข้าถูกแกล้งอีกแล้ว”
“มาเวอริค...เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้น...อย่าเข้าใกล้ข้ามากกว่านี้” มาเทโอส่งน้ำเสียงเข้มให้ผู้เป็นน้อง เพื่อต้องการให้เขาเกรงกลัว ซึ่งนั่น ก็มีอยู่เหตุผลเดียว คือ เขาไม่อยากเป็นต้นเหตุให้น้องชายคนเดียวสลายตัวไป
“ท่านพี่...ทำไมท่านไม่สนใจข้าเลย”
“ขะ...ข้า” ไม่ทันได้อธิบายให้ผู้เป็นน้องเข้าใจถึงเหตุผลอันแท้จริง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทั้งสองพี่น้องจึงเหลียวไปยังประตูบานนั้นพร้อมกัน
จักรพรรดินีผู้งามสง่าราวกับหงส์ ผิวขาวราวหิมะ ผมสีทองยาวสยาย ดวงหน้าเรียวได้รูป ประกอบกับจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้ม แต่ทว่าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เดินตรงมายังโอรสทั้งสอง จากนั้นจึงย่อตัวลงคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อให้ระดับความสูงนั้นใกล้เคียงกับโอรสองค์รอง
“มาเวอริค...มาอยู่ห้องพี่เค้านี่เอง...ข้าตามหาเสียทั่ว”
“ท่านแม่ครับ...ข้าโดนแกล้งอีกแล้ว...ข้ามาขอให้ท่านพี่ช่วย แต่ท่านพี่ก็ไม่ช่วยข้าเลยครับ”
เมลานีส่งยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนให้โอรสองค์รอง จากนั้นจึงใช้มือเรียวทั้งสองข้างจับไปยังแขนเล็กทั้งสองของโอรสราวกับเป็นการดึงความสนใจให้มาเวอริคนั้นตั้งใจฟังในสิ่งที่นางกำลังจะอธิบาย
“เจ้ารู้ได้อย่างไร ว่าพี่ของเจ้าไม่ได้ช่วยเจ้าเลย”
“ก็ท่านพี่อยู่ในห้องนอนตลอด ไม่เคยออกไปเล่นกับข้า”
“แล้วตอนที่เจ้ากำลังถูกรุมรังแก แต่จู่ ๆ เทพพวกนั้นก็หยุดทันที เจ้าคิดว่าเพราะอะไรหรือ”
โอรสองค์รองกลอกตาไปมา พยายามคิดตามคำพูดของผู้เป็นมารดา “ขะ...ข้า...ข้าไม่รู้ครับ”
“จริง ๆ แล้วพี่ของเจ้าก็ช่วยดูแลเจ้าอยู่ตลอด...เพียงแต่เจ้าไม่รู้ตัวก็เท่านั้นเอง” เมลานียังคงพยายามโน้มน้าวให้มาเวอริคเปลี่ยนมุมมองอันมีต่อพี่ชายใหม่
“ไม่!!!...ข้าไม่เชื่อหรอกครับ...ท่านแม่เข้าข้างท่านพี่อีกแล้ว”
เมลานีกำลังจะอธิบายต่อ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว โอรสองค์รองหันหลังให้ทั้งมารดาและพี่ชาย แล้ววิ่งออกไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะฟังเสียงเรียกของผู้เป็นมารดา
“มาเวอริค...เดี๋ยวก่อน”
แววตาฉายความกังวลส่งผ่านให้มาเทโอซึ่งยืนดูมาโดยตลอด
“มาเทโอ...เจ้าอย่าถือสาน้องเลยนะ...น้องยังเด็ก”
“ครับท่านแม่...ข้าเข้าใจดี” แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความปวดร้าวอันไม่สามารถอธิบายให้น้องชายเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่มาเทโอก็ยังฝืนส่งยิ้มเฉิดฉายเจิดจ้าให้กับผู้เป็นมารดา เพื่อต้องการให้มารดาคลายความกังวลว่าเขานั้นรับมือได้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้จะปรารถนาเข้าไปโอบกอดโอรสองค์โตสักเพียงใด แต่นางก็รู้ดีว่าไม่อาจกระทำได้ดังใจนึก จึงทำให้แต่เพียงส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้โอรสได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยซึ่งนางมีต่อเขา
“เจ้าเป็นความภาคภูมิใจของแม่และพระบิดาเสมอ...ความดีงามของเจ้าจะคอยคุ้มครองดูแลตัวเจ้าและอาณาจักรเฮฟเวินนี้ให้รุ่งเรืองตลอดไป”
“ครับท่านแม่”
ระหว่างนั้นมาเวอริคเทพองค์น้อยพยายามหาผู้ปลอบโยนความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอันเกิดขึ้นมาช้านาน และแล้วฝีเท้าก็หยุดอยู่ตรงหน้าบัลลังก์จักรพรรดิ ซึ่งผู้เป็นบิดากำลังนั่งทรงงานอยู่
แววตาฉายความสับสนระคนปนเกรงขาม แต่ในเมื่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าขึ้นชื่อว่าเป็นบิดา ดังนั้น เด็กน้อยจึงตัดสินไปเองว่า บิดาน่าจะอยู่ฝ่ายเขาอย่างแน่นอน
“ท่านพ่อครับ”
จักรพรรดิเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกของโอรสองค์รอง
“เจ้ามีธุระอะไรหรือมาเวอริค” แม้ว่าน้ำเสียงจะฟังดูเย็นราบเรียบแต่ดูทรงอำนาจอย่างไม่อาจต้านทาน
“ขะ...ข้าถูกแกล้งอีกแล้วครับท่านพ่อ
อีไลแอสยืนขึ้น แล้วก้าวเดินลงมาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผยสมกับเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเฮฟเวิน ร่างสูงกำยำ พร้อมทั้งผิวขาวผ่องดุจเคลือบไข่มุกไว้ มุ่งตรงมายังโอรสองค์น้อย สายตาสีเขียวเฉียบขาดดุดันจ้องมองมาเวอริคอย่างไม่ลดละ
“เหตุใดเจ้าจึงถูกรังแกเล่า”
“ขะ...ข้าไม่รู้ครับ...พวกนั้นบอกว่าข้าอ่อนแอ”
“แล้วถ้าเจ้าอ่อนแอจริง...เจ้าจะยอมถูกรังแกไปตลอดชีวิตน่ะหรือ”
มาเวอริคกลอกตาไปมา เพราะยังไม่สามารถคิดวิเคราะห์ความหมายของอีไลแอส
“กฎของการอยู่รอดคือเจ้าต้องเป็นผู้ที่เหนือกว่า...ถ้าเจ้ายังอ่อนแออยู่แบบนี้...เจ้าก็ไม่มีทางรอด”
“ทำไมล่ะครับท่านพ่อ...ข้าเป็นลูกของท่านพ่อ แล้วเหตุใดท่านพ่อจึงไม่ปกป้องข้า”
ผู้เป็นบิดาถอนหายใจยาว ราวกับหน่ายเหนื่อยใจที่ต้องอธิบายรายละเอียดยิบย่อยลึกซึ้งให้มาเวอริคได้เข้าใจ
“จำไว้นะ...ถ้าเจ้าเข้มแข็งได้เพียงครึ่งหนึ่งของพี่เจ้า...จะไม่มีใครมาทำร้ายเจ้าได้อีก”
แรกเริ่มเดิมทีอีไลแอสมีเพียงเจตนาต้องการยกตัวอย่างเพื่อให้มาเวอริคเห็นภาพเท่านั้น จึงนำพลังเทพของมาเทโอมาเปรียบเทียบเพื่อให้มาเวอริคได้เข้าใจถึงพลังซึ่งเขาจำต้องมีเพื่อปกป้องตนเองและ ยังอาจเหนือเทพองค์อื่นได้ด้วย แต่ไม่นึกเลยว่าการอุปมาอุปไมยในครั้งนี้ จะทำให้ความรู้สึกของมาเวอริคนั้นแย่ลงไปกว่าเดิม
“อะไร ๆ ก็ท่านพี่...ท่านเปรียบเทียบข้ากับท่านพี่อีกแล้ว...ใคร ๆ ก็เอาข้าไปเทียบกับท่านพี่...ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
ผู้เป็นบิดากัดฟันกรอด สีหน้าเคร่งเครียดเฉียบขาดขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเน้นหนัก “ทำไมเจ้าถึงเข้าใจอะไรยากเย็นแบบนี้มาเวอริค... เจ้าจะเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้นะ”
ด้วยความน้อยใจซึ่งสะสมมาจนถึงขีดสุด มาเวอริคก็ได้วิ่งหนีออกมาอีกครั้ง ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยน้ำอุ่นใสเอ่อออกมาจนล้น เทพองค์น้อยรีบเข้าห้องบรรทมของตนเองไปแล้วนั่งกอดเข่าอยู่ยังมุมห้อง เขาฟุบศีรษะลงบนเข่าทั้งสองข้างแล้วเปล่งเสียงร้องไห้อย่างหนักเพราะไม่อาจกักเก็บความรวดร้าวนี้ได้อีกต่อไป
เสียงเปิดประตูห้องเข้ามา ฝีเท้าย่างกรายเข้ามายังเทพองค์น้อยแล้วโอบกอดเขาเพื่อถ่ายทอดสายใยรักและความอบอุ่นทั้งหมดอันผู้เป็นมารดานั้นมี
มาเวอริคเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นภาพเมลานีอยู่ตรงหน้า แทนที่จะหยุดร้องไห้ แต่กลับปล่อยโฮหนักเสียยิ่งกว่าเดิม อาจเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงความปลอดภัย หากจะร้องไห้ต่อหน้าใคร ก็คงต้องเป็นเมลานีเพียงคนเดียวเท่านั้น...ผู้ซึ่งจะโอบกอดให้กำลังใจเขาอยู่เสมอและไม่มีทางเหยียบย่ำซ้ำเติมเขาอย่างแน่นอน
เมลานีมองพิจารณาร่างกายของโอรสอย่างละเอียด ก็พบว่ามีบาดแผลอยู่บริเวณหัวเข่าซ้ายอันเกิดขึ้นเพราะหกล้มเนื่องด้วยวิ่งหนีจากการถูกกลั่นแกล้ง
“โธ่! เจ็บมากมั้ย เดี๋ยวข้าทำแผลให้นะ”
ดวงตาฉายแววประกายสดใสระคนปนซาบซึ้งตื้นตันอย่างยากจะบรรยาย “ท่านแม่ ท่านคือคนเดียวที่รักข้า...ข้าจะรักท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น”
-------------------------------------------------------------------------
#ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจนะคะ
#น่าจะรู้ถึงที่มาของมาเวอริคแล้วพอสมควรนะคะ...จริง ๆ แล้วก็เป็นเทพที่มีภูมิหลังอันเจ็บปวดไม่น้อย...ส่วนตอนต่อไปแอบสปอยล์ว่า มาเวอริคก็จะมีพลังเทพที่เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมหาศาล...แต่จะเป็นเพราะอะไรนั้น...ต้องติดตามตอนต่อไปของ Untouchable love…รัก สัมผัสไม่ได้ นะคะ
ด้วยรัก
Kwitch
#Untouchable love…รัก สัมผัสไม่ได้ #นิยายแฟนตาซี #นิยายแฟนตาซีไทย #ความรัก #พลังเทพ #การต่อสู้ #Kwitch