หลังจากอาบน้ำเสร็จก็พบว่าเธอหลับไปแล้ว หากเลือกที่จะพูดออกไปตรงๆ ว่าไม่ได้รัก เธอก็คงจะเจ็บไม่น้อยแต่มันก็คือเรื่องจริงไหม ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดอะไรดีๆ มันก็มี เธอพยายามเพื่อเขามามากใจเขารู้ดีและเคยคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้ แต่อย่าเลย เธอจะเอาใจมาเจ็บซะเปล่า พอต้องห่างจริงๆ ใจมันก็โคตรหวิวเลยว่ะ..
"พี่ขอโทษนะเพียง" ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจเจ้าสัวแล้ว เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าสัวถึงกลัวลูกสาวจะไม่รัก ขนาดเขาไม่ได้รักเธอยังมีความรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ ถ้าหากวันหนึ่งเธอเกลียดเขามันจะเป็นยังไง แต่มันก็คือสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่เหรอวะ เธอจะได้เลิกยุ่งกับเขาสักที...
ตุลย์ภพสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับเธอ ขยับตัวเข้าไปสวมกอดร่างนุ่มนิ่ม พรุ่งนี้ทุกอย่างมันจะค่อยๆ เปลี่ยนไป
ไม่ได้หวังให้เธอให้อภัยแต่หวังให้เราจบกันด้วยดี
เช้าวันรุ่งขึ้น..
พอเพียงตื่นมาก็พบกับความว่างเปล่า หากเขาตื่นก่อนน่าจะปลุกเธอด้วย ที่นี่เป็นบ้านของเธอนะน่าจะปลุกกันก่อน เมื่ออาบลงมาข้างล่างถึงได้รู้ว่าสามีเธอกลับบ้านไปแล้ว กลับไปโดยไม่รอและไม่บอกเธอสักคำ เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนอีกแล้วนะ ทำอะไรก็ควรจะเห็นหัวเธอบ้าง..
พอเพียงนั่งทานข้าวต้มอยู่ในครัวคนเดียว ในเวลานั้นเฮียหยางก็เดินเข้ามาพอดี
"อ้าว เฮียยังไม่ไปทำงานอีกเหรอคะ" เธอคิดว่าเฮียออกไปแล้วเสียอีก
"เฮียตื่นสาย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย" ร่างสูงเดินเข้ามา วางเสื้อสูทสีดำพาดไว้บนเก้าอี้
"ผมขอด้วยครับป้านิ่ม" จะบอกว่าเป็นโชคดีของเขาไหมก็คงใช่ นานแล้วที่ไม่ได้นั่งกินข้าวเช้าด้วยกันสองคน ถึงมันจะเป็นเพียงความสุขเล็กๆ แต่มันก็เป็นความสุข เขาไม่คิดจะไปล้ำเส้นใดๆ ทั้งสิ้น
"กินให้เยอะๆ นะ ช่วงนี้น้องสาวเฮียผอมลงหรือเปล่า"
"ผอมอะไรล่ะเฮีย น้ำหนักเพียงขึ้นมาสามกิโลแน่ะ ว่าแต่เรื่องที่เฮียจะแต่งงานมันเรื่องจริงใช่ไหม ถึงตอนนี้เพียงยังไม่อยากจะเชื่อเลย บทจะแต่งก็เร็วเกิ้น เจ้าสาวเฮียเป็นใครก็ไม่รู้ ป๊าต้องมัดมือชกเฮียแน่ๆ เพียงดูออก"
"อย่าว่าแต่เพียงเลย เฮียเองก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าสาวของเฮียหน้าตาเป็นยังไง" ได้แต่ยิ้มแห้ง ขนาดข้าวต้มยังกลืนไม่ลง
" นั่นไง เพียงคิดว่าครั้งนี้ป๊าทำเกินไป ให้เพียงช่วยพูดให้ไหมคะ" ทำไมป๊าทำแบบนี้ แล้วเฮียก็ยังยอมอีกนะ ไม่ได้รักไม่ได้ชอบก็น่าจะปฏิเสธไปไม่รู้จักกันแล้วจะรักกันอยู่กินกันยังไง คิดไปคิดมาก็เข้าตัวเองแต่เธอยังโชคดีกว่าเฮียก็ตรงที่ เธอได้แต่งงานกับคนที่เธอรักและเลือกเองถึงเขาจะไม่ได้เลือกเธอก็ตาม
"เฮียอายุมากแล้ว ให้เตี่ยหาให้นั่นแหละดีแล้ว เพียงจะกลับบ้านเลยไหมเดี๋ยวเฮียจะไปส่ง"
"ยังค่ะเพียงว่าจะอยู่คุยกับมาม๊าต่อ น่าจะกลับบ่ายๆ"
ทั้งคู่นั่งกินข้าวคุยกันสักพัก เฮียหยางก็ต้องไปทำงาน ภาระหน้าที่ของเขายังมีอีกมาก หากเขาไม่ได้เจ้าสัวเขาคงไม่มีชีวิตเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้...
ช่วงเวลาหกโมง บ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นหลังใหญ่
พอเพียงเดินออกมารอสามีที่หน้าบ้าน เขาเป็นอะไรโทรไปก็ไม่รับสาย ติดธุระหรือเป็นอะไรก็ไม่คิดจะบอกกันบ้างเลย กลับมานะเธอจะบ่นให้หูชาไปเลย
เวลาหกโมงครึ่งก็มีเสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน
"พี่ตุลย์ไปไหนมาคะ ทำไมกลับช้าจัง แล้วโทรไปทำไมถึงไม่รับสะ" พอเพียงเดินตรงเข้าไปหาสามี กะว่าจะเล่นงานแต่กลับต้องเป็นฝ่ายเงียบเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของสามี เขาเป็นอะไร
"วันนี้งานเยอะเหรอคะ ให้เพียงนวดให้ไหม" ใจอ่อนยวบเมื่อเห็นสีหน้าอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอน เธอเดินเข้าไปช่วยถือกระเป๋าถอดเสื้อสูทให้ เขาไม่ได้ว่าอะไรยืนนิ่งให้เธอทำให้ หลายอาทิตย์แล้วที่เธอไม่ได้ทำให้เขาเพราะเอาแต่งอนและชวนทะเลาะ
"พี่อยากอาบน้ำมากกว่า"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวเพียงขึ้นไปเตรียมน้ำให้นะ" ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นไบโพล่าสับสนไปหมดจะเหวี่ยงจะวีนหรือจะดี..เห็นสีหน้าเครียดๆ ขอสามีแล้วใจอ่อนทุกที
รีบเดินขึ้นไปเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างเตรียมให้เขาอาบ เมื่อก่อนเคยทำทุกวันจนคุ้นชิน ถามว่าเมื่อก่อนทำแบบฝืนใจไหมมันก็ไม่นะ เมื่อเรารักใครสักคนเราก็พร้อมจะทำทุกอย่างได้เพื่อเขา ถึงบางเรื่องมันจะไม่เป็นตัวเองบ้างแต่มันก็ไม่ได้แย่มีความสุขไปคนละแบบกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ ร่างสูงใหญ่ของสามีก็เดินเข้ามาพอดี พอเพียงเดินชนเข้ากับอกแข็งๆ ของเขาจนแทบหงายหลังยังดีที่เขาเอามือจับเธอไว้ทัน..
"ระวังหน่อย"
"ค่ะ พี่ตุลย์จะให้เพียงถูหลังให้ไหม"
"ไม่เป็นไร"
พอเพียงเดินแยกออกไปเงียบๆ
ภายในครัวมือเล็กหยิบจับเตรียมอุปกรณ์รอสามีลงมาทำกับข้าว วันนี้เธออยากกินผัดบล็อคเคอรี่ก็เลยหั่นเตรียมไว้ ส่วนข้าวหุงไว้รอแล้วจะว่าไปชีวิตคู่มันก็ไม่ได้แย่แต่ที่มันแย่ก็ตรงชีวิตเธอกับเขานี่แหละ ก็คนมันไม่ได้รักฝืนอยู่กันไปมันก็เลยได้แค่นี้..ไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือนางร้ายถ้าเขาไม่รักมันก็คือไม่รักไหม
"ทำอะไร"
"อุ๊ย!" เธอสะดุ้งตกใจจนมีดเกือบบาดมือ ก็คนมันกำลังคิดอะไรเพลินๆ
"พี่ขอโทษ ตกใจเหรอ" ตุลย์ภพเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเธอ ก้มหน้าลงมองว่าเธอกำลังทำอะไร
"เพียงอยากกินผัดบล็อกเคอรี่ค่ะ" เธอคิดว่าเธอติดใจรสชาติฝีมือเขาไปแล้ว ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้กับข้าวฝีมือป้านิ่มถึงอร่อยสู้สามีเธอไม่ได้เลย
"หั่นชิ้นใหญ่ไปไหม" มือใหญ่กุมทับลงที่มือนุ่มนิ่มขยับตัวออกเล็กน้อยพอไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัด พอเพียงหัวใจเต้นรัว ใจสั่นไหวจนทำอะไรไม่ถูก
"ทำกับข้าวมันต้องใส่ใจพิถีพิถัน หั่นให้พอดีคำ ขั้นตอนการปรุงก็เหมือนกันก่อนจะทำอะไรก็ต้องเตรียมเครื่องก่อนกะปริมาณให้ถูกว่าต้องใส่อะไรเท่าไหร่ วันนี้พี่จะสอน ก็จำไปทำด้วยล่ะ" อนาคตมีครอบครัวใหม่เธอจะได้ไม่ลำบาก ใครทนกินกับข้าวฝีมือเธอได้เขาขอกราบคารวะ ต้องรักเธอมากจริงๆ
"ค่ะ" ยืนตัวแข็งเป็นท่อนไม้เลยทีนี่ อยากจะตั้งใจเรียนแต่สมองมันก็เบลอเหลือเกิน ตื่นเต้นจนมือสั่น
เมื่อสอนหั่นผักเสร็จแล้วเขาก็ค่อยๆ ถอยออกมา ผัดผักต้องใช้เครื่องปรุงอะไรบ้างเขาก็หยิบออกมาเตรียมไว้
"เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว อันดับแรกก็ตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันลงไป พอกระทะเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมลงไป กระเทียมมันมีประโยชน์มากรู้ไหมถึงไม่ชอบก็ต้องหัดกินบ้าง จะได้ไม่ป่วยง่าย ปีหนึ่งป่วยอยู่สี่ห้าครั้งมันก็บ่อยเกินไป ไม่มีใครอยู่ดูแลเราได้ตลอดไปหรอกนะ อันดับแรกเราต้องเริ่มจากการดูแลตัวเองก่อน" เขาจำได้ว่าตอนมาอยู่ด้วยกันแรกๆ เธอแทบไม่กินผักเลยเมนูหลักๆ ก็มีแต่อาหารฝรั่งพวกฟาดฟู้ดฝึกอยู่นานกว่าจะยอมกิน ต่างจากตอนนี้ที่ชอบกินผักขึ้นมาบ้าง เขาค่อยๆ สอนเธอช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบบอกวิธีกะปริมาณเครื่องปรุงให้เริ่มต้นจากการใส่น้อยๆ ก่อน ปรุงจืดก็ยังดีกว่าปรุงเค็มไม่งั้นมันจะแก้ยาก หากรสชาติยังไม่พอใจก็ค่อยๆ เพิ่มเครื่องปรุงไปทีละนิด ทุกการกระทำของเขาดูตั้งใจและพิถีพิถันราวกับว่าเคยเป็นเชฟมาก่อน..
"พี่ตุลย์เคยเป็นเชฟมาก่อนหรือเปล่าคะ"
"เมื่อก่อนพี่เคยเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว แต่ร้านก็ยังมีอยู่นะ พี่ให้เพื่อนเข้าไปทำต่อ" น่าจะเหลือแค่สามสาขาเองมั้งเขาก็ไม่ได้ไปดูนานแล้ว เขาชอบทำอาหารก็เลยอยากลองจับธุรกิจร้านอาหารดูแต่รู้สึกว่าได้กำไรค่อนข้างน้อยบวกกับเขาไม่มีเวลาเข้าไปดู ก็เลยต้องเซ้งให้เพื่อนเข้ามาทำแทน คนอย่างเขาจะทำทั้งทีวัถุดิบมันต้องดีต้นทุนก็เลยสูงมาก กำไรก็เลยเหลือเท่าหยิบมือ
"แล้วตอนนี้มีเปิดอยู่ที่ไหนบ้างคะเพียงอยากลองไปชิมดู" ไม่จำเป็นต้องพาเธอไปก็ได้แค่บอกชื่อร้านมาก็พอเธออยากชวนเพื่อนไปกิน..
"สาขาใกล้สุดก็น่าจะสุขุมวิท50 ใกล้ๆ กับโลตัสอ่อนนุช พี่ไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว รสชาติอร่อยหรือไม่อร่อยก็ต้องไปลองชิมดู" ไม่เคยคุยอะไรกับเธอแบบนี้เลยพอได้คุยมันก็ดีไปอีกแบบ จบกันไปแบบดีๆ ก็ยังดีกว่าเกลียดกันจนไม่อยากจะมองหน้า
"ใกล้กับห้องเสื้อของเพียงเลย เพียงมีร้านอยู่ในเซ็นจูรี่ฝั่งตรงข้าม" เมื่อก่อนเธอไปที่นั่นบ่อยเพราะมันเป็นสาขาแรกที่เธอเปิดแต่ตอนนี้เงียบมากบวกกับพิษเศรษฐกิจและอะไรหลายๆ อย่าง ที่อยู่มาได้เพราะเงินในกระเป๋าป๊าล้วนๆ ที่ช่วยอุ้มร้านลูกสาวไว้ พอเพียงเดินไปตักข้าวใส่จานคุยกับเขาไปเพลินๆ วันนี้เขามาแปลกคุยกับเธอดีขึ้นไม่หงุดหงิดเหมือนทุกครั้ง ทำไมทำดีแปลกๆ ไปทำอะไรผิดมาแน่ๆ
"แถวนั้นเงียบมากนะ ทำไมไม่ไปเปิดแถวสุขุมวิท33 พี่คิดว่าทำเลมันน่าจะดีกว่า" ปิดเตาเตรียมเสิร์ฟ ทำอีกหนึ่งเมนูง่ายๆ ก็น่าจะพอ
"เพื่อนเพียงเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่นั่นค่ะ เพียงก็เลยมาเปิดด้วย แต่ตอนนี้ร้านเพื่อนเพียงปิดไปแล้ว"
"ช่วงนี้ร้านอาหารผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดถ้าไม่อร่อยจริงๆ ก็อยู่ยาก" ตุลย์ภพทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่างพอเสร็จก็ตักใส่ถ้วย หันมองคนที่ยังยืนช่วยเขาหยิบจับนั่นนี่อย่างไม่เข้าใจ
" ไปนั่งได้แล้วไป"
พอเพียงเดินไปล้างมือแล้วกลับไปนั่งประจำที่ วันนี้เป็นวันแปลกๆ ที่ดีมากสำหรับเธอ สรุปแล้วสามีของเธอเป็นคนแบบไหนเธอก็ยังไม่รู้เลย บางทีเขาก็ดีบางทีก็ร้ายๆ แต่เป็นแบบวันนี้ก็ดีเหมือนกันเธอเองก็เหนื่อยที่จะต้องคอยฟาดฟัน..
สองสามีภรรยานั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ แต่บรรยากาศก็ดูผ่อนคลายขึ้นมาก..หลังจากกินเสร็จก็ช่วยกันล้างจานอะไรที่เธอไม่เคยทำก็ได้ทำ มันก็สนุกดีนะ
.......................