สองวันต่อมา
พอเพียงได้รับสายจากแม่ แม่ทิพย์โทรมาชวนให้เธอกับสามีไปกินข้าวที่บ้าน เย็นนี้จะมีแขกคนสำคัญมาที่บ้านนั่นก็คือ ว่าที่เจ้าสาวของเฮียหยางกับญาติฝั่งนั้นเธอไม่รู้ว่าใครมาบ้าง โทรไปบอกสามี สามีก็บอกว่าไม่ว่างให้เธอไปเลยแล้วยังบอกให้เธอนอนที่บ้านจะได้สะดวก หลายวันที่ผ่านมาเขาทำดีกับเธอมากก็จริงแต่มันก็มีอะไรที่ห่างออกไป เหมือนเขาจะค่อยๆ ถอยออกมา แต่ก็ยังคงนอนกอดเธอทุกคืน..
สามีเธอต้องเป็นไบโพล่าแน่ๆ .
บ้านรัตนบัลลังก์ เวลาห้าโมงเย็น..
"ทำกับข้าวเยอะขนาดนี้ กลัวว่าที่สะใภ้จะกินอาหารไทยไม่ได้เหรอคะม๊า" ม๊าเธอคงเห่อแหละ ลูกชายคนโตจะแต่งงานทั้งนี้ เธอโทรคุยเล่นกับต้าเหลียนน้องชายไม่รู้ว่าจะมาได้หรือเปล่าเห็นบอกว่ามีสอบพอดี ป๊าก็เลือกวันไม่ดูเลยไม่รู้ว่าจะรีบอะไรนักหนา
"อาหลินเพิ่งจะเรียนจบเมืองนอกมา ม๊าก็ไม่รู้ว่าจะกินอาหารไทยได้ไหม ก็เลยต้องทำทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง"
"ม๊า แล้วม๊าไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างเหรอ เรื่องที่อยู่ๆ ป๊าก็จับคู่ให้เฮีย เพียงไม่ค่อยโอเคเลยอะ ทำไมป๊าต้องทำแบบนั้นด้วย เฮียเองก็ไม่ได้อยากจะแต่ง" จบเมืองนอกดีกรีปริญาเอก โปรไฟล์ดีเลิศแล้วยังไง มันใช่เหตุผลที่ป๊าควรทำแบบนี้ซะที่ไหน ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ยังไม่ได้คุยกับป๊าเลย บอกตามตรงว่า งอน..
"เพียง อย่าพูดแบบนั้นสิลูก ถ้าเกิดแขกเขาเข้ามาได้ยินเขาจะรู้สึกยังไง" แม่ทิพย์เองก็ไม่ได้เห็นด้วยแต่ถามลูกชายแล้ว ลูกชายบอกว่าเต็มใจแต่งแม่ทิพย์ก็เลยต้องตามใจลูกชาย โตๆ กันแล้วแม่เองก็อยากเลี้ยงหลานรอลูกสาวคงไม่มีหวัง..
เวลาหกโมงเย็น..
แขกคนสำคัญก็มาถึง เจ้าสัวเดินออกไปต้อนรับคุณสุพัฒน์นักธุรกิจรุ่นน้องเคยล้มลุกคลุกคลานกันมาเมื่อตอนยังเป็นหนุ่ม..
"คุณลุงสวัสดีค่ะ" หญิงสาวรุ่นลูกยกมือขึ้นไหว้ด้วยกริยามารยาทงดงาม สมกับเป็นผู้ถูกเลือก สิริอัญญาเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลอนันต์วัฒน์ ร่ำลือกันว่าบุตรสาวบ้านนี้กิริยามารยาทงดงามทุกคน แต่คนนี้คือคนที่เหมาะสมและคู่ควรกับลูกชายเจ้าสัวมากที่สุด
เจ้าสัวเดินเข้าไปทักทายพูดคุยกับแขกทั้งสอง ใบหน้าอวบอิ่มยิ้มพึงพอใจ ต้องอย่างนี้สิ หากอาหยางเห็นก็คงถูกใจเหมือนที่เจ้าสัวถูกใจ
ภายในโต๊ะอาหารด้านใน หลังจากที่แขกคนสำคัญเดินเข้ามาทุกคนก็สวัสดีทักทาย เจ้าสัวเปิดโอกาสให้อาหยางได้ทำความรู้จักกับว่าที่เจ้าสาว ส่วนเจ้าสัวเองก็คุยเรื่องจัดงานแต่งกับคุณสุพพัฒน์ ได้เวลาเล่าขายลูกสาว สองปีที่ผ่านมาลูกสาวไม่ได้หายไปไหนแต่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็เลยต้องเลื่อนงานแต่งตอนนี้เรียนจบดอกเตอร์มหาวิทยาลัยดังเมืองฝรั่งเศษ บลาๆ สารพัดที่จะพูด..
พอเพียงกับแม่ทิพย์นั่งข้างๆ กัน สองแม่ลูกนิสัยออกจะคล้ายๆ กันก็ตรงที่ช่างสังเกต ยิ้มน้อยๆ คอยสังเกตการณ์ เมื่ออาหารค่ำมื้อใหญ่ผ่านไปแล้วก็ได้เวลาทำความรู้จักกันมากขึ้น
เมื่อได้โอกาสผู้หญิงอยู่ด้วยกันสามคนมีพอเพียง แม่ทิพย์แล้วก็สิริอัญญา ส่วนผู้ชายก็นั่งคุยกันอยู่ไม่ไกล เจ้าสัวตั้งใจให้ทั้งสามได้ทำความรู้จักกัน พอเพียงก็เลยได้โอกาสถามว่าที่พี่สะใภ้ ไหนๆ จะต้องเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอแล้วก็ต้องทำความรู้จักกันหน่อยหากเข้ากับครอบครัวของเธอไม่ได้ก็จะอยู่ยากหน่อย พูดไปอย่างนั้นแหละ ความจริงทุกคนในบ้านนี้ใจดีมากมีเพียงเธอเท่านั้นที่ผ่าเหล่า..
"พี่หลินเรียนจบที่ ENS paris เหรอคะ เพียงได้ข่าวว่าที่นั่นเข้าเรียนยากที่สุดเลยนะคะ เรียกได้ว่ารวมคนหัวกะทิเลยแหละค่ะ" ฝรั่งเศสเธอก็เคยไปเรียนแต่เรียนไม่จบหรอกนะ ไม่ไหวมันไม่ใช่ทางเธอชอบมหาวิทยาลัยที่อังกฤษมากกว่าก็เลยขอป๊าย้ายมาเรียนที่อังกฤษตามเพื่อน แต่พอมาเรียนก็จบได้เพราะเพื่อนอีกนั่นแหละ ป๊าอยากให้เรียนบริหารแต่เธอเลือกเรียนดีไซเนอร์ เริสไปอีก..
" อ้อ ใช่จ้ะพี่ก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอก แค่ระดับกลางๆ"
ระดับกลางๆ ถ่อมตนจริงๆ
"แล้วพี่เรียนเซกชันอะไรคะ" เธอหมายถึงหลักสูตรเพราะที่นั่นมีสองหลักสูตรเธอทำการบ้านมาดี
"เอ่อ.. คือพี่ พี่เรียน Letters จ้ะ" พอถามมาก สิริอัญญาก็ดูอ้ำอึ้งไม่อยากจะตอบ
" เพียงคิดว่าพี่เรียน Sciences ซะอีก" พอเพียงถามต่ออีกไม่กี่คำ สิริอัญญาก็ต้องกลับเพราะเดี๋ยวจะดึกเกินไป
หลังจากที่ได้พูดคุยกันพอเพียงก็คิดว่าผ่านถึงจะดูแปลกๆ ไปหน่อยแต่เข้ากับแม่เธอได้ พอเพียงก็เลยให้ผ่าน ดูม๊าจะชอบเพราะสิริอัญญาบอกว่าชอบทำขนมและยังพูดจาน่ารักเข้ากับม๊าได้ดี ส่วนกับเฮียนั้นเธอไม่ได้ถามถึง ถามไปก็เท่านั้นยังไงเฮียก็ต้องแต่งอยู่ดี
"อาเพียงป๊าขอคุยด้วยหน่อย" เหลือเวลาแค่อาทิตย์กว่าๆ แต่ลูกสาวยังดูปกติ คงยังไม่รู้เรื่องอะไร เจ้าสัวเองก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าลูกสาวเสียเอง
"ค่ะ ป๊ามีอะไรหรือเปล่า" ทำหน้างอนป๊าเล็กน้อย อยากจะงอนให้นานๆ แต่รักป๊าไง สุดท้ายก็ต้องมานั่งอ้อนป๊า
"ชีวิตคู่ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง" เจ้าสัวไม่เคยได้ถาม แต่รู้เพราะเฝ้าดูอยู่ตลอด รู้ว่าลูกสาวพยายามมากแค่ไหน ป๊าเองก็ทุกข์ใจที่เห็นลูกรักคนอื่นมากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่รักลูกสาวป๊าบ้างนะ มันเป็นความหวังเล็กๆ ของคนเป็นพ่อที่นั่งลุ้นมาตลอดในระยะเวลาปีครึ่ง ใจแกทำด้วยอะไรนะอาตุลย์ทำไมถึงไม่รักลูกสาวป๊าบ้างเลย...
"ก็ดีบ้างไม่ดีบ้างค่ะ" วันนี้ป๊าถามแปลกๆ นะปกติไม่เคยถามเลย
"ทุกข์กับสุขอะไรมีมากกว่ากัน"
"ทุกข์มั้งคะ ฮ่าๆ เพียงล้อเล่น เพียงมีความสุขดีค่ะป๊า" เมื่อเห็นสีหน้าของป๊าพอเพียงก็เปลี่ยนคำพูด เธอไม่อยากให้ป๊าเป็นห่วง ลูกสาวป๊าเก่งจะตายเมื่อเลือกเองก็ต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง
"อาเพียงคิดว่าชีวิตคู่เป็นยังไง มันสวยหรูอย่างที่ลูกฝันไว้ไหม" พูดไปก็สะเทือนใจ คนเป็นพ่อรู้ดีว่ามีส่วนที่ทำให้ลูกเสียใจ ยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่เจ้าสัวเองก็ไม่เคยพูดบอกใคร แม้กระทั่งกับภรรยาที่รักมาก เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอสิ่งที่แสดงออกมามันย่อมเป็นด้านดีมากกว่าด้านไม่ดี
"ไม่เลยค่ะ มันไม่สวยหรูเหมือนคู่ป๊ากับม๊าเลย ทำไมผู้ชายทุกคนถึงไม่เป็นเหมือนป๊านะ เพียงอยากให้มีอย่างป๊าล้านๆ คนบนโลกใบนี้ คนที่น่ารักอบอุ่นพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว" ชมป๊าซะยาวเลยแต่ดูหน้าป๊าจะเจื่อนๆ นะ เป็นการยิ้มรับที่ดูจะกระอักกระอ่วนใจยังไงๆ ลูกสาวชมขนาดนี้ทำหน้าเหมือนบอกบุญไม่รับ
"อาเพียงก็พูดชมป๊าเกินไป ป๊ามันก็ไม่ได้ต่างไปจากผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้หรอก รู้ไหมว่าอะไรที่ทำให้ผู้หญิงดูมีคุณค่าและอะไรคือสิ่งที่ทำให้ป๊ารักม๊ามากที่สุด" ชมขนาดนี้ป๊าก็ไปไม่ถูก อย่าลืมว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ
"อะไรเหรอคะ เพียงอยากรู้" อ้อมกอดป๊าอบอุ่นที่สุด ตอนเด็กเธอชอบให้ป๊ากินเยอะๆ จะได้มีพุงอยากกอดพุงป๊ามากกว่ากล้ามท้องแข็งๆ ตอนนี้สมใจแล้วพุงป๊ามีสามชั้นกอดแล้วอุ่นใจ
"สิ่งที่ทำให้มีคุณค่านั่นก็คือการรักตัวเองและป๊าก็รักม๊าตรงที่ม๊ารักและเห็นคุณค่าในตัวเอง ใครไม่รักก็ปล่อยมันไปแล้วหันกลับมารักตัวเอง เดี๋ยวสักวันหนึ่งเราก็จะได้เจอกับคนที่รักและเห็นค่าของเราจริงๆ"
"ป๊าพูดได้ทัชใจเพียงมากเลย เพียงต้องทำบ้างแล้วสิ ทุกวันนี้เพียงก็พยายามอยู่นะ แต่มันอยากจัง"
" อาเพียง ป๊าขอถามลื้อตรงๆ หากวันหนึ่งลื้อไม่มีอาตุลย์อยู่ข้างๆ แล้ว ลื้อจะอยู่ได้ไหม" มาขนาดนี้แล้วก็ถามไปตรงๆ เลย
" อยู่ได้สิคะ เพียงก็แค่กลับมารักตัวเองอย่างที่ป๊าบอกไง เพียงมีป๊ากับม๊าที่รักเพียงมากทำไมเพียงจะอยู่ไม่ได้ล่ะ"
" แล้วทำไมต้องรอให้ถึงวันที่ไม่มีอาตุลย์ กลับมารักตัวเองตอนนี้ อาเพียงทำให้ป๊าได้ไหม" รู้ไหมว่าป๊าใจจะขาด ป๊าไม่อยากให้อาเพียงเสียใจและไม่อยากให้อาเพียงเกลียดป๊า ป๊ามันไม่ใช่คนดีป๊ามันก็คือคนบาปคนหนึ่ง
" ทำไมอาป๊าถึงพูดแบบนั้นคะ มีอะไรหรือเปล่า" ใจเริ่มหวิวๆ ทำไมป๊าถึงพูดแปลกๆ รวมถึงการกระทำหลายๆ อย่างของคนที่เธอคิดว่ารักก็สอดคล้องกัน ป๊ากับเขามีอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆ
" ป๊าไม่ได้มีอะไรก็แค่บอกไว้ ขึ้นไปนอนได้แล้วลูก ดึกมากแล้ว"
"ค่ะ ความจริงเพียงงอนป๊าอยู่นะรู้ไหม แต่ตอนนี้เพียงหายแล้ว กู๊ดไนท์นะคะ จุ๊บ" ป้าดูเศร้าๆ จนเธอต้องหายงอน..
หลังจากวันนั้น ว่าที่พี่สะใภ้ของเธอก็ขยันทำคะแนน เห็นแม่เล่าว่าสิริอัญญาทำขนมไทยมาฝากม๊ากับทุกคนที่บ้านทุกวัน เลือกเข้าทางได้ถูกคนเชียวนะเพราะที่บ้านของเธอม๊าใหญ่ที่สุด ถ้าเข้าทางม๊าเธอได้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ส่วนเรื่องของเธอนั้นเข้าขั้นวิกฤติเหมือนจะดีขึ้นแต่มันกลับดูแย่ลงทุกวัน เหมือนสามีเธอกำลังจะสื่ออะไร เขาทำดีกับเธอขึ้นมากก็จริงแต่มันก็ดูห่างเหินจนเธอรู้สึกได้ เธอคงต้องกลับมารักตัวเองอย่างที่ป๊าขอ..พอชีวิตมันผ่านอะไรมามากมายมันก็สอนเธอได้ในหลายๆ อย่าง
.............................
บ้านเดี่ยวสองชั้น.. เวลาสองทุ่ม
หลังจากที่หลบหน้าหลบตาภรรยามาหลายวัน ก็ถึงเวลาที่เขาต้องพูดคุยกับเธอตรงๆ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าสู้หน้า เพียงแค่ยุ่งมาก ขอเวลาวางแผนเตรียมความพร้อมอะไรหลายๆ อย่างและสิ่งที่เขาทำ มันคงบอกอะไรเธอชัดเจน ยิ่งเธอไม่โวยมันยิ่งบ่งบอกว่าเธอน่าจะพอรู้แล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องพูดคุยกัน ความจริงเขาไม่ต้องรีบก็ได้เพราะไม่มีเวลาตายตัว ไปเมื่อพร้อม ใจลึกๆ เขาก็สงสารเธอนั่นแหละ...
"เพียงพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม" เขาเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ เธอ พอเพียงกำลังนั่งวาดชุดที่ออกแบบไว้ในไอแพด
"ค่ะ" เธอเงยหน้าขึ้นมอง เหมือนเตรียมใจไว้อยู่แล้ว วางไอแพดลงจากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับสามีหน้าเขาเศร้าไปนะ
"คือ ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่อง เรื่องดีๆมันก็มีพี่เองก็เห็น พี่เห็นทุกอย่างที่เพียงพยายามทำเพื่อพี่" พูดถึงตอนนี้เขาก็เงยหน้าเอาลิ้นดุนข้างแก้ม คงเครียดนั่นแหละ
"พี่ไม่อยากให้เพียงต้องมาเสียเวลากับคนอย่างพี่อีกต่อไปแล้ว ทำดีกับคนที่มันไม่เห็นค่าคนที่เจ็บก็คือตัวเพียงเอง จะโกรธเกลียดพี่ พี่ก็ไม่ว่าเพราะพี่รู้ตัวเองดี ว่าพี่มันเลวมากแค่ไหน" เรื่องนี้มันต้องจบลงด้วยดีสิวะ เขาได้แต่หวังอยู่ลึกๆ ลูกผู้ชายอย่างเขาถามว่ากล้ามองหน้าเธอไหมคำตอบคือไม่ ตอนนี้ได้แต่หันมองกำแพง..ที่ผ่านมาเขาเองก็พยายามทำในส่วนของเขาแล้วแต่มันไปต่อไม่ได้จริงๆอย่างที่บอกว่าเขาไม่อยากให้เธอมาเสียเวลาหรือเจ็บเพราะเขาอีกแล้ว
"พูดต่อเลยค่ะ" มีอะไรก็พูดมาเลย พูดมาให้หมดให้มันจบแค่วันนี้ ใจเธอมันก็เล็กแค่นิดเดียว มันรับความเจ็บปวดได้ไม่มากหรอก..
คำพูดของเธอทำให้เขาต้องเงยหน้าหันมอง อ้าวเธอดูนิ่งมาก ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเสียใจอย่างที่เขาคิดไว้นี่หว่า ใจหวิวเลยกู ไปต่อแทบไม่ถูก.. เธอไม่ได้เสียใจกับมึงเลยสักนิด..
"พี่ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา พี่พยายามแล้วแต่มันไปต่อไม่ได้จริงๆ ยิ่งอยู่กันไปมันก็รั้งแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง พี่อยากให้เรื่องของเรามีแต่ความทรงจำดีๆที่มีให้กัน ถ้าหากจะต้องจบกันไป พี่ก็อยากจะจบแบบดีๆ เพียงเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดใช่ไหมครับ" พูดจาสวยหรูดูดี.. เกินหน้าเกินตา
"ค่ะ" มือเล็กกำเข้าหากันแน่นโกรธแต่พยายามไม่แสดงอาการ ที่ผ่านมาเขาบอกว่าเขาพยายามแล้วอย่างนั้นเหรอ เขาพูดมาได้ยังไงว่าพยายาม พูดดีเข้าตัว ขอฟังอีกนิดอยากจะฟังให้จบภายในวันเดียว
"เรื่องทั้งหมดเพียงไม่ได้ผิดอะไร ที่ผ่านมาพี่ผิดเอง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง"
"อยากจะหย่าก็พูดมาตรงๆเลยค่ะ ไม่ต้องพูดอ้อมค้อม" อ้อมโลกไปสุดท้ายมันก็วนกลับมาที่เดิม
"พะ..พี่ขอโทษ แล้วเพียงหย่าให้พี่ได้ไหมครับ" โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก เบาจนเหมือนลอยได้ ลอยจนไม่รู้สึกตัว นี่กูกำลังดีใจหรือเสียใจอยู่วะ ทำไมมันถึงหวิวจนเหมือนจะตาย.. วิญญาณจะออกจากร่าง
"........" ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ
ตึกๆ.. ตึกๆ ตื่นเต้นกับคำตอบโคตรๆ เงียบจนได้ยินเสียหัวใจตัวเอง เธอเข้มแข็งกว่าที่เขาคิดไว้มาก นึกว่าเธอจะโวยวายด่าว่าเขาซะอีก