ช่วงก่อนหน้านี้เขามาค้างที่นี่บ่อยมากเพราะคิดถึงยัยหนูราเชลมาก เขามาอยู่ในที่ที่เธอเคยอยู่มาก่อนและนอนบนเตียงนุ่มที่เราเคยนอนคุยกันก่อนวันที่เธอจะไป วันนี้เขาจะต้องมาที่นี่อยู่แล้วเพราะรู้ว่าเธอจะมา เป็นไปได้ว่ามือปืนอาจจะเข้าใจผิดเพราะส่วนสูงของฌอนกับเขาใกล้เคียงกัน ฌอนมักจะแต่งตัวมิดชิดเลยอาจจะทำให้มีการรายงานพลาด แถมยังมีผ้าม่านกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งทำให้เห็นเงาแต่ไม่เห็นหน้า หรือไม่มันก็อาจจะคิดว่าเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ราเชลกลับมา
คนสั่งต้องการฆ่าเขาแน่นอน
ยัยหนูไม่ใช่เป้าหมาย
“พี่ว่าย้ายไปอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยไหม?”
“รำคาญน้าเฟื้อง”
“งั้นไปอยู่บ้านพี่ไหม?”
“ไม่!”
“หนูตอบเร็วเกินไปรึเปล่า คิดก่อนก็ได้มั้งยัยหนู”
“ต้องคิดด้วยเหรอ?”
“ราเชล…”
“เงียบ! หนูต้องการสมาธิเล่นเกมไม่งั้นแพ้แน่ แล้วอีกอย่างคอนโดของหนูใกล้จะแต่งเสร็จแล้วด้วย”
“ถ้าเราแต่งงานกันหนูก็ต้องไปอยู่กับพี่อยู่ดี”
“ใครจะแต่ง?”
“ก็หนูไงราเชล!”
“บ้าแล้ว!”
สิปปกรเดินไปล้มตัวลงบนเตียงนุ่มแล้วยิ้มกว้างด้วยความสบายใจมากที่มีคนรักอยู่เคียงข้างแบบนี้ รู้ไหมว่าการที่ยัยหนูราเชลกลับมาอยู่ใกล้หูใกล้ตาแบบนี้อีกครั้งเหมือนว่าชีวิตได้พบกับความสุขที่หายไปนานมากเลย เธอไปอยู่เมืองนอกนานครึ่งปีเพราะเรื่องงานด้วยส่วนหนึ่งและอีกส่วนคือหาเรื่องไปเที่ยว ก่อนจะกลับมาก็แวะไปเที่ยวกับพ่อแม่ของเขาหนึ่งเดือน แต่ว่าตาแก่หนังเหนี่ยวดันไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหนบนโลกนี้นอกจากใบ้ว่าเป็นประเทศติดกับทะเล
ประเทศมีเป็นร้อยใครจะเดาถูกวะ
พ่อแม่คงกลัวว่าเขาจะไปรับหลานรักกลับมา
“พี่สิปสั่งขนมมาให้หน่อยสิ”
“ครับคนสวย”
“คืนนี้ไปดื่มกันไหม?”
“งั้นคืนนี้พี่ค้างที่นี่นะ อยากนอนกอด”
“เดี๋ยวจะมอมเหล้าพี่”
“เดี๋ยวนี้คอแข็งพอจะเทียบกับคอพี่ได้แล้วรึไง พี่ไม่เมาง่ายๆหรอกนะ”
“คุณลุงบอกด้วยว่าอีกสามเดือนจะกลับบ้าน”
“กลับมาวันเกิดไอ้ศิ”
“อ่อ แบบนี้นี่เอง”
สิปปกรหยิบโทรศัพท์ไปสั่งขนมมาให้ยัยหนูกินเล่นระหว่างเล่นเกมทันที ตอนนี้พึ่งจะบ่ายโมงยังมีเวลาอีกเยอะที่เราจะอยู่ด้วยกันและเธออยู่ในสายตาของเขาคนเดียว เขานอนมองอยู่เงียบๆจนกระทั่งสะดุดตากับแหวนวงสวยที่นิ้วนางข้างซ้ายบอกให้คนอื่นรู้ว่ามีเจ้าของทั้งที่ไม่มีใครหรอก แหวนวงนั้นเขาใช้เพื่อขอคบเมื่อสองปีก่อนแต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างอ่อนโยนมาก แล้วราเชลก็สวมแหวนวงนี้ตามที่เขาขอมาโดยตลอด
น่ารักแบบนี้แล้วเขาจะไปไหนรอด
รักจนแทบบ้าแล้ว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเห็นภาพเด็กตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นเกมอย่างสนุกสนานอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา เธอสวยมากจริงๆนะ เขาส่ายหน้าเบาๆเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนจะเพ้อฝันไปไกลมากกว่านี้ แต่ว่าชุดเจ้าสาวสีขาวน่ารักนั้นเหมาะกับเธอมากเกินไปแล้ว เขาจะใส่ชุดเจ้าบ่าวที่สั่งตัดออกมาคู่กัน เราสองคนจับมืออย่างมั่นคงเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างมีความสุข แล้วจากนั้นก็จะมีเด็กตัวเล็กๆที่น่ารักสักสองคนกำลังดี เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าจนสามารถเลี้ยงหลานได้หลายคนเลย
แค่คิดถึงก็อุ่นวาบในอกแล้วสิ
แต่งงานวันนี้ได้ไหม
ดินเนอร์วันนี้เต็มไปด้วยความสุขมากจนยิ้มแทบแก้มแตก สิปปกรมองยัยหนูที่น่ารักตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ความน่ารักของเธอมันกระแทกใจซ้ำๆจนช้ำหมดแล้วรู้ตัวบ้างไหมนะ ทุกคำพูดเหมือนกำลังล่อลวงให้หลงใหลมากขึ้นกว่าเดิม คล้ายว่าเขากำลังดำดิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆแม้จะรู้ตัวแต่ก็ไม่สามารถหักห้ามใจได้เลยจริงๆ รอยยิ้มหวานที่เฝ้าคิดถึงมานานถึงครึ่งปีช่วยเยียวยาหัวใจที่แห้งเ**ยวให้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง
คลั่งรักแบบไม่มีสติ
คนรอบตัวว่าเขาแบบนี้ตลอด
“นี่เมนูใหม่เลยนะ ชอบไหม?”
“อื้ม! อันนี้อร่อย”
“งั้นก็กินเยอะๆนะ”
“พี่สิปก็ต้องกินเยอะๆเหมือนกันค่ะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้ทำงานหนักจนกลับบ้านไม่ไหวเลยไม่ใช่เหรอคะ?”
“เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ?”
“ก็เราเป็น…”
“เราเป็นคนที่รักกันไง อย่าพูดว่าพี่น้องเชียวนะราเชล พี่ไม่ยอมเป็นแค่พี่ชายหรอก”
“ไม่เปลี่ยนใจบ้างรึไงคะ?”
“ให้ตายก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอก แล้วอย่าคิดจะหายไปอีกครั้งด้วย พี่ไม่ยอมอีกแล้วนะราเชล ครึ่งปีที่หนูขอพี่ไปทบทวนหัวใจตัวเองมันนานมากนะสำหรับคนรอ”
“กลับมาเลี้ยงให้ไหวแล้วกัน!”
“คิดถึงพี่บ้างไหม?”
“คือ…”
“แกล้งตอบก็ได้ ถือว่าหลอกพี่ให้มีความสุขเถอะ”
“คิดถึงค่ะ”
เขาจับมือเธอบีบเบาๆแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุขมากจริงๆต่อให้คำว่าคิดถึงจะไม่ใช่ความคิดถึงเลยจริงๆก็ตาม เรารู้จักกันมานานมากและเขารักเธอมานานกว่าจะกล้าบอกรัก กล้าแสดงตัว กล้าขอคบและกล้าจะยอมรับความผิดหวังที่ทำเอาน้ำตาซึม แต่เขาไม่เคยยอมปล่อยเธอออกไปจากชีวิต ไม่เคยคิดตัดใจ เขาทำทุกอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆจนหลายคนเอือมระอาในสิ่งที่เป็นอยู่ เขาตามหึงหวงเธอเหมือนคนบ้าและไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใครใกล้ชิดมากกว่าตัวเองด้วย
ยัยหนูของเขาคู่ควรกับเขาคนเดียว
คนอื่นไม่มีสิทธิ์
“คืนนี้หนูสวยมากจนพี่ห้ามใจไม่มองไม่ได้เลย”
“ต่อให้หนูอยู่ในชุดวันเกิดพี่ก็มองอยู่ดี”
“ใครใช้ให้สวยตลอดเวลาล่ะ”
“พี่ศิรู้รึยังคะว่าหนูกลับมาแล้ว?”
“พี่ไม่ได้บอก”
“อ้าว!”
“เดี๋ยวพ่อแม่ก็บอกมันเองแหละ พอมันรู้ว่าหนูกลับมาก็คงจะวิ่งแจ้นมาหาทันที”
“ก็ดีออก”
“พี่ไม่ชอบ”
“คะ!?”
“พี่หวง”
“แต่ว่าพี่ศิเป็นน้องชายของพี่สิปนะ”
“ก็หวงอยู่ดี”
“หนูว่าพี่ต้องเช็คสมองบ้างแล้วแหละ หนูกับพี่ศิไม่มีวันเป็นอะไรกันได้นอกจากพี่น้อง แล้วพี่ศิก็ไม่น่าจะอยากมีปัญหากับพี่สิปด้วย” เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดจนบางครั้งก็อึดอัดและหงุดหงิดมาก พี่ศิที่พูดถึงคือน้องชายแท้ๆคลานตามพี่สิปออกมาเลย อีกอย่างคือพี่ศิก็มีคนรักอยู่แล้วแถมคบกันมาหลายปีแล้วด้วย พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะสนิทกับทุกคนในครอบครัวของเขา
อายุสามสิบแล้วยังคิดเล็กคิดน้อยไม่เปลี่ยน
หนักใจจริงๆนะ