2

1267 คำ
ช่วงก่อนหน้านี้เขามาค้างที่นี่บ่อยมากเพราะคิดถึงยัยหนูราเชลมาก เขามาอยู่ในที่ที่เธอเคยอยู่มาก่อนและนอนบนเตียงนุ่มที่เราเคยนอนคุยกันก่อนวันที่เธอจะไป วันนี้เขาจะต้องมาที่นี่อยู่แล้วเพราะรู้ว่าเธอจะมา เป็นไปได้ว่ามือปืนอาจจะเข้าใจผิดเพราะส่วนสูงของฌอนกับเขาใกล้เคียงกัน ฌอนมักจะแต่งตัวมิดชิดเลยอาจจะทำให้มีการรายงานพลาด แถมยังมีผ้าม่านกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งทำให้เห็นเงาแต่ไม่เห็นหน้า หรือไม่มันก็อาจจะคิดว่าเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ราเชลกลับมา คนสั่งต้องการฆ่าเขาแน่นอน ยัยหนูไม่ใช่เป้าหมาย “พี่ว่าย้ายไปอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยไหม?” “รำคาญน้าเฟื้อง” “งั้นไปอยู่บ้านพี่ไหม?” “ไม่!” “หนูตอบเร็วเกินไปรึเปล่า คิดก่อนก็ได้มั้งยัยหนู” “ต้องคิดด้วยเหรอ?” “ราเชล…” “เงียบ! หนูต้องการสมาธิเล่นเกมไม่งั้นแพ้แน่ แล้วอีกอย่างคอนโดของหนูใกล้จะแต่งเสร็จแล้วด้วย” “ถ้าเราแต่งงานกันหนูก็ต้องไปอยู่กับพี่อยู่ดี” “ใครจะแต่ง?” “ก็หนูไงราเชล!” “บ้าแล้ว!” สิปปกรเดินไปล้มตัวลงบนเตียงนุ่มแล้วยิ้มกว้างด้วยความสบายใจมากที่มีคนรักอยู่เคียงข้างแบบนี้ รู้ไหมว่าการที่ยัยหนูราเชลกลับมาอยู่ใกล้หูใกล้ตาแบบนี้อีกครั้งเหมือนว่าชีวิตได้พบกับความสุขที่หายไปนานมากเลย เธอไปอยู่เมืองนอกนานครึ่งปีเพราะเรื่องงานด้วยส่วนหนึ่งและอีกส่วนคือหาเรื่องไปเที่ยว ก่อนจะกลับมาก็แวะไปเที่ยวกับพ่อแม่ของเขาหนึ่งเดือน แต่ว่าตาแก่หนังเหนี่ยวดันไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหนบนโลกนี้นอกจากใบ้ว่าเป็นประเทศติดกับทะเล ประเทศมีเป็นร้อยใครจะเดาถูกวะ พ่อแม่คงกลัวว่าเขาจะไปรับหลานรักกลับมา “พี่สิปสั่งขนมมาให้หน่อยสิ” “ครับคนสวย” “คืนนี้ไปดื่มกันไหม?” “งั้นคืนนี้พี่ค้างที่นี่นะ อยากนอนกอด” “เดี๋ยวจะมอมเหล้าพี่” “เดี๋ยวนี้คอแข็งพอจะเทียบกับคอพี่ได้แล้วรึไง พี่ไม่เมาง่ายๆหรอกนะ” “คุณลุงบอกด้วยว่าอีกสามเดือนจะกลับบ้าน” “กลับมาวันเกิดไอ้ศิ” “อ่อ แบบนี้นี่เอง” สิปปกรหยิบโทรศัพท์ไปสั่งขนมมาให้ยัยหนูกินเล่นระหว่างเล่นเกมทันที ตอนนี้พึ่งจะบ่ายโมงยังมีเวลาอีกเยอะที่เราจะอยู่ด้วยกันและเธออยู่ในสายตาของเขาคนเดียว เขานอนมองอยู่เงียบๆจนกระทั่งสะดุดตากับแหวนวงสวยที่นิ้วนางข้างซ้ายบอกให้คนอื่นรู้ว่ามีเจ้าของทั้งที่ไม่มีใครหรอก แหวนวงนั้นเขาใช้เพื่อขอคบเมื่อสองปีก่อนแต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างอ่อนโยนมาก แล้วราเชลก็สวมแหวนวงนี้ตามที่เขาขอมาโดยตลอด น่ารักแบบนี้แล้วเขาจะไปไหนรอด รักจนแทบบ้าแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเห็นภาพเด็กตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นเกมอย่างสนุกสนานอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา เธอสวยมากจริงๆนะ เขาส่ายหน้าเบาๆเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมาก่อนจะเพ้อฝันไปไกลมากกว่านี้ แต่ว่าชุดเจ้าสาวสีขาวน่ารักนั้นเหมาะกับเธอมากเกินไปแล้ว เขาจะใส่ชุดเจ้าบ่าวที่สั่งตัดออกมาคู่กัน เราสองคนจับมืออย่างมั่นคงเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างมีความสุข แล้วจากนั้นก็จะมีเด็กตัวเล็กๆที่น่ารักสักสองคนกำลังดี เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าจนสามารถเลี้ยงหลานได้หลายคนเลย แค่คิดถึงก็อุ่นวาบในอกแล้วสิ แต่งงานวันนี้ได้ไหม ดินเนอร์วันนี้เต็มไปด้วยความสุขมากจนยิ้มแทบแก้มแตก สิปปกรมองยัยหนูที่น่ารักตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ความน่ารักของเธอมันกระแทกใจซ้ำๆจนช้ำหมดแล้วรู้ตัวบ้างไหมนะ ทุกคำพูดเหมือนกำลังล่อลวงให้หลงใหลมากขึ้นกว่าเดิม คล้ายว่าเขากำลังดำดิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆแม้จะรู้ตัวแต่ก็ไม่สามารถหักห้ามใจได้เลยจริงๆ รอยยิ้มหวานที่เฝ้าคิดถึงมานานถึงครึ่งปีช่วยเยียวยาหัวใจที่แห้งเ**ยวให้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง คลั่งรักแบบไม่มีสติ คนรอบตัวว่าเขาแบบนี้ตลอด “นี่เมนูใหม่เลยนะ ชอบไหม?” “อื้ม! อันนี้อร่อย” “งั้นก็กินเยอะๆนะ” “พี่สิปก็ต้องกินเยอะๆเหมือนกันค่ะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้ทำงานหนักจนกลับบ้านไม่ไหวเลยไม่ใช่เหรอคะ?” “เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ?” “ก็เราเป็น…” “เราเป็นคนที่รักกันไง อย่าพูดว่าพี่น้องเชียวนะราเชล พี่ไม่ยอมเป็นแค่พี่ชายหรอก” “ไม่เปลี่ยนใจบ้างรึไงคะ?” “ให้ตายก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจหรอก แล้วอย่าคิดจะหายไปอีกครั้งด้วย พี่ไม่ยอมอีกแล้วนะราเชล ครึ่งปีที่หนูขอพี่ไปทบทวนหัวใจตัวเองมันนานมากนะสำหรับคนรอ” “กลับมาเลี้ยงให้ไหวแล้วกัน!” “คิดถึงพี่บ้างไหม?” “คือ…” “แกล้งตอบก็ได้ ถือว่าหลอกพี่ให้มีความสุขเถอะ” “คิดถึงค่ะ” เขาจับมือเธอบีบเบาๆแล้วยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุขมากจริงๆต่อให้คำว่าคิดถึงจะไม่ใช่ความคิดถึงเลยจริงๆก็ตาม เรารู้จักกันมานานมากและเขารักเธอมานานกว่าจะกล้าบอกรัก กล้าแสดงตัว กล้าขอคบและกล้าจะยอมรับความผิดหวังที่ทำเอาน้ำตาซึม แต่เขาไม่เคยยอมปล่อยเธอออกไปจากชีวิต ไม่เคยคิดตัดใจ เขาทำทุกอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆจนหลายคนเอือมระอาในสิ่งที่เป็นอยู่ เขาตามหึงหวงเธอเหมือนคนบ้าและไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใครใกล้ชิดมากกว่าตัวเองด้วย ยัยหนูของเขาคู่ควรกับเขาคนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์ “คืนนี้หนูสวยมากจนพี่ห้ามใจไม่มองไม่ได้เลย” “ต่อให้หนูอยู่ในชุดวันเกิดพี่ก็มองอยู่ดี” “ใครใช้ให้สวยตลอดเวลาล่ะ” “พี่ศิรู้รึยังคะว่าหนูกลับมาแล้ว?” “พี่ไม่ได้บอก” “อ้าว!” “เดี๋ยวพ่อแม่ก็บอกมันเองแหละ พอมันรู้ว่าหนูกลับมาก็คงจะวิ่งแจ้นมาหาทันที” “ก็ดีออก” “พี่ไม่ชอบ” “คะ!?” “พี่หวง” “แต่ว่าพี่ศิเป็นน้องชายของพี่สิปนะ” “ก็หวงอยู่ดี” “หนูว่าพี่ต้องเช็คสมองบ้างแล้วแหละ หนูกับพี่ศิไม่มีวันเป็นอะไรกันได้นอกจากพี่น้อง แล้วพี่ศิก็ไม่น่าจะอยากมีปัญหากับพี่สิปด้วย” เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดจนบางครั้งก็อึดอัดและหงุดหงิดมาก พี่ศิที่พูดถึงคือน้องชายแท้ๆคลานตามพี่สิปออกมาเลย อีกอย่างคือพี่ศิก็มีคนรักอยู่แล้วแถมคบกันมาหลายปีแล้วด้วย พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วเลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะสนิทกับทุกคนในครอบครัวของเขา อายุสามสิบแล้วยังคิดเล็กคิดน้อยไม่เปลี่ยน หนักใจจริงๆนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม