1

1455 คำ
แววตาดุดันภายใต้แว่นกันแดดสีชามองหายัยหนูตัวน้อยที่คิดถึงมาตั้งนานกว่าเธอจะกลับอีกครั้ง ราเชลไม่ได้เป็นคนบอกเองหรอกว่าจะกลับมาวันไหน แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอแอบกระซิบบอกเขาให้รู้ตัวก่อนใคร ที่นี่คือโรงแรมหรูที่เขามีหุ้นส่วนและเธอจะพักอยู่ที่นี่หนึ่งเดือนก่อนจะย้ายไปอยู่ที่คอนโด ส่วนบ้านราเชลไม่ค่อยกลับเพราะไม่ค่อยชอบเมียใหม่ของพ่อตัวเองเท่าไร อีกอย่างคือไม่สนิทกับพ่อเพราะก่อนหน้านี้อยู่กับแม่มาโดยตลอดจนกระทั่งแม่เสียด้วยโรคร้าย แม่ของเธอฝากให้เขาช่วยดูแล ยัยหนูน้อยของเขา “คุณสิปปกรคะคือว่าคุณหนูยังไม่ออกจากห้องเลยค่ะ” “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?” “ไม่มั่นใจค่ะ ก่อนหน้านี้คุณหนูโทรสั่งอาหารทานเล่นไปแล้วก็ห้ามคนเข้าไปรบกวน ขนาดคุณฌอนยังถูกไล่ออกมาเลย ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่ามีปัญหาอะไรไหม” “เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูเอง แล้วก็จองร้านอาหารไว้ให้ด้วย” “ค่ะคุณสิปปกร” สิปปกรเดินขึ้นไปที่ลิฟต์แล้วกดไปยังชั้นสูงสุดที่ต้องการ เมื่อก่อนเขาก็เคยพักที่นี่ในช่วงเรียนอยู่ แต่พอเรียนจบก็ย้ายออกไปอยู่คฤหาสน์ของตัวเองที่ปู่ยกให้ ส่วนพ่อแม่เกษียณอายุก่อนวัยไปเที่ยวรอบโลกกันสองคนและยกงานให้ลูกชายสองคนดูแลแทนแบบไม่เป็นห่วงเลยสักนิดว่าจะรับมือไหวไหม เขาคือสิปปกรเป็นลูกชายคนโต ศิรากรคือน้องชายของเขาเอง พ่อแม่ของเขารู้จักกับพ่อแม่ของราเชลมานานมากนั่นเลยทำเราสองคนเลยสนิทกัน เขาแสดงออกชัดว่ารักน้องแบบคู่รักไม่ใช่แบบพี่ชายมาประมาณสองปีแล้วมั้ง เขาตามจีบเธอตลอดเวลาที่ทำได้ ตามหึงตามหวงจนแทบบ้าและหวังว่าราเชลจะรักกันบ้างในสักวัน แต่ยัยหนูคนดีของเขานี่สิดันหนีไปอยู่เมืองนอกนานครึ่งปีกว่าจะยอมกลับมาอีกครั้ง เธอพึ่งเรียนจบได้ไม่นานและกำลังศึกษางานเพื่อจะขึ้นมาเป็นผู้บริหาร เขาพร้อมจะผลักดันราเชลทุกอย่าง นี่มันหน้าที่ของคนรัก ประตูลิฟต์เปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรม สิปปกรเดินตรงไปยังหน้าประตูห้องแล้วสแกนลายนิ้วมือเปิดเข้าไปอย่างง่ายดาย ห้องนี้มีแค่สี่คนที่เข้าได้นั่นคือเขา น้องชาย พ่อและล่าสุดก็คือยัยหนูราเชลนี่ไงล่ะ พ่อเป็นคนบอกให้เธอมาอยู่ที่นี่หากไม่อยากอยู่บ้านเพราะมั่นใจในความปลอดภัยทุกอย่าง อีกอย่างคือที่นี่สะดวกสบายมากสำหรับเธอด้วย พอพ่อเสนอไปแบบนั้นยัยหนูของเขาก็ตอบตกลงทันทีแบบไม่มีลังเลเลย ช่วงนี้มีคนลอบทำร้ายเธอ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด “ราเชลทำอะไรอยู่?” “พี่สิป!” “ตกใจอะไรล่ะ คิดถึงพี่ไหมห่ะยัยหนู?” “กำลังคิดถึงพอดีเลยค่ะ มาทางนี้เร็ว” ว่าจะไม่เขินแล้วนะ แต่ถูกเธอจับมือแล้วใจเต้นแรงเลย สิปปกรเดินตามเหมือนไร้เรี่ยวแรงจะต้านทานคนตัวเล็กที่จับมือดึงให้ไปดูหน้าต่างกระจก ใบหน้าระรื่นเปลี่ยนสีแทบจะทันทีที่เห็นบางอย่างที่ไม่ควรมีติดอยู่แบบนี้ กระสุนติดอยู่หน้าต่างเพราะไม่สามารถจะทะลุเข้ามาได้เนื่องจากว่าเป็นกระจกกันกระสุนอย่างดีที่สุด มือเล็กปล่อยมือของเขาออกแล้วเงยหน้ามองด้วยแววตาครุ่นคิดว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่ เขาปิดผ้าม่านแล้วมองยัยหนูที่ไม่ยอมให้ใครเข้าพบ ส่วนฌอนที่อยู่ด้านล่างคงจะสังเกตว่ามีใครน่าสงสัยเป็นพิเศษ ถึงเวลาเป็นฮีโร่แล้วสินะ พี่จะปกป้องแม่แก้วตาดวงใจเอง “พี่อยู่ตรงนี้แล้วไม่มีอะไรที่ต้องกลัวนะ” “หนูไม่ได้กลัว” “อ้าว!” “แค่เรียกให้มาดูเฉยๆ พวกมันทำพลาดขนาดนี้คงจะถูกเก็บต่อแน่” “หนูไม่กลัวจริงเหรอ?” “ไม่ค่ะ พี่สิปก็รู้ว่าเราเจอเรื่องแบบนี้กันบ่อย ถ้าหนูจะตายป่านนี้คงตายไปนานแล้ว” “หนูไม่ต้องแกล้งเข้มแข็งเพื่อให้พี่สบายใจหรอก อยู่กับพี่หนูอ่อนแอได้” “หนูว่า…พี่กินยาลืมเขย่าขวดรึเปล่าคะ?” “ยัยหนู…” “ปล่อยมือ” “หนูอยากให้พี่กอดแทนใช่ไหม ได้สิยัยหนู” “ไม่!!” “ราเชล!” “พี่รันอยู่ไหนเนี่ย?” “ถามหามันทำไม?” “ก็มาเอาพี่สิปออกไปไง!” เธอสะบัดมือใหญ่ออกจนได้ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่แล้วมองตามเขา พี่สิปเดินไปเทไวน์มาสองแก้วและหยิบผลไม้มาให้ด้วย ราเชลยื่นมือรับและยกขึ้นมาดื่มด้วยความหวั่นใจในสายตาเหมือนจะกลืนกินนี้จริงๆ พี่สิปจีบเธอมาสองปีกว่าแล้ว อุส่าห์หนีไปเมืองนอกกลับมาก็ยังเหมือนเดิม เราสองคนรู้จักกันมานานพอสมควรเพราะครอบครัวรู้จักกัน แล้วเริ่มสนิทกันมากขึ้นในช่วงที่แม่ของเธอเสียชีวิตเพราะคุณลุงเป็นห่วงเลยแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ เมื่อตอนเธออายุยี่สิบปีเขาให้ของขวัญวันเกิดเป็นแหวนแล้วสารภาพรักในคืนนั้น เขาบอกว่ารักเธอตั้งแต่วันแรกแต่เพราะว่าอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเลยไม่ได้แสดงอะไรออกมาชัดเจน หลังจากสารภาพรักเขาเปลี่ยนไปและเราไม่ได้คบกัน แต่เขาก็ตามวอแวแบบนี้ตลอดจนไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะเดี๋ยวจะเจ็บตัว ครึ่งปีก่อนเธอหนีเข้าไปอยู่เมืองนอก พ่อแม่ของพี่สิปบอกว่ากลับมาเธอไม่รอดมือเขาแน่ “สงสัยใคร?” “ไม่รู้สิ” “หรือจะเป็นเรื่องที่พ่อของพี่เตือนนะ” “อะไรเหรอคะ?” “ก็ทรัพย์สมบัติไง” “แล้ว?” “มีคนไม่ต้องการให้หนูได้มันไป” “พี่จะบอกว่าเป็นฝีมือของน้าเฟื้องเหรอคะ?” “แม่เลี้ยงของหนูฉลาดขนาดนั้นเหรอ?” “ยัยนั่นฉลาดแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้นแหละ!” “เฮ้อ…เดี๋ยวหนูคิดเองดีกว่าว่าเป็นใคร ว่าแต่พี่สิปมาทำไมคะ หนูไม่ได้โทรตามเลยนะ” “หวานใจกลับมาทั้งที” “หวานใจ!?” “ก็หนูไง พี่มารับไปดินเนอร์แล้วก็จะพาไปเที่ยวด้วย” “หนูพึ่งกลับมาถึงยังไม่ทันข้ามวันเลย ยังไม่หายเหนื่อยพอจะไปเที่ยวได้หรอก แต่ถ้าดินเนอร์อย่างเดียวได้ค่ะ” “โอเค ดินเนอร์อย่างเดียวก็ได้” ราเชลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความบอกพี่ฌอนให้ไปพักผ่อนได้เลยเพราะดูท่าว่าจะมีคนดูแลแทน แถมเขาจะเป็นบ้าเอาได้ถ้าเธอกับบอดี้การ์ดใกล้ชิดกันมากเกินไป จากนั้นก็กดข้อความชวนพี่ฌอนเล่นเกมในทีมเดียวกัน เธอกับพี่ฌอนติดเกมเหมือนกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยเล่นจนเสียการงานหรอกนะ พี่ฌอนจะเล่นแค่ในเวลาพัก ส่วนเธอจะเล่นในตอนที่ว่าง ว่าแต่ทำไมมีคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ยุ่งไปซะทุกเรื่องจริงๆ “หนูยังชอบเล่นเกมอยู่เหรอ?” “อื้ม” “งั้นพี่เล่นด้วยสิ” “แต่ว่าพี่สิปไม่เล่นเกมไม่ใช่เหรอคะ? "ถ้าพี่ชนะ...หนูต้องยอมเป็นเมีย ถ้าหนูแพ้...พี่จะยอมเป็นผัว เกมง่ายๆสนใจไหม?" "เกมบ้าอะไรเนี่ย!" "ไหนหนูบอกว่าชอบเล่นเกมไง พี่ก็ชอบเล่นเหมือนกัน หนู...ไม่สนใจจริงๆเหรอ? "หนูว่าพี่สิปต้องไปเช็คสมองแล้วแหละ!” เขาแอบมองเด็กติดเกมแบบไม่เคยเบื่อทั้งที่เล่นมาตั้งนาน เธอเคยแอบเปิดช่องสตรีมโดยปิดบังตัวตนทุกอย่างอยู่พักหนึ่งหลังจากนั้นก็ปิดช่องไปเพราะกลัวจะหลุดความลับเรื่องฐานะของตัวเองว่าเป็นใคร สิปปกรลุกขึ้นยืนแล้วนึกถึงกระสุนที่ติดกับหน้าต่างด้วยความสงสัยมาก จากนั้นเขาเดินออกไปดูอีกครั้งและโทรสั่งรันให้เข้าไปตรวจสอบทิศทางและจุดที่มันน่าจะยิงมา ราเชลกลับก่อนกำหนดเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ หรือมันจะเข้าใจผิดว่าเป็นเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม