ต่อมาความเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้น เมื่อมาเฟียตัวพ่ออีกคน และเป็นเพื่อนรักของไทเลอร์ ได้เดินทางมาถึงโรงแรม Rock star hotel and casino พร้อมกับผู้ติดตามกว่ายี่สิบคน จากนั้นไทเลอร์จึงเชิญให้ขึ้นไปบนห้องทำงาน เฉพาะคนสำคัญเท่านั้น
“คุณไทเลอร์ครับ คุณแม็คคอยมาแล้ว” อัลเฟรดเดินมากระซิบบอกเมื่อไทเลอร์ยืนอยู่ริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่เหมือนอย่างเคยและเมื่อได้ยินชื่อเพื่อนรัก ไทเลอร์จึงรีบหันมาพร้อมกับเอ่ยปากอนุญาต แต่ยังไม่ทันได้พูดด้วยซ้ำแบรดลี่ย์ แม็คคอย ก็ถือวิสาสะเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามคนสนิทพอดี
“ฉันรอไม่ไหวอยากจะเป็นเจ้าของที่นี่จะแย่ ทำไมต้องรอให้นายอนุญาตก่อนวะถึงจะเข้ามาได้” แบรดลี่ย์ออกปากบ่นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินมาหาไทเลอร์และสวมกอด ไทเลอร์กอดตอบเพื่อเป็นการทักทาย
“ขอบใจที่มาเพื่อน” ไทเลอร์บอกเสียงเรียบแต่ยังคงยิ้มอยู่
“ยินดีเสมอ” แบรดลี่ย์ตอบกลับก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาตัวกว้างทรงหลุยส์ พลางมองหน้าไทเลอร์ด้วยความเป็นห่วง
“ถามจริงๆ และถามอีกครั้ง เอาจริงใช่ไหม” แบรดลี่ย์ถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“ฉันประชุมกับผู้บริหารแล้ว ถึงจะทำใจไม่ได้ก็ต้องยอมเพราะฉันเป็นเจ้าของ” ไทเลอร์อธิบายก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงข้าม
“ก็แหงล่ะ เจ้าของอยากขายก็ต้องยอม อีกอย่างไอ้คนซื้อก็อยากซื้อเลยนะเนี่ย แต่ขอไว้อย่างนะเพื่อน ตัวไปแต่ชื่อขอให้เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ เดี๋ยวจะปันหุ้นให้ปีละครั้ง”
“ฟังดูเหมือนจะเป็นเกียรติมากครับท่าน ว่าที่ท่านประธานคนใหม่” ไทเลอร์แซวและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“จะได้มีค่าขนมไว้จ่ายให้สาวๆ ไง”
“ฉันไม่ใช่คนอย่างแก ฉันรักเดียวใจเดียว แต่ยังไม่มีให้รักเท่านั้นเอง”
“สำหรับฉัน ฉันเลิกแล้ว หยุดแล้วอย่าพูดสิ ในห้องนี้คนของเธอก็อยู่” แบรดลี่ย์พูดพลางปรายตามองไปที่บอดี้การ์ดคนสนิทเป็นหลัก
“ฮ่าๆ แกสูญเสียการปกครอง ลูกน้องไม่เชื่อฟัง คนสนิทก็แปรพรรค” ไทเลอร์หัวเราะลั่นตามสไตล์คนอารมณ์ดี
“เอาน่า เอ่อถามอีกครั้งก่อนจะเซ็นเอกสาร” แบรดลี่ย์ถามด้วยน้ำเสียงเครียดขึ้น ไทเลอร์จึงได้แต่ยักไหล่ตามสบาย
“วางจากทุกอย่างแล้วจะไปทำอะไรเพื่อน จนเลยนะ”
“ฉันขายโรงแรมกับคาสิโนให้แกในราคาเป็นหลายพันล้านเหรียญ เรียกว่าจนเหรอวะ”
“ก็จนไง แกจะไปทำอะไรล่ะเพื่อน” ให้ตายสิแบรดลี่ย์ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าไทเลอร์กำลังคลั่งรถหรูอย่างเป็นทางการ ทั้งที่เมื่อก่อนก็คลั่งแต่ไม่ได้แสดงตัวมากเท่าไหร่
“เอาเงินไปหว่านเล่น แล้วก็เที่ยวรอบโลกคนมีพันธะไม่ต้องมาอิจฉาฉันเลย” ไทเลอร์แกล้งพูดเล่นไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่ไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียวและเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ไทเลอร์จึงได้เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้เพื่อนรักฟังอย่างถี่ถ้วน แบรดลี่ย์จึงได้เข้าใจและพร้อมเซ็นเอกสารทั้งหมดที่ไทเลอร์เตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย
และที่ลืมไม่ได้เลยคือแบรดลี่ย์ขอให้ไทเลอร์เป็นผู้มีสิทธิ์ถือหุ้นอยู่ในโรงแรมกับคาสิโนของตัวเองอยู่สามสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามากโข เพราะไม่อยากจะให้ไทเลอร์ทิ้งทุกอย่างไปจริงๆ อยากให้เหลือชื่อผู้ถือหุ้นเอาไว้ ส่วนธุรกิจอย่างอื่นที่มันไม่ดี ไทเลอร์ต้องยอมถอยออกมาให้ห่าง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเอง วางมือแล้วไปไกลๆ เพราะหวังจะได้พบสิ่งๆ ดีในชีวิตเหมือนอย่างที่ทุกคนรอบกายหวัง และไทเลอร์เองก็เบื่อหน่ายพอแล้ว
เมื่อธุรกิจของไทเลอร์ถูกถ่ายโอนไปยังเพื่อนรักที่เคยหักเหลี่ยมโหด เวลานี้ไทเลอร์เหลือแต่ตัว กับเงินอภิมหามหาศาลที่ถูกโอนเข้าบัญชี จากที่เขามีเงินมากพอในระดับบิลเลี่ยนแนร์ แต่ตอนนี้มันขยับเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แทบจะเรียกได้ว่าใช้สักสิบชาติก็ยังไม่ได้หมด ถ้าหากเขาไม่เอาไปถลุงในตลาดหุ้นเสียก่อน แล้วไทเลอร์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จากมาเฟียเจ้าของโรงแรมและคาสิโน เวลานี้เขากลายเป็นเจ้าพ่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ และคว้าเพียงธุรกิจหนึ่งเดียวมาไว้ในครอบครอง เคยทำควบคู่กับคาสิโน ตอนนี้บริหารอยู่อย่างเดียว มันทำให้เขามีเวลาทำหลายๆ อย่าง แต่อุปนิสัยกลับกลายเป็นคนเคร่งขรึม เพราะต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะทำอย่างไรธุรกิจถึงจะทำกำไรได้อย่างงดงาม อีกอย่างมันยังขายตัวมันเองไม่ได้เหมือนกับโรงแรม ยอดขายมีขึ้นและลงเสมอ
ไทเลอร์กลายเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการแล้วว่า Automobile Adam USA ตอนนี้ไทเลอร์กำลังรุดหน้าเปิดตลาดเอเชีย เช่นประเทศอภิมหาเศรษฐีอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรต ซึ่งมีศักยภาพสูงในระดับโลกในการซื้อและคลั่งไคล้รถหรูราคาจับต้องได้ชนิดนี้ จากนั้นค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ อีกนิดคือ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน และประเทศที่น่าสนใจมากที่สุดของไทเลอร์ตอนนี้คือประเทศไทย แต่เขาต้องหาข้อมูลว่า ช่วงเวลาไหนเหมาะสำหรับการเปิดตัวยนตรกรรม ที่คาดว่าน่าจะรวมเอารถหรูระดับโลกเข้าไปเปิดตัวพร้อมกันนั่นคือ งานมอเตอร์โชว์ ที่กำลังจะถูกจัดขึ้นในประเทศไทยปีละหนึ่งครั้ง และแน่นอนว่าไทเลอร์ อดัม เข้าร่วมเปิดตัวรถยนต์ของตัวเองเช่นกัน
ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นนับปี ไทเลอร์ รุดหน้าเปิดบริษัทในประเทศไทยเพื่อนำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้บริหารร่วมเป็นคนไทย เนื่องจากว่าเขาเป็นชาวต่างชาติ ไม่สามารถถือสิทธิ์อย่างเต็มตัวได้ จึงได้ขอความร่วมมือจากเพื่อนคนไทย ให้นั่งเก้าอี้เป็นผู้บริหารนั่นเอง ส่วนเจ้าของที่แท้จริงแน่นอนว่าคือไทเลอร์ เมื่อมีบริษัทอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ก็ดำเนินการเรื่องการเปิดตัวรถหรูทันที
ไทเลอร์ให้ทีมงานทุกคนติดต่องานและจองสถานที่สำหรับจัดงานเอาไว้ก่อนล่วงหน้าสองเดือน ทว่าการโชว์รถหรูราคาแพงก็ย่อมต้องคู่กับสาวสวยเป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นต้องเฟ้นหานางแบบพริตตี้ระดับมืออาชีพมาช่วยในการพรีเซนต์เพื่อดึงดูดให้มหาเศรษฐีกระเป๋าหนัก หันมาให้ความสนใจรถ หรืออาจจะสนใจคนด้วยก็เป็นได้