“อัลเฟรดติดต่อผ่านเอเจนซี่ ให้หานางแบบได้เลยนะ” ไทเลอร์เอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนพร้อมกันที่ห้องประชุมของบริษัทเรียบร้อยรวมถึงทีมงานไทย
“ได้ครับ แต่ผมก็ต้องลงไปศึกษาดูงาน อย่างเช่นพวกงานอีเว้นท์เสียก่อนเผื่อเจอนางแบบถูกใจ” หากให้ตีความคำพูดของอัลเฟรด คือต้องการไปเห็นตัวจริงแล้วชี้เอามาเลยมากกว่ากระมัง
“ให้เอเจนซี่หาให้ดีกว่า เขารู้จักนางแบบมากกว่าเรา แต่แค่ให้ติดต่อนะมายังไม่เอา” ไทเลอร์บอกเสียงเรียบ
“ยังไม่เอา หมายความว่ายังไงครับเจ้านาย” อัลเฟรดถามด้วยความสงสัย แต่ไทเลอร์กลับยิ้มเจ้าเล่ห์แทน
“ก็หมายความว่ายังไม่เอา ฉันจะเลือกเอง ต้องถูกใจคนจ้างเสียก่อนสิ ถูกใจคนหาให้อย่างเดียวไม่ได้หรอก”
“เอ่อ...” อัลเฟรดแทบจะชักสีหน้าสงสัยไม่ไว้ใจ เพราะรู้สึกว่าไทเลอร์กำลังมีแผนบางอย่างที่เรียกได้ว่าเจ้าเล่ห์เอามากๆ
“อย่ามาทำหน้าแบบนี้ นายไม่ต้องทำเองหรอกนะ ให้เจสซี่เป็นคนจัดการ ผู้หญิงจะรู้งานมากกว่าเรา ได้ไหมเจสซี่” ไทเลอร์หันไปถามผู้ช่วยสาวผมบลอน สวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมเพื่อขอความเห็น
“ได้ค่ะ เดี๋ยวจะติดต่อโมเดลลิ่งให้เรียบร้อยค่ะ” เจสซี่ตอบเสียงเรียบ
“การคัดเลือกนางแบบด้วยตัวเอง มีนัยยะสำคัญอะไรหรือเปล่าครับ” อัลเฟรดถามและยิ้มอย่างรู้ทัน
“ไม่มีนัยยะ ก็แค่อยากจะให้พรีเซนต์ตัวเองก็เท่านั้น จะได้ไม่ต้องเกร็งเวลาที่ให้ทำงานจริงๆ ถูกใจก็จ้าง ไม่ถูกใจก็ไม่จ้าง คิดอะไรอยู่ หืม” ไทเลอร์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบและแสร้งปรายตามองไปทางอื่น
“เปล่านี่ครับ ผมนึกว่าคุณอยากจะทดลองงาน” ทดลองอย่างนั้นหรือ ให้ตายสิ ทำอย่างกับเขาเป็นคนแบบนั้น
“ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น” ไทเลอร์ปฏิเสธจริงจัง
“คุณไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น แต่คุณไม่ชอบลองของมั่วๆ ชอบมอง มองให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย และคุณรักเดียวใจเดียว แต่ก็มี...” อัลเฟรดพูดราวกับรู้ดีหนักหนา ทว่ายังพูดไม่ทันได้พูดจบไทเลอร์ก็แทรกขึ้นเสียก่อน
“หุบ – ปาก นั่นมันเป็นความสุขทางกาย แต่จะไม่ทำกับผู้ร่วมงาน จำไว้ นี่ประชุมกันนะเนี่ย พูดอะไรเรื่องส่วนตัว” ยังดีที่ไทเลอร์เป็นคนอารมณ์ดี ไม่ถือสา ไม่อย่างนั้นละก็อัลเฟรดเป็นได้ถูกด่าต่อหน้าทีมงานแน่ๆ
“โธ่เจ้านายผมเคยเห็นนะ อีกอย่างเจ้านายก็รู้ว่าผู้หญิงไทยน่ารักแค่ไหน ถึงขนาดที่สามารถเอามาเฟียแบดบอยอย่างเพื่อนคุณได้อยู่หมัด” อัลเฟรดคงหมายถึงแบรนลี่ย์สินะ เพื่อนรักที่เพิ่งมีครอบครัวไป
“ฮ่าๆๆ ไป!!!” ไทเลอร์หัวเราะลั่นก่อนจะออกคำสั่งสุดท้าย พร้อมกับชักสีหน้าตึงใส่
“ไปไกลๆ เลยอัลเฟรด รีบไปทำตามหน้าที่” ไทเลอร์ขึ้นเสียงเข้มเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้อัลเฟรดรีบออกไปจากห้อง เมื่อเห็นแววตาดุของเจ้านายอัลเฟรดก็รีบออกไปจากห้องทันที แถมด้วยการทิ้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์รู้ทันใส่เจ้านายอีก
“มีใครอยากกวนประสาทเหมือนอัลเฟรดไหม จะได้ให้ตามอัลเฟรดไปทำงานด้วย ชักจะรำคาญ” ดูเหมือนว่าไทเลอร์กำลังหาเรื่องลูกน้องคนอื่น
“ไม่มีครับคุณไทเลอร์ เราประชุมต่อกันเลยได้” เจมส์เอ่ยขึ้น
“ก็ดี คุยเรื่องงานกันต่อ แล้วจะได้แบ่งงานกันทำ เสร็จเร็วจะได้พักผ่อนเร็ว”
“งั้นก็คุยกันเลยครับเจ้านาย” ลูกน้องอีกคนแทรกขึ้น
“สำหรับบอร์ดี้การ์ด ตอนนี้มีแค่หน้าที่อารักขารถเท่านั้น ยืนประกบไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าใกล้จนเกินไปนัก เพราะรถมันราคาแพง แต่ถ้ามีลูกค้าคนไหนสนใจเราก็เปิดทางให้เขาได้”
“จะไม่ดูว่าเราหวงรถเกินไปเหรอครับ”
“มันก็เป็นอย่างนั้นทุกครั้งนี่ อีกอย่างรถเราราคาเป็นล้าน ไปจนถึงสิบล้าน ไม่หวงก็บ้าแล้ว แค่ระวังไม่ให้เป็นรอยเท่านั้นแหละ”
“ครับผม แล้วนอกจากรถเราต้องอารักขาอย่างอื่นด้วยไหมครับ” ลูกน้องอีกคนถามด้วยความสงสัย
“อารักขานางแบบไง กันไม่ให้พวกหื่นๆ ถึงเนื้อถึงตัวจนเกินไปจนน่าเกลียด ทั้งที่เรารู้ว่ามันป้องกันได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ก็มองนางแบบมากกว่ารถเสียอีก แต่เราต้องดูแลความปลอดภัยให้พวกเธอ”
“พวกเธอทำงานประเภทนี้ ก็ย่อมจะต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่ครับ ไม่เห็นต้องดูแลอะไรมากเลย อีกอย่างคงเอาตัวรอดได้สบาย” เจมส์ให้ความเห็นเช่นกัน
“ก็จริงที่พวกเธอเต็มใจ แต่ฉันไม่อยากให้คนภายนอกที่มองเข้ามาแล้วเห็นคนของฉัน ยอมให้แขกถึงเนื้อถึงตัว มันจะทำให้คนอื่นมองว่าง่าย ขายรถพร้อมกับตุ๊กตา รถราคาแพงก็ต้องทำตัวให้มีราคาแพงด้วย ฉันหวังดีหรอกนะไม่อยากให้ใครดูถูก ทั้งคนและรถ เพราะไม่อย่างนั้นรถของเรามันก็กลายเป็นแค่รถเด็กเล่น จริงไหม” ไทเลอร์ไม่อยากดูถูกใครว่าต่ำกว่าตัวเอง หรือไม่อยากมองว่าผู้หญิงเอาตัวแลกเงินโดยใช้งานบังหน้า และไม่ต้องการให้ใครทำตัวต่ำต้อยให้คนอื่นดูแคลน ฉะนั้นมันคือข้อห้ามและต้องดูแลคนของตัวเองให้ดีที่สุด
“เข้าใจแล้วครับ คาดว่าคนของเราน่าจะพอ รวมทั้งงานร้อยกว่าคนได้ไหมครับ”
“ได้ แต่หาสตาร์ฟเพิ่มด้วย เรื่องสถานที่ไปจัดเตรียมให้เรียบร้อย คาดว่าค่ายดังๆ น่าจะเริ่มไปจัดบูธกันแล้วล่ะ ระดมคนของเราไปได้เลย ต้องใช้เวลานานไหม”
“คาดว่าไม่นานครับเจ้านาย” เจมส์ตอบน้ำเสียงเรียบ
“หนึ่งอาทิตย์ทันหรือเปล่า” เมื่อตอบว่าไม่นาน ไทเลอร์จึงระบุเวลาเสียเลย
“หนึ่ง... หนึ่งอาทิตย์ ไม่... ไม่ทันมั้งครับ” เจมส์ตกใจและอึกอักไม่น้อยเพราะหนึ่งอาทิตย์มันเร็วเกินไป
“รู้ได้ยังไงว่าไม่ทัน ยังไม่ได้ลงมือทำเลย คนของเราก็พร้อมแล้ว มือโปรทั้งนั้น หนึ่งอาทิตย์เอาให้เสร็จจากนั้นเราต้องเผื่อเวลาเพื่อโปรโมทและหานางแบบ อีกทั้งต้องเตรียมอะไรหลายๆ อย่างให้พวกเธอไม่ใช่เหรอ”
“ครับคุณไทเลอร์ ผมจะพยายามให้เต็มที่” เจมส์ตอบ
“ดีมาก ไม่มีอะไรเกินความสามารถของเราไปได้หรอก รออัลเฟรด กลับมาตอนเย็น ส่วนเจมส์กับเจสซี่ รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม จัดทีมของตัวเองแบ่งงานกันได้เลย”
“ครับผม” ทุกคนรับคำพร้อมกัน แบบไม่มีข้อโต้แย้งเพราะคนที่สามารถโต้แย้งหรือออกเสียงได้มีเพียงอัลเฟรดคนเดียว แม้กระทั่งเจมส์ก็ไม่กล้าเพราะเป็นเพียงเลขานุการเท่านั้น
“มีอะไรสงสัยอยากถามอีกไหม ฉันจะไปพัก”
“ไม่มีแล้วครับเจ้านาย เดี๋ยวผมจัดการแบ่งทีมให้เรียบร้อยไม่ต้องห่วง แล้วพรุ่งนี้ไปทำงานได้เลย” เจมส์บอกอย่างหนักแน่น
“ดีมาก ถ้าเป็นอัลเฟรดนะ กวนประสาทฉันอยู่เรื่อยกว่าจะได้งาน เอาล่ะคุยกันต่อก็แล้วกัน วันนี้เครียดทั้งวันปวดหัว จะกลับคอนโด”
“ครับ” ทุกคนรับคำพร้อมกัน จากนั้นไทเลอร์จึงได้ออกไปจากห้องประชุมแล้วให้บอดี้การ์ดส่วนหนึ่ง ตามกลับไปที่คอนโดมิเนียมส่วนตัวสุดหรู ส่วนเจมส์และเจสซี่อีกทั้งทีมงานทั้งหมดได้ประชุมกันต่อ