ตอนที่ 1
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ท่านประธาน
กระหายสวาท
มกราคม พุทธศักราช 2564
ที่โรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือไอโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ ‘ธำรงค์’ ชายวัยสี่สิบปีผู้เป็นเจ้าของโรงแรมต้องเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู เมื่อเห็นชื่อของเพื่อนรักปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“เฮ้ย… ไอ้นันต์… วันนี้นึกยังไงโทรมาหากู”
ธำรงค์กรอกเสียงทักทายไปยังต้นสายด้วยสรรพนามที่สนิทสนม
“สวัสดีเพื่อน… กูมีเรื่องให้มึงช่วยหน่อย”
‘อนันต์’ กล่าวไม่อ้อม ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่ามึงกูเพราะความสนิทสนมคุ้นเคยกันมานาน
“มีอะไรว่ามาเลยเพื่อน… ”
ธำรงค์พร้อมจะช่วย
“ยัยแพรลูกสาวกูกำลังหาที่ฝึกงาน… กูอยากให้มาฝึกที่โรงแรมมึงได้ไหมวะ จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลลูกสาวให้กูด้วย… ”
อนันต์บอกธุระที่ทำให้ต้องโทรมา เรียกชื่อลูกสาวสั้นๆ ว่า ‘แพร’ ชื่อจริงคือ ‘แพรลดา’
“แหมเรื่องแค่นี้เอง ได้เลยเพื่อน”
ธำรงค์ไม่ขัดข้อง
“ตอนนี้ยัยแพรลูกสาวกูเรียนมหาลัยฯ ใกล้จบแล้ว… ”
“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เผลอไม่กี่ปีหนูแพรกำลังจะเรียนจบแล้วหรือนี่… ”
ธำรงค์กล่าว…
ภาพเมื่อหลายปีก่อนของเด็กสาวใบหน้าสะสวย ผิวขาว ตาคม ผมยาว จมูกโด่ง ใบหน้ารูปไข่ ผุดเข้ามาในความทรงจำของธำรงค์อีกครั้ง เขาไม่เคยลืมเด็กหญิงผู้น่ารักคนนี้
“ใช่… ตอนนี้ยัยแพรกำลังเรียนอยู่ชั้นปีสี่… ปีสุดท้ายแล้ว… อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว”
อนันต์ตอบ
“หนูแพรเรียนสาขาอะไร”
ที่ต้องถามก็เพราะธำรงค์คิดว่าจะได้ให้ฝึกงานในแผนกที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่หล่อนเรียนมา
“เรียนเลขา… ”
อนันต์ตอบ
“ถ้าหนูแพรเรียนมาทางด้านเลขา… งั้นก็มาฝึกงานกับกูตรงโดยตรงจะดีกว่า ตอนนี้เลขาคนเก่าของกูเพิ่งลาออกไปทำกิจการส่วนตัว… ”
ธำรงค์คิดว่าจะได้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อนรักได้อย่างใกล้ชิด ช่างบังเอิญว่าตอนนี้เขากำลังจะประกาศรับสมัครเลขาคนใหม่อยู่พอดี
“ดีเหมือนกัน… ขอบใจมากนะเพื่อน งั้นอาทิตย์หน้าจะให้ยัยแพรเข้าไปฝึกงานที่โรงแรม ว่าแต่ยัยแพรยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน… กลัวว่าจะช่วยงานแกไม่ได้อย่างที่หวัง… ”
อนันต์รีบออกตัว
“ไม่เป็นไร… เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง หนูแพรเรียนมาทางนี้ฝึกได้ไม่ยาก… ”
“ขอบใจมากธำรงค์… ฝากด้วยนะเพื่อน… ”
น้ำเสียงของอนันต์โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนจะได้ฝึกงานในโรงแรมใหญ่ของเพื่อนรัก
“แล้วมึงเป็นไงบ้างวะ กิจการไร่กาแฟเป็นยังไงบ้าง… ”
ธำรงค์ถาม…
แม้ทุกวันนี้อนันต์มีไร่กาแฟและไร่ส้มอยู่ในจังหวัดเชียงราย แต่ฐานะก็ยังเทียบไม่ได้กับธำรงค์ที่เป็นเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ทอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดท่องเที่ยวหลายที่ในประเทศ
“กิจการไร่กาแฟไปได้ดีเลยว่ะ ปีนี้ส่งออกเมล็ดกาแฟได้ตามเป้าที่ตั้งไว้… ”
“เยี่ยมเลยเพื่อน… เอาไว้ว่างๆ กูจะแวะไปเที่ยวหา… ”
“มาเลย… กูอยากเจอมึงเหมือนกัน… นานแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน… ”
พูดคุยกันต่อมาอีกครู่สั้นๆ ก็กดวางสาย
ในเวลาต่อมา
ภายหลังวางสายสนทนาจากธำรงค์ได้ไม่นาน อนันต์ก็โทรหาลูกสาวของตนในทันที
“ยัยแพร… ตอนนี้พ่อหาที่ฝึกงานให้แกได้แล้วนะ… ”
อนันต์บอกข่าวดีในทันทีที่หญิงสาวกดรับสาย แพรลดากำลังหาข้อมูลของบริษัทที่รับนักศึกษาฝึกงานอยู่เช่นกัน
“ที่ไหนคะคุณพ่อ… ”
แพรลดารู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าบิดาของตนจะหาที่ฝึกงานได้เร็วขนาดนี้
“โรงแรมของเพื่อนพ่อเอง… ”
อนันต์ตอบ
“โรงแรมของเพื่อนคุณพ่ออยู่ที่ไหนคะ… ”
ความหวังว่าจะได้ลงไปฝึกงานในกรุงเทพฯ ของแพรลดา มีแววว่ากำลังจะดับวูบ
“โรงแรมอยู่ที่เชียงใหม่นี่แหละ… แกจะได้ไม่ต้องไปฝึกงานไกลถึงกรุงเทพฯ… ”
อนันต์บอกชื่อของโรงแรมกับลูกสาว แพรลดารู้จักโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าเจ้าของโรงแรมเป็นเพื่อนกับบิดาของตน
“เดี๋ยวไปฝึกงานกับลุงธำรงค์… ”
อนันต์กล่าวเสียงเข้ม เพราะรู้ว่าลูกสาวของตนนั้นอยากลงไปฝึกงานที่กรุงเทพฯ
“อันที่จริงหนูอยากไปฝึกงานที่กรุงเทพฯ… ”
หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อน ก่อนที่เสียงเข้มของบิดาจะตอบกลับมา
“ไม่ได้… ไปอยู่ไกลหูไกลตาพ่อเป็นห่วง สรุปว่าฝึกงานที่โรงแรมของเพื่อนพ่อนี่แหละ… ลุงธำรงค์ใจดี”
“ลุงธำรงค์… อืมมม… หนูเคยเห็นไหมคะ”
หญิงสาวรู้สึกคุ้นชื่อ
“เคยเมื่อนานมาแล้ว เมื่อเจ็ดหรือแปดปีที่แล้วลุงธำรงค์เคยแวะมาที่ไร่กาแฟของเรา… ”
อนันต์กล่าว
“อ๋อ… หนูนึกออกแล้วค่ะ ลุงธำรงค์ที่ตัวใหญ่ๆ หน้าเข้มมีหนวดมีเคราหล่อคล้ายแขกใช่ไหมคะ… ”
แพรลดาย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นหล่อนอายุเพียงแค่สิบสี่ปีเท่านั้น กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่สี่ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย
ที่จำได้ก็เพราะว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของหล่อนพอดี ลุงธำรงค์แวะมาพร้อมกับของขวัญคือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ตอนนี้แพรลดายังเก็บไว้ในห้องนอน
“ใช่… คนนี้แหละ ความจำดีนะเรา”
อนันต์ไม่คิดว่าลูกสาวของตนจะยังจำได้ทั้งที่เหตุการณ์ก็ผ่านมาหลายปี