อีกสัปดาห์ต่อมา
เมื่อถึงวันฝึกงาน แพรลดามาถึงโรงแรมตั้งแต่เช้า หล่อนเข้ามาที่ออฟฟิศตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมเพื่อรอพบหัวหน้าฝ่ายบุคคลตามที่ได้นัดหมายกันไว้
“หนูแพรใช่ไหมจ๊ะ… ”
‘ลินดา’ สาวใหญ่วัยสามสิบห้าปี ผิวขาว รูปร่างอวบเอ่ย ถามเมื่อเจอหน้าแพรลดาที่กำลังนั่งรออยู่ในห้องรับแขกบริเวณด้านหน้าของออฟฟิศ
“ใช่ค่ะ… สวัสดีค่ะ… หนูมาฝึกงานค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับยื่นเอกสารส่งตัวจากมหาวิทยาลัยเพื่อเข้ารับการฝึกงานในครั้งนี้
“จ้ะ… บอสบอกไว้แล้ว… เรียกพี่ว่าพี่ดาก็ได้ หนูมาแต่เช้าเชียว ทานข้าวมาหรือยังจ๊ะ… ”
ลินดากล่าว น้ำเสียงบ่งบอกว่าเป็นคนใจดี
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ดา… ”
หญิงสาวตอบ
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่จะพาขึ้นไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน… ตามพี่มาจ้ะ… ”
ลินดาพาแพรลดาเดินผ่านห้องทำงานในส่วนที่เป็นออฟฟิศสำนักงานเข้ามาถึงลิฟท์ที่อยู่ด้านในเพื่อพาหญิงสาวไปส่งยังห้องทำงานตามที่ธำรงค์ได้สั่งเอาไว้
“ห้องทำงานของบอสอยู่ชั้นบนสุดจ้ะ”
ในทันทีที่บานประตูสีเงินแยกออกจากกัน สาวใหญ่หัวหน้าแผนกบุคคลเดินนำเข้าไปในลิฟท์ เพียงครู่สั้นๆ ก็ขึ้นมาถึงห้องของท่านประธาน
ลินดาผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ…
หญิงสาวก้าวตามเข้ามาภายในห้องทำงานกว้าง มีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของท่านประธานตั้งอยู่กลางห้อง อีกโต๊ะเป็นของเลขา
“นี่คือโต๊ะทำงานของหนูจ้ะ… ”
“ขอบคุณค่ะ… ”
“บอสจะเข้ามาสายๆ… เดี๋ยวบอสจะสอนงานหนูเอง… ถ้าสงสัยอะไรก็โทรมาถามพี่นะจ๊ะ”
“ค่ะ… ขอบคุณค่ะพี่ดา… ”
แพรลดาพยักหน้ารับ รู้สึกตื่นเต้นกับการฝึกงานในวันแรก
ในเวลาต่อมา
นาฬิกาไม้สีน้ำตาลทรงสูงแบบตุ้มถ่วงที่ตั้งเอาไว้ข้างโต๊ะทำงานของธำรงค์บอกเวลาเก้าโมงครึ่ง ในขณะที่แพรลดากำลังนั่งดูเอกสารในแฟ้มของตัวเองเพลินๆ จู่ๆ บานประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายผู้เป็นเจ้าของห้อง
“สวัสดีจ้ะสาวน้อย… ว้าว… ไม่ได้เจอกันเจ็ดปีโตเป็นสาวสวยเชียว… ”
ธำรงค์ตะลึงมองหญิงสาวในชุดนักศึกษา นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานที่เขาจัดเตรียมไว้ให้
“สวัสดีค่ะ… เอ่อ จะให้หนูเรียกบอสหรือเรียกท่านประธานคะ… ”
แพรลดายกมือไหว้ เรียกเจ้าของโรงแรมตามที่ได้ยินหัวหน้าแผนกบุคคลเรียก ตะลึงมองในความหล่อเหลาของธำรงค์
จากเมื่อหลายปีก่อนที่เคยได้เจอกัน ถึงตอนนี้ก็แทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เขายังดูหนุ่มมาก รูปร่างสูงใหญ่สุดสมาร์ทอยู่ในชุดสูทสีครามน้ำทะเล
“เรียกลุงดีกว่า… ไม่ต้องเรียกบอส… จะได้ฟังดูเป็นกันเอง… ”
ธำรงค์กล่าว
“ค่ะคุณลุง… ”
แพรลดาออกอาการเกร็งจนเห็นได้ชัด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนมองสบตาท่านประธานแล้วทำไมจึงเกิดอาการหัวใจเต้นแรง
“ไม่ต้องเกร็งนะ… แล้วจะสนุกกับงาน”
ธำรงค์มองเห็นอาการประหม่า เดินไปหยิบแฟ้มงานของเลขาคนเก่าเอามาให้แพรลดาเปิดดู จากนั้นก็อธิบายว่าในแต่ละวันนั้นเขาทำอะไรบ้าง
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แพรลดาเรียนรู้งานในหน้าที่ความรับผิดชอบของเลขานุการได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับคำชมจากธำรงค์บ่อยๆ
ทั้งเรื่องดูแลรับผิดชอบจดหมายเข้าจดหมายออก โทรศัพท์ติดต่องาน รับโทรศัพท์และจัดการนัดหมายให้กับผู้เป็นนายอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
งานในสัปดาห์แรกผ่านไปอย่างราบรื่น กระทั่งเย็นของวันศุกร์กลางเดือนก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาจนได้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของหลายๆ อย่าง เมื่อแพรลดาลืมของไว้ที่ทำงาน ทำให้หล่อนต้องย้อนกลับเข้ามาที่โรงแรมอีกครั้ง
เวลาทุ่มกว่าๆ…
หญิงสาวขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งเป็นห้องทำงาน เมื่อเดินออกจากลิฟท์ก็ก้าวตรงมาที่หน้าห้องในทันที
หล่อนยืนอยู่หน้าประตู ล้วงเอากุญแจที่ธำรงค์ให้ไว้ออกมาไขประตูแล้วผลักเข้ามาเบาๆ เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะทำงาน ดีใจที่เห็นว่ากระเป๋าสตางค์ที่ลืมไว้บนโต๊ะยังอยู่ที่เดิม
และในขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินออกมา จู่ๆ ประตูห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องทำงานก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของคนที่อยู่ในห้องน้ำ
“ว้ายยย… คุณลุง… ”
แพรลดาอุทานออกมาด้วยความตกใจ…
ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในห้องน้ำ และสิ่งที่ทำเอาหล่อนตะลึง ร้องอุทานออกมาเสียงดังลั่นก็เพราะว่าธำรงค์ไม่ได้ออกมาในสภาพปกติ แต่เขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้ามยังพราวไปด้วยคราบน้ำเหมือนคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ
“หนูแพร… ”
ธำรงค์รู้สึกตกใจไม่ต่างกัน…
พอหายตะลึงและนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้าก็รีบหันกลับไปคว้าผ้าขนหนูเอามาคาดเอว
“ลุงขอโทษนะ… ไม่คิดว่าจะใครเข้ามา”
ธำรงค์หัวเราะเขินๆ เพราะไม่คิดว่าเวลานี้จะมีใครเข้ามา
“เอ่อ… ค่ะ… คือ… หนู… ลืม… เอ่อ… ลืมกระเป๋าสตางค์ค่ะก็เลยกลับมาเอา”
แพรลดากล่าวตะกุกตะกัก ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในห้องเหมือนกัน
“จ้ะ… ”
ธำรงค์กล่าวเขินๆ…
รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะอวดของดีเมื่อครู่ เรื่องนี้ไม่มีใครตั้งใจ แต่หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้วเขากลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตะลึงมองน้องชายของเขาตาไม่กะพริบซ้ำยังออกอาการเขินอายจนแก้มแดงเรื่อ