ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปข้างในคอนโด ผ่านสายตาของบรรดาคนที่รู้จักมักจี่ ถึงวีรกรรมการแสดงของแม่นางร้ายตัวดี แต่ซีลีนาก็ไม่ยี่หระต่อสายตาอยากรู้อยากเห็นของใครต่อใครทั้งนั้น ประมาณว่าช่างมันฉันไม่แคร์ ไม่ใช่พ่อใช่แม่ตูนี่หว่า และอีกอย่าง เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด
ชายหนุ่มและหญิงสาวอาศัยลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นห้าที่เป็นห้องพักหรูหราของสาวเจ้า เมื่อมาถึงหน้าห้องเป้าหมาย ซีลีนาก็ชำเลืองมองชายหนุ่มเพียงเล็กน้อย ครั้นเห็นว่าเขาไม่ได้มีวี่แววกังวลหรือสงสัยใดๆ จึงไขกุญแจเข้าไปในห้อง
แสงสว่างเปิดพรึบขึ้นมาทันทีที่เจ้าของห้องพาแขกพิเศษเข้ามาข้างใน และคนที่เปิดไฟก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นคนที่นั่งรอซีลีนามาตลอดทั้งคืนนั่นเอง
“ทำไมเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ซินนี่” หญิงสูงวัยที่หน้าตาออกไปทางไทยแท้ ซึ่งยังมีเค้าความสวยคมอยู่มาก เอ่ยปากถามบุตรสาวทันที แม้จะเห็นว่ามีใครอีกคนที่หลงเข้ามาในห้องนี้ด้วยก็ตาม
“ซินนี่ติดงานของช่อง แล้วก็แวะไปหายัยพวงชมพู ก็เลยเพิ่งกลับมาถึง ทำไมแม่ยังไม่นอนอีกล่ะ” เธอตอบคำถามไป ก่อนจะย้อนถามอีกฝ่าย ด้วยไม่อยากให้มารดา ต้องอดหลับอดนอนรอเธอกลับห้องตลอดเวลาแบบนี้ แต่ยิ่งห้ามเท่าไหร่ท่านก็ไม่ฟัง แต่จะทำไงได้ เหลือกันแค่สองคนแม่ลูกแล้วนี่ ถ้าแม่ไม่ห่วงเธอ แล้วจะให้ท่านห่วงใครกันล่ะ
นางกรุณาไม่ตอบคำถาม แต่กลับปรายตามองไปยังบุรุษหนุ่ม ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ข้างลูกสาวตัวดีของเธอ ครั้นชายหนุ่มเห็นสายตาที่มองมาด้วยความสงสัย จึงได้ยกมือไหว้และทำความเคารพตามแบบฉบับคนไทย
“สวัสดีครับ” เอ็ดเวิร์ดทักทายหญิงผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคนที่พาเขามา ผิดกันแค่ว่าคนหนึ่งหน้าไทยแท้ แต่อีกคนหน้าออกฝรั่ง
“ไหว้พระเถอะจ้ะ นั่งก่อนสิจ๊ะ ไปไงมาไง ถึงมาด้วยกันได้ดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับบ้านกลับช่องไปนอนล่ะพ่อคุณ” นางกรุณาเชื้อเชิญตามมารยาทที่ดี พร้อมทั้งเอ่ยถามคนรูปหล่อตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่ก็เหน็บแนมนิดๆ ไปในที ไม่เชิงว่าตำหนิฝ่ายชายคนเดียว ก็เผื่อแผ่ไปถึงลูกสาวของตนด้วยเช่นกัน ว่าสิ่งที่ทำมันไม่เหมาะสม
“พอดีผมเห็นว่าดึกแล้ว ผู้หญิงขับรถกลับบ้านคนเดียวมันอันตราย เลยอาสามาส่งซินนี่ครับ” คนมาเจอสถานการณ์ผิดคาด ตอบกลับผู้อาวุโสด้วยความนอบน้อม แม้จะหงุดหงิดสักเพียงใด ก็ไม่คิดแสดงอาการให้ผู้หลักผู้ใหญ่เห็น ไม่ใช่ว่าเป็นการทำคะแนน ก็แค่…รักษามารยาท มั้ง
“งั้นหรอกหรือ แล้วไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ หรือเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แม่ไม่ยักเคยเห็นซินนี่พาเพื่อนคนไหนมาที่คอนโดนี่สักที”
ข้อมูลที่ได้ฟังจากหญิงอีกคน ทำเอาชายหนุ่มหันไปมองหน้าเธออย่างอึ้งๆ นี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่เขามองพลาดไป คิดว่าหญิงสาวจะพาใครไปมาไม่เว้นว่างเสียอีก และก็ไม่คิดด้วยว่าเธอจะอาศัยอยู่กับมารดา
ดูภาพลักษณ์ภายนอก เหมือนผู้หญิงซิ่งๆ แรงๆ เหวี่ยงๆ และไม่ค่อยแคร์อะไร แต่ทำไมกลายเป็นสาวพูดน้อย หงิมๆ ติ๋มๆ เสียได้ ยามอยู่ภายใต้สายตาของผู้เป็นบุพการี นี่ความสามารถในการคาดเดาลักษณะผู้หญิงของเขาผิดเพี้ยนไปขนาดนี้เชียวหรือ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าเขารู้สึกดีใจมากมายเลยทีเดียว ที่เธอไม่ได้พาใครมาที่ห้องนี้มาก่อน แต่ก็นั่นแหละนะ รู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีลับหลังผู้หลักผู้ใหญ่ หญิงสาวอาจไปทำอะไรกับใครที่ไหนก็ได้ใครจะรู้
“เราเจอกันที่ร้านพี่วิทย์น่ะแม่” ซีลีนาเอ่ยออกมาสั้นๆ ด้วยไม่รู้ว่าควรแนะนำเขาให้มารดารู้จักในลักษณะหรือสถานะไหน
“ผมชื่อเอ็ดเวิร์ดครับ เป็นเพื่อนของไววิทย์” ชายหนุ่มชักไม่แน่ใจ ว่าระหว่างเพื่อนเขากับสาวเจ้า มีความสัมพันธ์กันในขั้นไหน แต่เมื่อเห็นสายตายินดีของผู้สูงวัยจึงรู้ว่าตัดสินใจถูกที่แนะนำตัวเองไปแบบนั้น
“อ้อ เพื่อนนายวิทย์หรอกหรือ แม่ก็นึกว่ายัยซินนี่ไปพาพระเอกละครคนใหม่มาเสียอีก ดีแล้วล่ะลูก รู้ว่าเป็นเพื่อนนายวิทย์แม่ก็สบายใจ”
ข้อมูลใหม่อีกแล้ว พระเอกละคร? เธอทำงานอะไรกันนะ นายวิทย์ไม่เห็นจะเล่ารายละเอียดอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ให้เขาฟังบ้าง แค่พามาแนะนำให้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของกันและกันแค่นั้น แล้วเขาก็เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยได้ไม่กี่วัน ไม่ได้รู้จักดาราเมืองไทยคนไหนเลย
“ครับ”
“ซินนี่ไปหาน้ำหาท่ามาให้พี่เขากินสิลูก แม่ก็คุยเพลินจนลืมไปเลย ขอโทษทีนะคะคุณ” นางกรุณาหันมาหาเพื่อขอโทษขอโพยชายหนุ่มอีกครั้ง ครั้นนึกได้ว่าบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ดี ไม่มีแม้แต่น้ำเปล่ารับแขก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเรียบร้อยมาแล้ว เรียกผมว่าเอ็ดดี้ก็ได้ครับ” ชายหนุ่มสนทนากับคนที่ให้ความเป็นกันเองกับเขาด้วยความสบายใจ ไม่ได้มีสาวนอนกอดอย่างที่หวัง เพราะวิมานฉิมพลีถูกพังลงไม่เป็นท่า แต่ก็ไม่แย่เท่าไหร่ ที่ได้มาสนทนากับผู้หญิงที่มีบุคลิกคล้ายกับมารดาเขาเช่นนี้