นางมารร้าย บำเรอรัก

ตอนที่ 1 คนมีอดีต เสียงชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปรุ่นต่างๆ และแสงแฟลชที่สว่างวับไปแวมมา ไม่ได้สร้างความประหม่า ตื่นเต้น หรือตระหนกตกใจใดๆ ต่อหญิงสาวที่เดินเข้ามาในงาน Channel 1 Star Party ด้วยชุดเดรสสีส้มสดสายเดี่ยวคล้องคอ ความยาวของชุดหรูไล่ระดับจากด้านหน้าเหนือเข่า ไปจนถึงด้านหลังที่ยาวเลยเข่าเล็กน้อย เข้ากันกับทรงของกลุ่มผมสลวยสีน้ำตาลธรรมชาติ ที่ม้วนลอนจัดเยื้องปิดลำคอไว้ข้างหนึ่ง สีผมที่เปลี่ยนไปคงทำให้หลายๆ คน นึกไม่ถึง ว่าหญิงสาวผู้นี้จะทิ้งภาพแม่สาวผมทองสมัยเรียนออกไปจนหมด ผมจริงของเธอคือสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งมันเข้ากับเธอมากกว่า ไม่รู้ว่าช่วงที่เรียนในมหาวิทยาลัย คิดได้ยังไง ย้อมผมให้ทองจนเหลืองเป็นฝอยทองแบบนั้น มันไม่ได้เข้ากันกับผิวสีน้ำผึ้งของเธอสักนิด นอกจากจะจัดผมให้อวดลำคอยาวระหงไว้ข้างหนึ่งแล้ว หญิงสาวยังโชว์ความเนียนของแผ่นหลัง เพราะชุดที่เว้าลึกจนถึงเอว แต่ด้านหน้ากลับปกปิดเต้าทรวงในไว้ พอแค่เห็นริมๆ เนินอกปริ่มออกมา ให้สายตาของหนุ่มๆ หลายคู่ ได้ลุ้นจินตนาการเอาเอง ซีลีนา ลีวา เมขลาวัชรทิน ดารานักแสดงสมทบหญิงเจ้าบทบาทประจำช่อง 1 เธอตีบทแตกกระจุยและแสดงได้ดีทุกคาแรคเตอร์ จะฉากดราม่า หรือซีนอารมณ์เขย่าน้ำตา ก็ผ่านมาได้หมดในร้อยแปดพันฉาก ยกเว้นอย่างเดียว คือ บทบาทนางเอกเท่านั้นแหละ ที่ไม่เคยได้แสดงฝีมือ คงเพราะใบหน้าที่คม สวยเปรี้ยว โฉบเฉี่ยว ออกแนวลูกครึ่ง ด้วยเพราะมีสายเลือดผสมระหว่างไทยกับอเมริกัน และรูปร่างผอมโปร่งสูงเพรียว เลยดูไม่เหมาะกับบุคลิกนางเอก ที่คอละครส่วนใหญ่มักถูกใจคนขาวๆ หมวยๆ สวยๆ ใสๆ กระมัง ผลงานล่าสุดของเธอที่จบลงไป เป็นละครหลังข่าวภาคค่ำ ซึ่งหญิงสาวรับบทนางร้ายที่เชือดเฉือนกับนางเอกผู้สู้ชีวิตไม่ยอมคน เธอแสดงเป็นนางแบบสาวที่มีข่าวฉาวโฉ่ และคบผู้ชายไปทั่ว แต่มีคู่หมั้นแล้ว คือพระเอก และก็ตามมาตรฐานละครไทย พระเอกก็ต้องมารักนางเอก ทิ้งนางร้ายอย่างเธอให้แว้ดๆ ไปทั้งเรื่อง สุดท้ายนางร้ายก็อกหักไปตามระเบียบ แต่นั่นคือบทบาทในละคร เป็นงานที่เธอต้องทำ เพื่อหาเลี้ยงชีพ ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับที่เรียนจบมา ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ เธอต้องเลี้ยงตัวเองให้รอด ลองนั่งงอมืองอเท้าใช้เงินเป็นเบี้ยเหมือนสมัยก่อน ได้อดตายกันพอดี นึกย้อนไปถึงสมัยเรียน ในตอนนั้นชีวิตเธอไม่ลำบากลำบนอะไรเลย ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าไปวันๆ เข้าเรียนบ้าง ไม่เข้าบ้าง ตามอารมณ์ วันไหนรู้สึกเซ็งๆ ก็โน่นแน่ะ ไม่พารากอน ก็เซ็นทรัล นั่งดูหนัง หรือกินกาแฟชิลๆ จนมาถึงจุดเปลี่ยนเอาอีตอนที่เลิกกะผู้ชายนี่แหละ ไกรวุฒิ ผู้ชายคนแรกที่เธอยอมเรียกว่าแฟน เพราะด้วยก่อนนั้น แม้จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาวนเวียน เธอก็หาได้จริงใจ ให้ความหวังเพื่อบริหารเสน่ห์ไปอย่างงั้น แต่พอมาเจอคารมของนายไกรวุฒิที่เป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำเอาเธอเคลิ้มจนหลงเขาหัวปักหัวปำ กระทั่งเมื่อเรียนอยู่ปีสาม ใกล้ๆ ปลายเทอม จึงได้รู้ว่าตัวเองตาบอดสิ้นดี ที่โดนผู้ชายพรรค์นี้หลอกไปวันๆ หวังฟันเล่นสนุกๆ เกือบพลาดท่าเสียตัวตั้งหลายครั้ง แต่ก็เคราะห์ดีมีเหตุให้รอดตัวมาได้ ไม่งั้นก็คงสมน้ำหน้าตัวเองไปจนตาย เพราะเสียทั้งใจและตัว ให้กับคนชั่วๆ ที่ไม่รักจริง ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมห้องอย่าง อักษิพร และ พวงชมพู ซึ่งอดีตเคยเป็นศัตรูคู่อาฆาต ด้วยเพราะเธอหมั่นไส้ในความใสปนแอ๊บแบ๊วของทั้งคู่ จนเผลอมีเรื่องมีราวด้วยกันหลายครั้ง แต่แล้วความจริงคือทั้งสองช่วยเหลือเธอ จากการโดนผู้ชายหน้าตัวเมียคนนั้นทำร้าย นอกจากเธอจะหูตาสว่างจากผู้ชายคนที่ว่าแล้ว ทั้งสามยังได้กลายเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันในที่สุด ซึ่งในตอนนี้ อักษิพรหรือตาหวาน เพื่อนคนหนึ่งของเธอ ก็แต่งงานมีครอบครัวกับชายหนุ่มคนที่ตัวเองหลงรักมาตั้งแต่เด็กๆ จนมีลูกด้วยกันหนึ่งคน ชื่อ น้องต้นกล้า อายุปาเข้าไปใกล้ 3 ขวบ แล้ว เพื่อนเธอคนนี้ เรียนจบปุ๊บก็แต่งงานทันที แถมมีลูกปั๊บ มีลูกทันใจและเลี้ยงได้ทันใช้จริงๆ ต่างกันกับชีวิตในตอนนี้ของเธอ พวงชมพู อรนันท์ และ นุสรา ที่ยังโสดสนิท หรือเรียกง่ายๆ ตามภาษาที่คนชอบด่า หรือกระแนะกระแหนว่ากันก็คือ ยังหาผัวไม่ได้นั่นแหละ เพื่อนๆ ทั้งสามต่างก็มีหน้าที่การงานแตกต่างกันไปในวัยเบญจเพส แต่ยังคงติดต่อคบหา และพบปะสังสรรค์กันบ้างในยามว่างเว้นจากงานการอันยุ่งเหยิง รวมทั้งแวะไปเยี่ยมเยียนอักษิพรกับน้องต้นกล้าด้วยเช่นกัน ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรมากเลย เกิด เติบโต เรียน ทำงาน อีกประเดี๋ยวก็คงแก่ และตายในที่สุด ซีลีนาเพิ่งรู้ตัวเมื่อเข้าสู่วัยทำงานนี้เอง ว่าชีวิตคนเราไม่มีความแน่นอนอะไรเลย ยิ่งอยู่ในแวดวงสังคมดาราด้วยแล้ว ความไม่แน่นอน คือความแน่นอนของชีวิตเธอจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ช่องจะเลิกจ้าง ผู้จัดจะไม่ส่งบทละครมาให้ เอเจนซี่จะไม่ติดต่อไปงานอีเว้นท์ต่างๆ แล้ว หรือบริษัทโฆษณาจะไม่คว้าตัวเธอไปเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ความไม่แน่นอนทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ เธอต้องเผชิญกับมันตลอดเวลา